อินเดียใต้ 11 วัน 9 คืน (TG)
มนตราอินเดียใต้ เชนไน-กาญจีปุรัม-มหาพลีปุรัม-บุดุชเชรี่-ตัญชาวูร์-ติรุชชิราปปัลลิ- มธุไร-เตกาฏิ-คอททายัม-อลัปปูซา-ทะเลสาบเปริยาร์-โคชิน ดินแดนแห่งทมิฬนาฑูและเคราล่า อินเดียใต้ มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับคนไทยมากกว่าที่เราคิด คนไทยส่วนใหญ่จะคุ้นชินกับ เมืองนิวเดลี มุมไบ อัครา พาราณสี ลุ่มแม่น้ำคงคา-ยุมนา และ สังเวชนียสถาน ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในอินเดียตอนเหนือ หากแต่ความจริงแล้ว อินเดียใต้ต่างหากที่ได้ถ่ายทอดอารยะธรรม ให้แก่เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ “อุษาคเนย์” เทียบเคียงได้กับที่ชาวกรีกทิ้งไว้ให้กับอารยธรรมตะวันตกเลยที่เดียว ไม่ว่าจะเป็น ตัวอักษร ที่ ชวา บาหลี มอญ พม่า เขมร ไทย และลาว ต่างก็รับมาจากอักษรปัลลวะในอินเดียใต้ หรือการสร้างมหาเจดีย์บุโรพุทโธ หรือ ปราสาทหินนครวัดนครธม หรือปราสาทหินของอาราจักรจามปา (ในเวียดนาม) ที่ล่มสลายไปแล้ว ต่างก็รับอิทธิพลมาจากอินเดียใต้ทั้งสิ้น สำหรับประเทศไทย อารยะธรรมอินเดียเข้ามาอย่างชัดเจนเมื่อกษัตริย์แห่งรามราช (สันนิษฐานไว้ว่าคือเมืองราเมศวรัม) ในอินเดียใต้ส่งพราหมณ์มาถวายอยุธยา และพราหมณ์พวกนี้เองที่เป็นผู้นำลัทธิพิธีต่างๆ เข้ามาสู่ดินแดนอุษาคเนย์ แล้วผสมเข้ากับขนบวัฒนธรรมท้องถิ่นดั้งเดิม เช่น พิธีโล้ชิงช้า ที่นำมาจากวัฒนธรรมโล้ชิงช้าใหญ่ของชาวอุษาคเนย์ดั้งเดิมเอามาผนวกกับพิธีตรียัมปวายของพราหมณ์ (ซึ่งในอินเดียไม่มีพราหมณ์ขึ้นไปโล้ชิงช้า) พิธีโล้ชิงช้าในไทยจึงเป็นหลักฐานการผสมผสานทางวัฒนธรรมได้เป็นอย่างดี **เทวสถานในอินเดียใต้จะเปิดแต่เช้ามืด ถึงเที่ยง ปิดพักกลางวันถึงราวสี่โมงเย็น และเปิดอีกครั้งตั้งแต่สี่โมงเย็นถึงสองหรือสามทุ่ม ดังนั้นการวางแผนเที่ยวในอินเดียใต้จึงจะเข้าชมเทวาลัยต่างๆ ในช่วงเช้าหรือเย็น และใช้เวลาเดินทางระหว่างเมือง หรือเข้าชมพิพิธภัณฑ์ หรือโบราณสถานอื่นๆ ในช่วงบ่าย**
-/
มอสโคว์-มูรมันสก์-แสงเหนือ 7 วัน 5 คืน (TG)
ตามล่าหาแสงเหนือ Aurora Hunting ชมปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอันสวยงาม สนุกกับการขับรถสโนโมบิลตะลุยหิมะ นั่งรถลากเลื่อน โดย สุนัขไซบีเรียน ฮัสกี้ที่ Husky Farm และกวางเรนเดียที่ Sami Village เที่ยวจุใจมอสโคว์ ซากรอส์
14 - 20 กุมภาพันธ์ 2561/
07 – 13 มีนาคม 2563/
ทรานไซบีเรีย – ทะเลสาบน้ำแข็งไบคาล 10 วัน 9 คืน (S7)
สำรวจ Trans Siberia- Blue Ice Baikal 10 Days โนโวซีบิสค์-ลิสท์เวียงก้า-เกาะโอล์คฮอน-เอียคุตส์ - สัมผัสประสบการณ์ขึ้นรถไฟสายทรานไซบีเรีย ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นสายรถไฟที่ยาวที่สุดในโลก - สัมผัสประสบการณ์ตะลุยทะเลสาบน้ำแข็ง นั่งเรือ HOVERCRAFT บนทะเลสาบไบคาล ซึงเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ลึกที่สุดในโลก - ชม BLUE ICE น้ำแข็งที่มีสีฟ้าแกมสีเขียวเหมือนมรกต ชมความมหัศจรรย์ที่จะเห็นได้เฉพาะในฤดูหนาวเท่านั้น มีให้เห็นเพียง 40 วันในรอบหนึ่งปี!!! - ชมเกาะโอลค์ฮอน เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุด จากทั้งหมด 27 เกาะของทะเลสาบไบคาล - แวะเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของเส้นทางนี้ อาทิ สถานีรถไฟโนโวซีบิสค์ (Novosibirsk Station) เป็นสถานีรถไฟใหญ่ที่สุดของเส้นทางรถไฟทรานส์ไซบีเรีย - พักโรงแรมดี มาตรฐาน 4 ดาว - นอนตู้นอนรถไฟ 2 ท่านต่อห้อง