วันเดินทาง
23 พฤษภาคม - 02 มิถุนายน 2566
06 - 16 มิถุนายน 2566
25 กรกฎาคม - 04 สิงหาคม
สายการบิน

- ทัวร์ของเรา
- ทัวร์วันหยุดยาว
- เดือนกุมภาพันธ์
- เดือนมีนาคม
- เดือนเมษายน
- เดือนพฤษภาคม
- เดือนมิถุนายน
- เดือนกรกฎาคม
- ทัวร์ช่วงนี้
- Europe
ทัวร์โปรตุเกส พรีเมียมทัวร์โปรตุเกส 11 วัน 8 คืน
- ที่พักระดับมาตรฐาน 4 – 5ดาว อาหารดี Seafood – จีน – ไทย
- พิเศษ! ให้ท่านได้ชิมรสชาติขนมฝอยทอง และ ทาร์ตไข่ ณ ดินแดนต้นกำเนิด
- ลิสบอน เมืองหลวงประเทศโปรตุเกส ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งภูมิประเทศและสถาปัตยกรรม และยังเป็นเมืองที่มีอากาศอุ่นที่สุดในยุโรป
- ซินตร้า เมืองมรดกโลกทางด้านภูมิทัศน์วัฒนธรรม
- แหลมคาโบดา ร๊อค คา ทั้งอยู่สุดลายของทวีปยุโรปทางด้านทิศตะวันตก
- แฟโร เมืองทางใต้สุดของประเทศโปรตุเกส และยังเป็นเมืองท่าสำคัญของชาวมัวร์
- ลากอส เมืองชายหาดที่มีความเก่าแก่และสวยงามที่สุดในเขตแอลการ์ฟ
- ล่องเรือชมถ้ำเบนากิล เมืองลากัว สถานที่สุด Unseen ของโปรตุเกส
- นาซาเร่ เมืองตากอากาศที่สำคัญของประเทศโปรตุเกส ทั้งยังเป็นเมืองสวรรค์สำหรับนักโต้คลื่นจากทั่วโลก
- บาตาลยา เมืองเล็กกลางหุบเขา ชมโบสถ์บาตาลยา เป็นอีกหนึ่งเมืองมรดกโลกที่สำคัญของประเทศโปรตุเกส
- มอนซานโต หมู่บ้านที่ถูกสร้างแทรกไปตามก้อนหินขนาดใหญ่ และได้รับการโหวตให้เป็น “หมู่บ้านที่ดีที่สุด ในประเทศโปรตุเกส”
- ล่องเรือเมือง อาเวโร่ “เวนิส แห่งโปรตุเกส”
- ชมหมู่บ้าน Costa Nova สีลูกกวาดแสนสวย
- ปอร์โต้ เมืองทางด้านเหนือของโปรตุเกส ที่มีชื่อเสียงทางด้าน “ไวน์ ปอร์โต้”
- ชมร้านหนังสือ Livraria Lello ต้นกำเนิด“ร้านตัวบรรจงและหยดหมึก (Flourish and Blotts)”แห่งนิยายเด็ก Harry potter
1
Day 1:กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ)
- 20.00 น. คณะพร้อมกันที่ สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 เคาน์เตอร์สายการบินเตอร์กิสแอร์ไลน์ (TK) โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับในการตรวจเอกสารและสัมภาระในการเดินทาง
- 23.05 น. “เหิรฟ้าสู่กรุงอิสตันบูล” โดยสายการบินเตอร์กิสแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK69 (ใช้เวลาบินประมาณ 10.25 ชม/รับประทานอาหารและพักผ่อนบนเครื่องบิน)
2
Day 2 : กรุงเทพฯ-อีสตันบูล-กรุงลิสบอน
- 05.15 น. เดินทางถึง สนามบินนานาชาติอฮาวาลิมานี อีสตันบูล ประเทศตุรกี
- 07.10 น. “เหิรฟ้าสู่กรุงลิสบอน” โดยสายการบินเตอร์กิสแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK1755 (ใช้เวลาบินประมาณ 04.50 ชม.)
- 10.05 น. เดินทางถึงสนามบินลิสบอน ปอร์เตลา กรุงลิสบอน ประเทศโปรตุเกส นำท่านผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมือง เมืองลิสบอน (Lisbon) เมืองหลวงของโปรตุเกสตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเตจู้ (Tejo) เมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 800 ปี และเคยประสบกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวในศตวรรษที่ 17 จึงทำให้อาคารเก่าแก่โบราณได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ผู้นำคนสำคัญของเมืองในสมัยนั้น คือ มาร์คิส เดอร์ ปองปาล (Marquis de Pombal) ได้เริ่มบูรณะและจัดวางผังเมืองลิสบอนใหม่ให้ทันสมัย เกิดการสร้างถนนและอาคารสมัยใหม่กลายเป็นเมืองลิสบอนที่สวยงามมีเอกลักษณ์เป็นของตนเองจนถึงปัจจุบัน
- รับประทานอาหารกลางวัน
มหาวิหารเจอโร นิโมส์ (Jeronimos Monastery) – ทัวร์โปรตุเกส
- แวะถ่ายรูปที่ หอคอยเบเลม (Belem Tower) เดิมสร้างไว้กลางน้ำเพื่อเป็นป้อมรักษาการณ์ดูแลการเดินเรือเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินเรือออกไปสำรวจ และค้นพบโลกของ วาสโกดากามาและนักเดินเรือชาวโปรตุเกสเป็นอีกหนึ่งสถาปัตยกรรมแบบมานูเอลไลน์ที่สวยงาม หอคอยเบเลมและมหาวิหารเจอโรนิโมได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 1983 และเป็นสองในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของประเทศโปรตุเกส
- นำท่านชม อนุสาวรีย์ดิสคัฟเวอรี่ (Monument of Discovery)สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1960 เพื่อรำลึกถึง 500 ปี แห่งการสิ้นพระชนม์ของเจ้าชายเฮนรี่ เดอะเนวิเกเตอร์
- มหาวิหารเจอโร นิโมส์ (Jeronimos Monastery) ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ วาสโก ดากามา ซึ่งได้เดินเรือสู่ประเทศอินเดียได้เป็นผลสำเร็จในปี ค.ศ.1498 ซึ่งมหาวิหารแห่งนี้เป็นผลงานอันเยี่ยมยอดของงานสถาปัตยกรรมแบบมานูเอลไลน์ (Manueline) ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้นถึง 70 ปี จึงเสร็จสมบูรณ์
- นำท่านสู่ จัตุรัสโรซิโอ้ (Rossio Square) เป็นจัตุรัสที่มีชีวิตชีวาที่สุดในเมืองที่ซึ่งผู้คนหยุดนั่งพักผ่อนหรือดื่มเครื่องดื่มที่ร้านกาแฟหลายแห่งตรงกลางเป็นอนุสาวรีย์ที่มีความสูง 27 เมตร
- จากนั้นนำท่านชม ย่านอัลฟาม่า (Alfama Area) ย่านเมืองเก่าใจกลางกรุงลิสบอน สองข้างทางเป็นถนนแคบๆ รายล้อมไปด้วยบ้านเรือนที่สร้างขึ้นในสมัยยุคกลาง เต็มไปมนต์เสน่ห์ที่น่าดึงดูด ผสมผสานกันระหว่างอิทธิพลที่ได้รับจากโรมัน และอาหรับ ซึ่งหลังจากที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงในประเทศโปรตุเกสปี ค.ศ. 1755 เป็นที่น่าแปลกใจที่ย่านนี้ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด ทำให้ทุก ๆ อย่างยังคงสภาพเดิมให้เห็นจนถึงทุกวันนี้
- ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
- พักที่ EUROSTARS DAS LETRAS HOTEL หรือเทียบเท่า*
3
Day 3 : ลิสบอน-ซินตรา-คาโบ ดา ร๊อคคา-เอโวรา-แฟโร
- เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
- 08.00 น. นำท่านเดินทางสู่เมืองซินตร้า (Sintra) (ระยะทางประมาณ 18.5 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) ในปี ค.ศ. 1995 เมืองซินตร้าได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกด้านภูมิทัศน์วัฒนธรรม นำท่านชมพระราชวังพีน่า (Pena National Palace) พระราชวังที่ตั้งอยู่บนเนินเขาเหนือเมืองซินตร้า โดยพระราชวังแห่งนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของประเทศโปรตุเกส ปัจจุบันพระราชวังแห่งนี้ได้กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในโปรตุเกส
- จากนั้นนำท่านเดินทางต่อไปยัง คาโบ ดา ร๊อคคา (Cabo Da Roca) (ระยะทางประมาณ 40.6 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที) แหลมร๊อคคาตั้งอยู่สุดของทวีปยุโรปด้านทิศตะวันตกติดกับมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ฝั่งตรงข้ามเป็นทวีปอเมริกา แหลมร๊อคคาตั้งอยู่บนหน้าผาสูงประมาณ 150 เมตรจากระดับน้ำทะเล
- รับประทานอาหารกลางวัน
- เดินทางสู่เมืองเอโวรา (Evora) เป็นเมืองเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรมขององค์การยูเนสโก ชมวัดโรมันแห่งเอโวรา (Roman Temple) วัดซึ่งมีเอกลักษณ์ของโรมันแสดงถึงศักยานุภาพของอาณาจักรโรมันในอดีตที่ได้แผ่ขยายมาถึงโปรตุเกส นำชมวิหารโครงกระดูกแห่งเอโวรา เป็นโบสถ์ขนาดเล็กตั้งอยู่ใกล้กับทางเข้าของโบสถ์เซนต์ฟรานซิส ภายในโบสถ์มีความกว้าง 11 เมตร และยาว 18.7 เมตรโบสถ์ที่ถูกตกแต่งด้วยหัวกะโหลกและโครงกระดูกมากมาย ถูกสร้างขึ้นช่วงศตวรรษที่ 16 ซึ่งกระดูกมาจากมนุษย์ที่ถูกฝังในสุสานยุคกลางของเอโวรา
- เดินทางสู่เมืองแฟโร (Faro) เป็นเมืองศูนย์กลางการบริการจัดการของเขตอัลการ์ฟ ซึ่งเป็นเขตทางตอนใต้ของโปรตุเกส เมืองนี้เป็นอีกเมืองท่าของชาวมัวร์ ซึ่งต่อมาได้ถูกกษัตริย์ อฟองโซ ที่ 3 ครอบครองในปี ค.ศ. 1249 จนถึง ค.ศ. 1596 ในช่วงสงครามครูเสด เอิร์ลแห่งซัสเซ็กซ์ ของ อังกฤษได้เข้ามาครอบครองเมืองนี้
- รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
- พักที่ FARO HOTEL หรือเทียบเท่า*
4
Day 4 : แฟโร-ลากอส-จุดชมวิว กลุ่มแท่งหิน-ถ้ำเบนากิล-อัลบูเฟรา
- เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
- 08.00 น. เดินทางสู่ชมภายนอก วิหารแฟโร Cathedral of Faro เป็นมหาวิหารโรมันคาธอลิกในเมืองแฟโรประเทศโปรตุเกส โบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ในนามของพระแม่มารีผู้ศักดิ์สิทธิ์ในปลายศตวรรษที่ 13 โดยอัครสังฆราชแห่งบรากา ชม ซุ้มประตูอาโคดาวิล่า (Arco da Vila) สร้างขึ้นในช่วงยุคกลางของเมือง ซุ้มประตูอนุสาวรีย์นี้ได้รับการว่าจ้างจากBishop Francisco Gomes de Avelar ในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 โครงการดังกล่าวดำเนินการโดยสถาปนิกชาวอิตาลีฟรานซิสโกซาเวียร์ฟาบรี การตกแต่งซุ้มประตูเป็นรูปปั้นของนักบุญ โทมัสอาควินัสซึ่งถือว่าเป็นนักบุญอุปถัมภ์ของฟาโร
- จากนั้นเดินทางสู่ ลากอส Lagos เป็นเมืองชายหาดที่มีความสวยงามที่สุดในภูมิภาคแอลการ์ฟ และเป็นเมืองที่มีชายหาดที่แสนจะสวยงามเป็นอย่างมาก รวมทั้งมีความเก่าแก่มาอย่างนาน จึงมีสถานที่ท่องเที่ยวหลายจุดที่มีความสวยงามและเก่าแก่เหมาะแก่การมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง
- นำท่านชมป้อม Forte da Ponta da Bandeira สร้างขึ้นเมื่อปลายศตวรรษที่ 17 ทางเข้าคือสะพานชักเหนือคูเมือง เป็นป้อมปราการป้องกันหลังหนึ่งที่ดีที่สุดในเมืองลากอส
- นำท่านเดินทางไปยัง จุดชมวิว กลุ่มแท่งหินในทะเล (Ponta da Piedade) ที่สวยงามแปลกตา ให้ท่านได้ชมวิว และถ่ายรูปตามอัธยาสัย จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร
- เดินทางสู่ ลากัว (Lagoa) เมืองชายหาดใน แคว้นแอลการ์ฟ (Algarve) นำท่านล่องเรือชม ถ้ำเบนากิล (Benagil Cave) ถ้ำริมทะเลแห่งนี้มีความสวยงามเฉพาะตัวเกิดขึ้นโดยฝีมือธรรมชาติ เมื่อมองจากภายนอกจะเห็นเป็นเพียงเกาะเล็ก ๆ แห่งหนึ่งที่มีภูเขาหินขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ แต่เมื่อไปสำรวจภาพในจะพบกับช่องหลาย ๆ ช่อง ทำหน้าที่เปรียบดั่งเป็นประตูไปสู่ถ้ำทะเล และยังมีความพิเศษตรงที่หลังคาของถ้ำไม่มีความทึบแต่มีรูอยู่ด้านบนจนทำให้แสงสว่างกระทบมาถึงด้านล่างถ้ำที่เป็นชายหาดได้ ทำให้บริเวณนี้ไม่มืดและเป็นดั่งโถงธรรมชาติอันสวยงาม
- รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
- เดินทางสู่เมืองอัลบูเฟรา (Albufeira) ติดกับชายฝั่งทะเลในเขตอัลการ์ฟ (Algarve) ทางตอนใต้ของโปรตุเกสเป็นเมืองที่มีทั้งความเจริญทันสมัยและมนต์เสนห์แห่งประวัติศาสตร์ ซึ่งมีทั้งจตุรัสที่สวยงาม, โบสถ์ในยุคศตวรรษที่ 18 เป็นเมืองตากอากาศที่มีชายหาดสวยงาม น้ำทะเลสีฟ้าอมเขียวสดใสของแอตแลนติก นำท่านเดินเล่นชมเมือง
- รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหาร
- ที่พัก SAO RAFAEL ATLANTICO HOTEL หรือเทียบเท่า*
5
Day 5 : อัลบูเฟรา-บาตาลยา-นาซาเร่
- เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
- 08.00 น. นำท่านเดินทางสู่ Batalha (บาตาลยา) เป็นเมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาในเขตเลเรีย บาตาลยากลายเป็นเมืองสำคัญที่มีสิ่งปลูกสร้างที่สำคัญและได้รับยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก
- รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
- นำท่านเข้าชม โบสถ์บาตาลยา Batalha Monastery หรือ Mosteiro De Santa Maria Da Vitoria โบสถ์แห่งสร้างเพื่อถวายพระแม่มารี ตั้งอยู่ใกล้กับสนามรบ ที่พระเจ้าฌูเอาว์ที่ 1 (João I) แห่งโปรตุเกส นำทหารโปรตุเกส รบกับพระเจ้าจอห์นที่ 1 กษัตริย์แคว้นคาสตีล (John I of Castile) ซึ่งมาอ้างสิทธิการครอบครองราชย์บัลลังก์และแผ่นดินโปรตุเกส ผ่านราชินีของตน จนมีชัยชนะ ในปี ค.ศ.1385 โบสถ์นี้สร้างโดยพระเจ้าฌูเอาว์ที่ 1 (João I) เพื่อถวายพระแม่มารี ตามคำอธิษฐานขอพรให้ก่อนออกรบ ตั้งอยู่ใกล้กับสนามรบ ที่พระเจ้าฌูเอาว์ที่ 1 (João I) แห่งโปรตุเกส นำทหารโปรตุเกส รบกับพระเจ้าจอห์นที่ 1 กษัตริย์แคว้นคาสตีล (John I of Castile) ซึ่งมาอ้างสิทธิครอบครองราชบัลลังก์และแผ่นดินโปรตุเกส ผ่านราชินีของตน จนมีชัยชนะ และด้วยความสวยของโบสถ์แห่งนี้ส่งผลให้โบสถ์นี้กลายเป็นศิลปะชิ้นเอกอีกแห่งหนึ่งของโปรตุเกส จึงได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลก จากองค์การยูเนสโก
- เดินทางสู่ เมืองนาซาเร่ Nazaré เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ มีหาดทรายที่สวยงาม และบรรยากาศที่สบายเป็นธรรมชาติ ปัจจุบันเป็นเมืองท่าตากอากาศที่สำคัญของโปรตุเกส ให้ท่านเดินชมวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ที่หมู่บ้านประมง แนวชายหาดของที่นี่มีความยาวกว่า 1.5 ก.ม. มีที่พักตากอากาศ ร้านอาหารทะเล คาเฟ่เก๋ๆ ตั้งอยู่ตลอดแนว และเมืองนี้ยังเป็นเมืองสวรรค์ของเหล่านักโต้คลื่นจากทั่วโลก ในช่วงฤดูหนาวจะมีคลื่นยักษ์ให้ท่านได้ตื่นตาตื่นใจอีกด้วย ชมความสวยงามจากมุมสูงของเมืองและทะเลโดยขึ้นรถราง เพื่อชมเมืองเก่าด้านบนภูเขา
- รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
- พักที่ PRAIA HOTEL หรือเทียบเท่า*
6
Day 6 : นาซาเร่ - มอนซานโต
- รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
- เดินทางสู่ หมู่บ้านมอนซานโต (Monsanto) ถูกสร้างขึ้นในเทือกเขาเซอร์ราเดอเอสเตรลา ตั้งอยู่ที่ด้านข้างของภูเขา เป็นหมู่บ้านที่โดดเดี่ยวและมีเสน่ห์ หมู่บ้านแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นแทรกไปตามก้อนหินขนาดใหญ่ สลับกับถนนเล็กๆ นอกจากนี้ภายในหมู่บ้านยังมีการพบหลักฐานทางโบราณคดีจากยุคลูซิทาเนีย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยว ที่สามารถชมทัศนียภาพที่สวยงามของเทือกเขาเซอร์ราเดอเอสเตรลา และเมืองที่อยู่ใกล้เคียงได้อย่างชัดเจน หมู่บ้านแห่งนี้ถูกโหวตให้เป็นหนึ่งใน “หมู่บ้านโปรตุเกสที่ดีที่สุด ในประเทศโปรตุเกส
- รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
- อิสระให้ท่านเดินเที่ยวชมหมู่บ้านโบราณมอนซานโต ชมความสวยงามแปลกตาของหมู่บ้านที่แทรกตัวอยู่ตามแนวหินก้อนเล็กบ้างใหญ่บ้าง จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร
- รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
- พักที่ MELIA CASTELO BRANCO HOTEL หรือเทียบเท่า
7
Day 7 : มอนซานโต-อาเวโร่
- รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
- นำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองอาเวโร่ (Aveiro) เมืองศูนย์กลางด้านอุตสาหกรรมที่สำคัญแหล่งหนึ่งของโปรตุเกสซึ่งอดีตเคยเป็นเมืองท่าที่เจริญมากๆ เป็นเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็น “เวนิสแห่งโปรตุเกส” เนื่องจากความสวยงามของคลองที่ตัดผ่านในตัวเมือง โดยมีสะพานเชื่อมแต่ละฝั่งเข้าด้วยกัน และมีเรือกอนโดลาและเรือเร็วหลากสีสันล่องไปตามลำคลองเหล่านั้น เดินทางถึง เมืองอาเวโร่
- รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
- จากนั้นแวะชมสถานีรถไฟอาเวโร่ Aveiro Station ประกอบไปด้วยอาคารสองหลัง คือหลังเก่าและหลังใหม่ อาคารหลังเก่าตกแต่งด้วยกระเบื้องสีฟ้า ซึ่งแสดงถึงประเพณี วัฒนธรรม ของชาวโปรตุเกส แม่น้ำโวลก้า ชาวประมง โบสถ์คริสต์ และอื่นๆ ส่วนอาคารใหม่เป็นสีขาวทั้งหลังและเป็นอาคารหลักในการให้บริการ ส่วนหลังเก่าไว้สำหรับเยี่ยมชม
- ถ่ายภาพด้านนอก วิหารอาเวโร (Aveiro Cathedral) หรือที่รู้จักกันในนามโบสถ์เซนต์โดมินิกเป็นวิหารโรมันคาธอลิกในอาเวโรประเทศโปรตุเกส มันเป็นที่ตั้งของสังฆมณฑลอาเวโรและสร้างขึ้นในโปรตุเกสบาโรค ก่อตั้งขึ้นในปี 1423 เป็นคอนแวนต์โดมินิกัน และลงทะเบียนอนุสรณ์สถานแห่งชาติโปรตุเกส จากนั้นชมความงามของเมืองอาเวโร่ซึ่ง ท่านจะได้ชื่นชมกับทัศนียภาพที่สวยงามของอาคาร
- เดินทางไปชม คอสตา โนวา (Costa Nova) หมู่บ้านชาวประมงของชาวโปรตุเกสที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและมีความสะดุดตาเพราะสีสันแบบลูกกวาด ดูแล้ว น่ารัก สดใส สบายตา หมู่บ้านคอสตา โนวา ตั้งอยู่ใกล้กับเมือง Aveiro ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีค.ศ.1808 เป็นเมืองที่อยู่ติดกับชายฝั่งทะเล ทำให้อาชีพหลักของชาวบ้านคือการทำประมง และเหล่าชาวประมงก็ได้สร้างบ้านริมทะเลขึ้น โดยสร้างบ้านที่มีรูปทรงปกติทั่วไป แต่ได้เพิ่มสีสันของตัวบ้านด้วยการทาสีเป็นแนวตารางสลับขาว เช่นสีเหลืองขาว สีน้ำเงินขาว เป็นสีสดใสที่ตัดกัน สร้างความสะดุดตาให้กับผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก โดยในหมู่บ้านส่วนใหญ่ก็จะมีการทาสีเหมือนกันหมด กลายเป็นเอกลักษณ์ประจำชุมชนไปโดยปริยาย
- นำท่าน ล่องเรือ “ Rua dos Combatientes da grande ชมความงามของเมืองอาเวโร่ซึ่งตลอดสองฟากฝั่ง ท่านจะได้ชื่นชมกับทัศนียภาพที่สวยงามของอาคาร บ้านเรือนสีสันสดใสและสถานที่สำคัญๆ ของเมือง
- รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
- พักที่ MELIA RIA HOTEL หรือเทียบเท่า
8
Day 8 : อาเวโร่-ปอร์โต้
- เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
- นำท่านเดินทางสู่ เมืองปอร์โต้ (Porto) ทางเหนือของประเทศโปรตุเกส เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงถึง “ไวน์ ปอร์โต้” ซึ่งเป็นแหล่งไวน์ชั้นดีของคนที่มีรสนิยมในการดื่มไวน์ และเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองและตั้งอยู่ริม แม่น้ำดูโร และเมืองนี้ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก้ ในปี ค.ศ.1996
- ชมสถานีรถไฟ São Bento เป็นสถานีรถไฟโบราณ ภายในมีการตกแต่งด้วยกระเบื้องเขียนสีและลวดลายสีน้ำเงินบอกเล่าเรื่องราวของชาวโปรตุเกส สร้างขึ้นในขณะที่อารามนิกายเบเนดิกยังคงรุ่งเรืองในศตวรรษที่ 16 ภายในสถานีรถไฟแห่งนี้มีจิตกรรมฝาผนังที่เล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ของเมือง ทั้งหมดรังสรรค์จากกระเบื้องเซรามิคอะซูเลโฮกว่า 20,000 ชิ้น เราจะเห็นประวัติ สงคราม และ การคมนาคมของเมือง จิตกรฝาผนัง Jorge Colaço ใช้เวลาถึง 11 ปีในการสร้างสรรค์ผลงานนี้ในสถานีรถไฟ São Bento แห่งนี้
- เดินทางสู่ร้านหนังสือ Livraria Lello ร้านหนังสือเก่าแก่อายุ 140 ปี ถูกจัดเป็นหนึ่งในร้านหนังสือที่สวยงามที่สุดในโลก จากสำนักข่าวชั้นนำของโลก อาทิ The Guadian และ Time และเป็นหนึ่งในสถานที่ที่สร้างแรงบันดาลใจให้แก่ เจ. เค. โรว์ลิง (J. K. Rowling) ในการเขียนหนังสือ แฮร์รี่ พอตเตอร์ (Harry Potter) ชุดนวนิยายแฟนตาซีที่ได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักทั่วโลก เป็นร้านหนังสือต้นแบบของ “ร้านตัวบรรจงและหยดหมึก (Flourish and Blotts)” ร้านหนังสือเวทมนตร์ในตรอกไดแอกอนนั่นเอง ร้านถูกสร้างตามแบบสถาปัตยกรรมนีโอโอทิก ลักษณะสำคัญของสถาปัตยกรรม คือ ผนังเปิดกว้าง และลายเส้นซับซ้อน โดยเมื่อเดินเข้าไปภายใน Livraria Lello จะสะดุดตากับบันไดม้วน 2 ชั้นสีแดงสดกลางห้องโถง ตัดกับสีน้ำตาลเข้มของไม้ที่สร้างพื้น ราวบันได เพดาน และชั้นวางหนังสือไม้แกะสลัก อีกจุดที่โดดเด่นคือ เพดานประดับด้วยกระจกสีบานใหญ่
- รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
- เข้าชม มหาวิหารแห่งเมืองปอร์โต้ (Porto Cathedral) สร้างในศตวรรษที่ 12 ซึ่งล้อมรอบด้วยชุมชนที่เก่าแก่ริมฝั่งแม่น้ำ Guerra ชมด้านนอก โบสถ์ซาน ฟรานซิสโก (Igreja de Sao Francisco) เป็นอาคารในสไตล์โกธิคที่มีความเก่าแก่และงดงามเป็นอย่างมากแม้จะมีความมืดทึบอยู่ก็ตามที โดยภายในของโบสถ์แห่งนี้ นั้นมีความสวยงามด้วยการตกแต่งด้วยแผ่นทองคำเปลวที่สวยงามเป็นอย่างยิ่ง นั่งกระเช้าลอยฟ้า (Cableway Teleferico de Gaia) เพื่อชมเมืองปอร์โตจากมุมสูง
- รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
- พักที่ EUROSTAR PORTO DOURO HOTEL หรือเทียบเท่า
9
Day 9 : ปอร์โต-กิมาไรส์-บรากา-ปอร์โต้
- รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
- เดินทางสู่เมืองกีมาไรซ์ Guimaraes (ระยะทางประมาณ 55 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที) หนึ่งในเมืองที่สำคัญด้านประวัติศาสตร์ ซึ่งบริเวณศูนย์กลางของเมืองได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก เมืองกิมาไรส์ เป็นเมืองท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี เนื่องจากเมืองนี้เป็นที่ประสูติของพระเจ้าอัลฟอนโซที่ 1 กษัตริย์พระองค์แรกของโปรตุเกส โดยตัวเมืองนั้นตั้งอยู่ในหุบเขาที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขาสูงตระหง่าน
- ชม ปราสาทกิมาไรส์ (Guimaraes Castle) ปราสาทยุคกลางที่ตั้งอยู่ในใจกลางเมือง ถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 10 ตามคำสั่งของ Mumadona Dias เคาน์เตสแห่งโปรตุเกส เพื่อปกป้องเมืองจากการโจมตีของชาวมัวร์และชาวนอร์แมน ซึ่งปัจจุบันปราสาทแห่งนี้ได้กลายเป็นเป็นสัญลักษณ์ทางประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโปรตุเกส จากนั้นนำท่านชม Largo da Oliveira หรือ จัตุรัส Oliveira ศูนย์กลางประวัติศาสตร์ของเมืองกิมาไรส์ และเป็นหนึ่งในสถานที่ที่สวยงามที่สุดในเมือง ซึ่งถูกรายล้อมไปด้วยอาคารบ้านเรือน รวมไปถึงสิ่งปลูกสร้างที่มีความสำคัญทาง ประวัติศาสตร์ รวมไปถึงร้านอาหารและร้านกาแฟ
- รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
- นำท่านสู่เมืองบรากา (Braga) นับว่าเป็นเมืองใหญ่อันดับที่สามของโปรตุเกส โดยตั้งอยู่ในหุบเขาที่เเสนจะสวยงามท่ามกลางเนินเขาเล็กๆ และภูเขาที่มีความเขียวชอุ่มมากมาย พร้อมกับบรรยากาศในแบบเมดิเตอร์เรเนีย เมืองเเห่งนี้จะเต็มไปด้วยอาคารสำคัญๆ ทางศาสนามากมาย เเละพิพิธภัณฑ์ที่มีความสวยงามหลายต่อหลาย เเห่ ง จากนั้นนำท่าชม Bom Jesus do Mont ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีความเชื่อกันมีความศักดิ์สิทธิ์อย่างมาก โดยมันอยู่ทางตอนเหนือของเมือง เเละมีโบสถ์อยู่ด้านบน โดยคุณต้องขึ้นบันไดผ่านเเนวกำเเพงที่ทอดยาว โดยตัวโบสถ์นั้นมีความเก่าเเก่มาตั้งเเต่ศตวรรษที่ 18 ซึ่งสร้างบนฐานเดิมตั้งเเต่ศตวรรษที่ 13 นำท่านกลับสู่ เมืองปอร์โต้
- รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
- ที่พัก EUROSTAR PORTO DOURO HOTEL หรือเทียบเท่า*
10
Day 10 :ปอร์โต้-อิสระช้อปปิ้ง-กรุงเทพฯ
- รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
- เดินทางสู่ ถนน Santa Catarina ย่าน Shopping Street ถนนที่มีชีวิตชีวิตวาผู้คนคึกคัก สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านขายของมากมาย ของแบรนด์เนม รวมไปถึงสินค้าพื้นเมือง ร้านอาหาร คาเฟ่ ห้างสรรพสินค้า ร้านขายของที่ระลึกอิสระให้ท่านเดินเล่น ช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
- ****อิสระรับประทานอาหารกลางวัน
- นำท่านเดินทางสู่สนามบินฟรานซิสโก เดอ ซา คาร์เนโร เมืองปอร์โต ประเทศโปรตุเกส
- 16.35 น. “เหิรฟ้าสู่กรุงอิสตันบูล” โดยสายการบินเตอร์กิสแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK1452 (ใช้เวลาบินประมาณ 04.20 ชม)
- 23.10 น. เดินทางถึง สนามบินนานาชาติอตาเติร์ก อีสตันบูล ประเทศตุรกี
11
Day 11 :กรุงเทพฯ
- 01.45 น. “เหิรฟ้าสู่กรุงเทพฯ” โดยสายการบินเตอร์กิสแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK648(ใช้เวลาบินประมาณ 09.22 ชม/รับประทานอาหารและพักผ่อนบนเครื่องบิน
- 15.20 น. ถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ
——
Go Together Travel เราชำนาญเรื่องเที่ยวมากว่า 15 ปี
ไปที่ไหนก็ได้ ใช่ว่าจะไปกับใครก็ได้
เรื่องเที่ยวไว้ใจเรา
รับออกแบบจักกรุ๊ปส่วนตัวทุกเส้นทางทั่วโลก
http://www.gotogethertravel.com/
โทร 02-2146088 ทุกวัน จันทร์ – ศุกร์ 09.00 – 18.00 น.