หากใครได้ไปรัสเซียคงต้องมีของฝากติดไม้ติดมือกลับมา แต่ถ้าไม่รู้ว่าจะซื้ออะไรดี เราขอแนะนำ “ตุ๊กตาแม่ลูกดก” หรือที่ชาวรัสเซียเรียกว่า “มาโตรชก้า” (Matryoshka) หรือบ้างก็เรียกว่า Nesting Dolls เป็นตุ๊กตาของรัสเซีย นอกจากจะเป็นขอฝากยอดฮิตของรัสเซียแล้ว ยังมีความหมายดีๆ ที่หมายถึง “สัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์และความมีชีวิตยืนยาว” ตุ๊กตาแม่ลูกดก ได้แนวคิดมาจาก ตุ๊กตาเทพเจ้า “ฟุกุโระกุจู” (Fukurokuju – 福禄寿) เทพเจ้าแห่งความสุข ผู้เป็น 1 ใน 7 เทพเจ้าแห่งความโชคดี ตามคติความเชื่อแบบญี่ปุ่น เพราะในตัวของตุ๊กตาเทพเจ้าฟุกุโระกุจูนั้น ยังมีกลุ่มตุ๊กตาเทพเจ้าอีก 6 องค์ซ่อนไว้อยู่ภายในเป็นชั้นๆ และนับเป็นของฝากอันดับแรกๆเมื่อเดินทางไปเยือนรัสเซีย
หากได้มีโอกาสเดินทางมาที่ประเทศรัสเซียแล้ว พลาดไม่ได้เลยที่จะหาแหล่งช็อปปิ้งเพื่อสัมผัสกับมนต์เสน่ห์ความเป็นพื้นเมืองของคนที่นี่ วันนี้เราจะพามารู้จักกับสถานที่สุดฮิตในย่านกรุงมอสโก ที่นี่คือ ย่านถนนอาราบัท (Arabat Road) แหล่งรวบรวมมนต์เสน่ห์พื้นเมืองของประเทศรัสเซียนั่นเอง
พระราชวังฤดูร้อนเปโตรวาเรส หรือปีเตอร์ฮอฟ (Peterhof Palace) ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลบอลติก ที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก นับว่าเป็นหนึ่งในสุดยอดพระราชวังที่มีสถาปัตยกรรมที่ดีที่สุดในโลก และมีความงดงามอลังการจนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของประเทศรัสเซีย ที่หากมาเยือนที่รัสเซียแล้วไม่ควรพลาดที่พระราชวังเปโตรวาเรสแห่งนี้เลย
เมืองเอียร์คุตก์ Irkurtsk เป็นเมืองที่สำคัญที่สุดในเขตไซบีเรียตอนใต้ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของทะเลสาบไบคาล เป็นศูนย์กลางการติดต่อค้าขายระหว่างรัสเซียตะวันตก จีน มองโกเลีย และทิเบตเป็นประตูหน้าด่านที่จะไปทะเลสาบไบคาล เป็นเมืองที่ก่อตั้งโดย อิวาน โปคาบอฟ Ivan Pokhabov ในปี ค.ศ.1652 เพื่อเป็นแหล่งซื้อขายทองคำและขนสัตว์
ทะเลสาบไบคาล (Lake Baikal) ขึ้นชื่อว่าเป็นทะเลสาบที่เก่าแก่และลึกที่สุดในโลก! อยู่ที่ประเทศรัสเซีย และทะเลสาบไบคาลมีความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่จะเกิดขึ้นเฉพาะในฤดูหนาว “ทะเลสาบทั้งผืนกลายเป็นน้ำแข็ง”
มหาวิหารเซนต์บาซิล (Saint Basil’s Cathedral) หนึ่งในวิหารที่มีชื่อเสียงระดับโลก ด้วยสีสันและรูปลักษณ์ที่สวยแปลกตาไม่เหมือนวิหารที่อื่น โดยตั้งอยู่ที่บริเวณจัตุรัสแดง ในกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย วิหารแห่งนี้มีคำสั่งให้สร้างขึ้นในยุคของซาร์อีวานที่ 4 แห่งรัสเซีย หรือที่ได้ฉายาว่า ซาร์อีวานจอมโหด เพื่อฉลองชัยชนะเหนือกองกำลังมองโกลที่เมืองคาซาน เมื่อปี ค.ศ. 1552 (พ.ศ. 2095) จึงได้เริ่มสร้างวิหารแห่งนี้ขึ้นในปี ค.ศ. 1555 (พ.ศ. 2098)
โบสถ์หยดเลือด แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 2 ซึ่งสร้างบริเวณที่พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 2 ถูกลอบปลงพระชนม์ในปี คศ.1881