วันเดินทาง
12-20 เมษายน 2563
สายการบิน

แกรนด์โครเอเชีย 9 วัน 2019 (TK)
- ที่พัก 4 + 5 ดาว อาหารดี
- เดินชมความสวยงามของอุทยานแห่งชาติทะเลสาบ “พลิตวิเซ่ เจเซร่า”
- ล่องเรือชมความงามของทะเลสาบ KOZJAK ในฤดูกาลที่สวยที่สุด
- พร้อมชิมหอยนางรม แบบสดๆ “พร้อมจิบไวน์ ” ณ อ่าวมาลี สตอน
- เดินชม “กำแพงเมืองโบราณ” และ “เมืองเก่าดูบรอฟนิค” สถานที่ท่องเที่ยวของโครเอเชีย
- นั่งกระเช้าไฟฟ้าสู่ยอดเขา SRD MT. พร้อมล่องเรือชมความสวยงามของทะเลอาเดรียติค
พิเศษ LOBSTER MENU วัตถุดิบขึ้นชื่อของประเทศโครเอเชีย ที่ไม่ควรพลาด!!!
- ซาเกรบ เมืองหลวงเก่าของชนชาติชาวโครแอต ที่แยกตัวออกมาจากยูโกสลาเวียในอดีต
- พลิตวิเซ่ แหล่งมรดกโลก ที่ได้รับการประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติในปี ค.ศ.1949
- ซาร์ดา โบสถ์เซนต์โดนาทัส สิ่งก่อสร้างในคริสต์ศตวรรษที่ 9
- ครึคา อุทยานแห่งชาติที่มีชื่อเสียงของมณฑลซิบินิคคนีน
- โทรเกียร์ เกาะเล็กๆ ซึ่งเป็นอู่อารยธรรมของชาวกรีกโบราณตั้งแต่สมัย 380 ปีก่อนคริสตกาล
- สปลิต เมืองชายฝั่งเมดิเตอร์เรเนียนที่ใหญ่ที่สุดในโครเอเชีย ที่มีอายุกว่า 1,700 ปี
- เกาะคอร์ซูล่า เกาะซึ่งเคยได้ฉายาว่า “ไข่มุกแห่งยุคกลาง” และเป็นเมืองบ้านเกิดของนักเดินเรือผู้ยิ่งใหญ่ “มาร์โค โปโล”
- ดูบรอฟนิค เมืองที่ได้รับฉายานามว่า “ไข่มุกแห่งทะเลอาเดรียติก”
- คัฟถัต เมืองเล็กๆ ที่อยู่ริมชายฝั่งทะเล และมีชายหาดที่งดงามยาวถึง 15 กิโลเมตร
1
Day 1: กรุงเทพฯ-กรุงอิสตันบูล
- 18.30 น. พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 แถว U ประตูทางเข้าที่ 10 เจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกให้แก่ท่าน
- 21.40 น. ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK 069 เหิรฟ้าสู่กรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกี
2
Day 2 : กรุงอิสตันบูล-กรุงซาเกรบ-หมู่บ้านราสโตเก้-อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่
- 04.10 น. เดินทางถึงสนามบินกรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกี
- 07.05 น. เหิรฟ้าสู่กรุงซาเกรบ โดยสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK1053
08.15 น. เดินทางถึงสนามบินกรุงซาเกรบ ประเทศโครเอเชีย นำท่านเดินทางเข้าสู่ตัวเมือง เที่ยวชม กรุงซาเกรบ (ZAGREB) เมืองหลวงของโครเอเชีย ศูนย์กลางการปกครองเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของประเทศ ตัวเมืองตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำซาว่า (Sava) และไหล่เขาเม็ดเว็ดนิก้า (Medvednica)
- นำท่าน ชมเมืองเก่า ของกรุงซาเกรบ ซึ่งจัดแบ่งออกเป็น 2 เขต คือ Lower & Upper Town ได้อย่างลงตัว ผ่านชมโรงละครแห่งชาติที่สร้างขึ้นในสไตล์นีโอบาร็อค จากนั้น ผ่านชมอาคารรัฐสภา (Sabor) ที่บอกเล่าถึงความเป็นมาของชนชาติโครแอตที่แยกตัวเองจากยูโกสลาเวียในอดีต
- ชม มหาวิหารเซนต์สตีเฟ่น (St.Stephen Cathedral) สถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 800 ปี และปัจจุบันได้บูรณปฏิสังขรณ์ในสไตล์นีโอ-โกธิค ที่งดงามด้วยหอคอยแฝดปลายแหลมสีทองอร่าม ภายในประดิษฐานรูปนักบุญองค์สำคัญต่างๆ เช่น นักบุญเซนต์ปีเตอร์ เซนต์ปอลล์
- นำท่าน ชมกำแพงหินโบราณ ยุคคริสต์ศตวรรษที่ 13 ที่สร้างรายล้อมเมืองเก่าที่คงความอัศจรรย์ของภาพพระแม่มารี ที่ไม่ผูกทำลายเมืองไฟไหม้ครั้งใหญ่ในปี ค.ศ.1731
- ผ่านชมและถ่ายรูปกับโบสถ์เซนต์มาร์ค (Church of St.Mark) ที่โดดเด่นด้วยหลังคาที่มีการปูกระเบื้องเป็นสีสัน ลวดลายตราหมากรุกแดงขาว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของโครเอเชีย
- เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
- นำท่านเดินทางต่อไปยัง อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ (PLITVICE) แห่งแคว้น Istria & Kvarner ระหว่างทางชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวโครแอต ซึ่งเป็นชนชาติหนึ่งในเผ่าสลาฟ ผ่านชมทัศนียภาพและธรรมชาติอันงดงามของขุนเขาตอนกลางของประเทศ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของเหตุการณ์ความไม่สงบของประเทศในการสู้รบระหว่างสองชนชาติ ชาวโครแอตและชาวเซิร์บ เมืองที่ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางของประเทศ และได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อปี ค.ศ.1949 ปัจจุบันมีพื้นที่ประมาณ 300 ตารางกิโลเมตร ท่ามกลางทะเลสาบ 16 แห่งและป่าไม้นานาพันธุ์ จนองค์การยูเนสโก (UNESCO) ได้ขึ้นทะเบียนประกาศให้เป็นมรดกโลก ในปี ค.ศ.1979 แวะถ่ายรูปและเดินเที่ยวชมใน หมู่บ้านราสโตเก้ และถ่ายรูปกับหมู่บ้านชลันจิก้า ระหว่างทางก่อนเดินทางเข้าสู่ที่พัก
- ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
- HOTEL JEZERO หรือเทียบเท่า
3
Day 3 : อุทยานแห่งชาติทะเลสาบพลิตวิเซ่-เมืองซาดาร์
- เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมเช้า
- ชมอุทยานแห่งชาติทะเลสาบพลิตวิเซ่ (Plitvice Lakes National Park) สถานที่ที่ได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อปี ค.ศ.1949 ปัจจุบันมีพื้นที่ประมาณ 300 ตารางกิโลเมตร ท่ามกลางทะเลสาบ 16 แห่งและป่าไม้นานาพันธุ์ จนองค์การยูเนสโก (UNESCO) ได้ขึ้นทะเบียนประกาศให้เป็นมรดกโลก ในปี ค.ศ.1979
- นำท่านเดินชมธรรมชาติไปตามทางเดินเท้าที่จัดไว้อย่างเป็นสัดส่วน ลัดเลาะไปตามทะเลสาบ และน้ำตก ตื่นตาตื่นใจไปกับความบริสุทธิ์ สุขสดชื่น จากนั้นนำท่านล่องเรือชมความสวยงามของท้องน้ำสีครามในอุทยานแห่งชาติทะเลสาบ ตลอดจนไม้ป่าจำพวกสน สุดแสนประทับใจกับความงดงาม จากนั้นออกเดินทางสู่เมืองโวดิเซ่ เมืองชายฝั่งทะเลอาเดรียติก
- เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
- ออกเดินทางต่อไปยัง เมืองซาดาร์ (ZADAR) เมืองท่าสำคัญของโครเอเชียทางฝั่งทะเลอาเดรียติก และเป็นศูนย์กลางของซาดาร์เคาน์ตี้ แคว้นดับเมเชี่ยนทางตอนเหนือ นำท่านชมบรรยากาศที่สวยงามของซาดาร์ แวะเก็บบันทึกภาพประตูเมืองโบราณ Kopnena Vrata ผ่านชมโบสถ์ St.Donatus สิ่งก่อสร้างในคริสต์ศตวรรษที่ 9 ชม “Sea Organ” สถาปัตยกรรมการก่อสร้างเครื่องดนตรีโดยอาศัยเกลียวคลื่นที่ซัดเข้ากระทบกับบันไดหินอ่อนและท่อใต้ขั้นบันไดก่อให้เกิดเป็นท่วงทำนองเสียงดนตรี เป็นผลงานการออกแบบของสถาปนิก Nikola Basic ซึ่งเปิดให้สาธารณะชนเข้าชมนับตั้งแต่ วันที่ 15 เมษายน ปี ค.ศ.2005 ที่ผ่านมา
- ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
- พักที่ HOTEL KOLOVARE หรือเทียบเท่า
4
Day 4 : เมืองซาดาร์-อุทยานแห่งชาติครึคา-น้ำตกครึคา-โทรเกียร์-เมืองสปลิต
- เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมเช้า
- จากนั้นนำท่านเดินทางต่อไปยัง อุทยานแห่งชาติครึคา (Krka National Park) อุทยานแห่งชาติที่มีชื่อเสียงของมณฑลซิบินิค-คนีน (Sibenik-Knin) มณฑลในภูมิภาคดัลเมเชีย (Dalmatia) ภูมิภาคทางประวัติศาสตร์ที่ตั้งอยู่อยู่บนชายฝั่งตะวันออกของทะเลอาเดรียติค (Adriatic Sea) อุทยานแห่งชาติครึคา (Krka National Park) ได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติในปี 1985 เป็นหนึ่งในอุทยานแห่งชาติของโครเอเชียที่ตั้งชื่อตามแม่น้ำครึคา (Krka River) และอยู่ห่างจาก เมืองซิเบนิค (Sibenik) ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือเพียงไม่กี่กิโลเมตรเท่านั้น โดยอุทยานแห่งนี้ถูกก่อตั้งขึ้นมาเพื่อปกป้องระบบนิเวศน์ในแถบแม่น้ำครึคา รวมไปถึงการดำเนินกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์ วัฒนธรรม การศึกษา การพักผ่อนหย่อนใจ และการท่องเที่ยวสำหรับการท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติครึคานั้น สถานที่ท่องเที่ยวหลักๆที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมมากที่สุดของอุทยาน คือ น้ำตกสกราดินสกี บูค (Skradinski Buk Waterfall) หรือเป็นที่รู้จักกันในอีกชื่อว่า (Krka Waterfalls) เป็นหนึ่งในสองน้ำตกหลักที่มีความสูงประมาณ 37.5 เมตร เป็นน้ำตกที่มีน้ำใสมากอีกทั้งยังมีสระว่ายน้ำธรรมชาติ ที่สามารถลงเล่นน้ำรวมไปถึงพายเรือเล่นได้อย่างสบายๆ ด้วยความเป็นธรรมชาติและความสวยงามของน้ำตกจึงทำให้น้ำตกแห่งนี้เป็นหนึ่งในน้ำตกที่สวยที่สุดในยุโรป
- เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ โทรเกียร์ (TROGIR) เกาะเล็กๆ ที่เป็นอู่อารยธรรมของกรีกโบราณตั้งแต่ 380 ปีก่อนคริสกาล ซึ่งต่อมาถูกปกครองโดยทรากุรีอุม (Tragurium) และโรมัน บรรดาโบราณสถานและสิ่งก่อสร้างของเมืองเก่า ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี คือจัตุรัสกำแพงเมืองและป้อมปราการนั่นเอง จนได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก ขึ้นทะเบียนประกาศให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1997
- นำท่านเดินเที่ยวชมภายในเขตเมืองเก่าที่มีสถาปัตยกรรมในสไตล์กรีก-โรมันโบราณ อาทิเช่น ประตูเมือง ที่ได้มีการบูรณะขึ้นใหม่ในเมื่อศตวรรษที่ 16 หอนาฬิกาที่สร้างขึ้นในสมัยที่ 14 ผ่านชมมหาวิหารเซนต์ ลอว์เรนซ์ (St.Laurence Cathedral) ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 ใช้เวลาก่อสร้างนับสิบปี ที่มีความงดงามด้วยกรอบและบานประตูหินแกะสลักที่มีรูปปั้นสิงโต อดัม&อีฟ และรูปสลักนักบุญองค์สำคัญ
- จากนั้น นำท่านเดินทางต่อไปยัง เมืองสปลิต (SPLIT) เมืองศูนย์กลางการพาณิชย์ การคมนาคมของแคว้นดัลเมเชียและเป็นเมืองชายฝั่งเมดิเตอร์เรเนียนที่ใหญ่ที่สุดในโครเอเชีย อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดด้วย สปลิตนับอายุได้กว่า 1,700 ปี โดยมีพระราชวังดิโอคลิเธียน ประกอบด้วยศาลาว่าการเมืองสไตล์เรอเนสซองส์ สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 15 อาคารบ้านเรือนเก่าแก่ต่างๆ
- ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร
- พักที่ HOTEL MONDO หรือเทียบเท่า
5
Day 5 : เมืองสปลิต-ferry-เกาะคอร์ชูล่า
- เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมเช้า
- จากนั้นนำท่านเข้าชม พระราชวังดิโอคลิเธียน (Diocletian Palace) ที่ประทับของจักรพรรดิ “ดิโอคลิเธียน” แห่งเมืองเวนิสที่แผ่ขยายอาณาเขตจากเวนิสสู่เมืองสปลิต ในยุคโรมันโบราณ ท่านจะได้พบเห็นสถาปัตยกรรมของลานกว้างที่มีเสาสไตล์โรมันตั้งอยู่เรียงราย ภายในพระราชวังประกอบด้วยทางเข้าหลักหรือ Golden Gate มหาวิหารเทพเจ้าจูปิเตอร์ โบสถ์แห่งเทพวีนัส วิหารดอมนิอุส ที่จัดเรียงรายรวมกันอย่างลงตัว
- ชมย่านพีเพิลสแควร์ (Narodni Square) ศูนย์กลางทางธุรกิจ และการบริหารเมื่อสมัยศตวรรษที่ 15 และสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงเช่น รูปภาพแกะสลักสมัย Venetian-Gothic Cambi Palace Renaissance Town Hall ที่สร้างขึ้นในช่วงแรกของศตวรรษที่ 15
- เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
- นำท่านโดยสารรถโค้ชลัดเลาะเลียบไปตามชายฝั่งทะเลอาเดรียติก เดินทางผ่านเมืองนีอุม (NEUM) เมืองในเขตประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีน่า เป็นเมืองชายฝั่งประมาณ 24.5 กิโลเมตร เป็นทางออกสู่ทะเลอาเดรียติกทางเดียวของประเทศ เป็นเมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียงเมืองหนึ่ง แวะบันทึกภาพความสวยงามของทะเลสาบ Bacinska ที่สวยงามเกินคำบรรยายจากนั้น
- นั่งเรือเฟอร์รี่ล่องไปยังเกาะคอร์ชูล่า(Korcula Island) เกาะในเขตทะเลอาเดรียติกของโครเอเชีย เคยได้ฉายาว่า “ไข่มุกแห่งยุคกลาง” และเป็นเมืองบ้านเกิดของนักเดินเรือผู้ยิ่งใหญ่ “มาร์โค โปโล”
- ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
- พักที่ HOTEL MARCO POLO หรือเทียบเท่า
6
Day 6 : เกาะคอร์ชูล่า-ferry-มาลี สตอน-เมืองดูบรอฟนิค
- เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมเช้า
- นำท่านชม เมืองเก่าคอร์ชูล่า (KORCULA) ที่มีอิทธิพลจากเวเนเชี่ยนมาตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 15 ชมโบสถ์เซนต์มาร์ค (Cathedral of St.Mark) ที่สร้างขึ้นระหว่างปี 1301-1806 แวะชม “บ้านเกิดของมาร์โคโปโล” (Marco Polo House) นักเดินเรือผู้ยิ่งใหญ่ที่คนทั่วประเทศที่มีพรมแดนติดต่อกับประเทศบอสเนีย-เฮอร์เซโกวีน่า ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่สวยงามติดอันดับต้นๆ ของโลก เมื่อปี ค.ศ.1991 อิสระให้ท่านได้เดินเล่น พักผ่อน และชมเมืองตามอัธยาศัย เพลิดเพลินกับกับบรรยากาศอันแสนสวยบนเกาะคอร์ชูล่า
- เดินทางต่อไปยัง อ่าวมาลี สตอน (STON) เมืองที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองดูบรอฟนิค เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในเรื่องของหอยนางรมและผลิตภัณฑ์จากหอยนางรมสดๆ จากทะเลอาเดรียติก ตื่นตาตื่นใจไปกับบรรยากาศริมชายฝั่งทะเลที่มีบ้านเรือนหลังคากระเบื้องสีแสดสลับตามแนวชายฝั่งเป็นระยะสู่สตอน หมู่บ้านที่สงบเสงี่ยมตั้งอยู่ริมฝั่งบริเวณโค้งอ่าวกว้าง เปรียบเสมือนเป็นด่านหน้าของดูบรอฟนิค ในอดีตมีความเจริญรุ่งเรืองจากการค้าเกลือ ดังนั้นกำแพงป้องกันจึงมีความจำเป็น ซึ่งสามารถมองเห็นกำแพงโบราณนี้ได้จากระยะไกลในปัจจุบัน สตอนในอดีตอยู่ใต้การปกครองของโรมันจนกระทั่งถูกทำลายโดยพวกมองโกล ผ่านชมสถาปัตยกรรมสิ่งก่อสร้างทางโบราณคดี และร่องรอยของความเจริญรุ่งเรืองในอดีต พร้อมเก็บบันทึกภาพไว้เป็นที่ระลึก
- เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
- เดินทางต่อไปยัง เมืองดูบรอฟนิค (DUBROVNIK) เมืองทางตอนใต้ของสาธารณรัฐโครเอเชีย
- ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
- พักที่ HOTEL SHERATON DUBROVNIK RIVIERA หรือเทียบเท่า
7
Day 7 : เมืองดูบรอฟนิค-นั่งกระเช้าไฟฟ้าสู่ SRD MT.-ซิตี้ทัวร์ เมืองดูบรอฟนิค
- 07.00 น. รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมเช้า
- 08.00 น. นำท่านชม เมืองคัฟถัต (CAVTAT) ชมวิวทิวทัศน์ของเมืองดูบรอฟนิคเป็นการส่งท้ายแบบเต็มอิ่ม “คัฟถัต” เป็นเมืองเล็กๆ น่ารักริมชายฝั่งทะเลมีชายหาดที่งดงามยาวถึง 15 กิโลเมตร เป็นอาณานิคมของกรีกในอดีต ต่อมาถูกปกครองโดยโรมัน ก่อนที่จะถูกชนชาติสลาฟรุกรานจนในที่สุดตกอยู่ภายใต้อาณัติการปกครองของสาธารณรัฐกูซา ที่ได้ซื้อคัฟถัตนี้จากดยุกพาฟโลวิก ถ่ายรูปกับภาพวาด “Our Lady of Cavtat” อันมีค่า วาดโดยคาเมร่า เรคเกีย พาแรมิตาน่า ศิลปินชาวดูบรอฟนิค จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่เมืองดูบรอฟนิค
- นำท่านเดินทางสู่สถานีเพื่อขึ้นกระเช้าไฟฟ้า (Take Cable Car to SRD Mt.) ที่ความสูง 400 เมตร เพื่อชมวิว และทิวทัศน์ ที่คงความเป็นเอกลักษณ์ของบ้านเมืองหลังคาสีส้ม และความงดงามของทะเลอาเดรียติก
- เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
- จากนั้นนำท่านเที่ยวชมบริเวณเมืองเก่า (Old Town) ซึ่งเคยเป็นเป้าหมายการโจมตีจากกองทหารยูโกสลาฟ บ้านเรือนกว่าครึ่งอนุสาวรีย์ต่างๆ ได้รับความเสียหาย และทรุดโทรมจนกระทั่งในปี ค.ศ.1995 ได้มีการลงนามในสนธิสัญญาสงบศึก Erdut องค์การยูเนสโก (UNESCO) และสหภาพยุโรปจึงได้ร่วมกันบูรณปฏิสังขรณ์เมืองขึ้นมาใหม่ จนกระทั่งดูบรอฟนิคกลับมาสวยงามอีกครั้ง และได้รับการขึ้นทะเบียนประกาศให้เป็นมรดกโลกอีกเมืองหนึ่งของโครเอเชีย ชมทัศนียภาพของเมืองที่ตั้งอยู่ตามชายฝั่งทะเลอาเดรียติก ตัวเมืองจะเป็นป้อมปราการโบราณที่เป็นสัญลักษณ์ของเมือง
- นำท่านเยี่ยมชม Rector’s Palace (ภายนอก) ศูนย์กลางการบริหารของเมืองดูบรอฟนิคในอดีต เป็นสิ่งก่อสร้างที่ได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมกรีก-โรมัน เชิญท่านเก็บบันทึกภาพด้านหน้าของ Sponza Palace ที่สร้างขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 14 ปัจจุบันใช้เป็นสถานที่เก็บรักษาเอกสารโบราณที่สำคัญๆ รวมถึงคำจารึกเป็นภาษาละตินโบราณที่ใช้เตือนใจพ่อค้าวาณิชทางทะเล “ห้ามกระทำการโกงน้ำหนักในการซื้อขาย ขณะที่ท่านชั่ง หรือตวงสินค้า เพราะพระเจ้ากำลังจับตาและวัดความซื่อสัตย์ของท่านอยู่”
- นำท่านเดินชมอาคารบ้านเรือนเก่าแก่ภายในป้อมปราการต่างๆ เช่น Dominican Monastery Church of St.Blaise ในสไตล์บาร็อค Fort of St.John ประตู Pile Gate, Ploce Gate
- จากนั้นนำท่าน ทัวร์กำแพงเมืองโบราณ (City Walls) ซึ่งเป็นจุดเด่นของเมืองดูบรอฟนิค ที่มีกำแพงยาวประมาณ 1,940 เมตร สูง 25 เมตร สลับด้วยหอรบ 5 หอ หอคอยทรงกลม 3 หอ และทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส และสี่เหลี่ยมผืนผ้า 12 หอ สร้างขึ้นตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 13 ได้ชื่อว่ามีความมั่นคงและแข็งแกร่งที่สุดในน่านน้ำนี้ ในช่วงที่มีการขยายอำนาจของอาณาจักรออตโตมัน กำแพงเมืองที่มีความหนา 3 เมตร ได้รับการเสริมเพิ่มเติมเป็น 6 เมตร แต่ดูบรอฟนิคต้องประสบกับภัยทางธรรมชาติ ได้เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในปี ค.ศ.1667 มีคนเสียชีวิตกว่า 5,000 คน ทำให้ตัวเมืองเสียหายมาก แต่ทว่ากำแพงยังคงอยู่ และประสบภัยอีกครั้งจากสงคราม ถูกถล่มโดยจรวดของกองทัพยูโกสลาเวียในปี ค.ศ.1991 แต่ความเสียหายในส่วนนี้ได้รับเงินทุนสนับสนุนในการซ่อมแซมจากองค์การยูเนสโก ท่านจะได้ประทับใจกับวิว ทิวทัศน์ขณะที่เดินไปตามแนวสันของกำแพง ซึ่งมีทั้งอาคารสถาปัตยกรรมโบราณสไตล์บาร็อคในย่านเมืองเก่า และท้องทะเลสีครามที่สามารถมองออกไปไกลสุดสายตา ภายใต้ท้องฟ้าแสนสดใส บางช่วงตอนของกำแพงจะต้องผ่านป้อมปราการที่ใหญ่มหึมา และหาดที่เต็มไปด้วยหินผา ทำให้ตลอดเวลา 2 ชั่วโมงในการเดินบนกำแพงเมืองโบราณนี้ผ่านไปอย่างรวดเร็วเหลือเชื่อ สร้างความประทับใจให้กับท่านอย่างมิรู้ลืม
- จากนั้นนำท่าน ล่องเรือ ชมชายฝั่งทะเอเดรียติกยามเย็น ท่านจะได้เห็นเมืองดูบรอฟนิคมุมมองจากทะเล เป็นไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้เมื่อมาถึงดูบรอฟนิคแล้ว เรือจะล่องเลียบไปตามกำแพงเมืองเก่าของดูบรอฟนิคอันงดงาม (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในช่วงวันเดินทางนั้นๆ)
- ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
- พักที่ HOTEL SHERATON DUBROVNIK RIVIERA หรือเทียบเท่า
8
Day 8 : เมืองดูบรอฟนิค-เมืองคัฟถัต-กรุงเทพฯ
- 04.30 น. รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมเช้า
- 08.35 น. เหิรฟ้าสู่กรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกี โดยสายการบินเตอร์กิส แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK438
- 11.25 น. เดินทางถึงสนามบินกรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกี
- 17.55 น. เหิรฟ้าสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินเตอร์กิส แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK068
9
Day 9 : กรุงเทพฯ/สุวรรณภูมิ
- 15.00 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ
วันเดินทาง
12-20 เมษายน 2563
สายการบิน

แกรนด์โครเอเชีย 9 วัน (TK)
DEPARTURE/RETURN LOCATION | สนามบินสุวรรณภูมิ (ฺBKK) | |||||||||
DEPARTURE TIME | โปรดเดินทางมาถึงอย่างน้อย 2 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง | |||||||||
INCLUDED |
|
|||||||||
NOT INCLUDED |
|
|||||||||
การชำระเงิน | หากท่านสนใจและประสงค์จะเดินทาง กรุณาจองทัวร์และชำระเงินมัดจำล่วงหน้า 30,000 บาท/ท่าน (เพื่อเป็นการยืนยันการเดินทางของท่าน) กรุณาชำระค่าทัวร์ส่วนที่เหลือล่วงหน้า 30 วัน ก่อนการเดินทาง หากท่านไม่ชำระเงินส่วนที่เหลือตามวันที่กำหนด ทางบริษัทฯ ถือว่าท่านยกเลิกการเดินทางโดยไม่มีเงื่อนไขท่านสามารถโอนเงินเข้ำบัญชีของบริษัทฯ ดังรำยละเอียดดังนี้ ![]() |
|||||||||
การยกเลิก และการเปลี่ยนแปลง |
|
|||||||||
ข้อมูลเกี่ยวกับวีซ่า |
เอกสารประกอบการขอวีซ่า (ใช้เวลายื่น 15 วันทำการ) 1. หนังสือเดินทาง (Passport) หนังสือเดินทาง ต้องมีหน้าเหลือสำหรับประทับวีซ่าอย่างน้อย 2 หน้าต้องมีอายุการใช้งานเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน นับจากหลังวันเดินทาง หนังสือเดินทางห้ามชำรุด หรือขีดเขียนใดๆทั้งสิ้นภายในหนังสือเดินทาง (สำหรับท่านที่มีหนังสือเดินทางเล่มเก่า กรุณานำมาประกอบการยื่นวีซ่าด้วย เพื่อความสะดวกในการพิจารณาวีซ่าของท่าน) 2. รูปถ่าย รูปถ่ายสีหน้าตรงขนาด 1.5 x 2 นิ้ว จำนวน 2 ใบ (สัดส่วนใบหน้าโดยละเอียดเฉพาะใบหน้าสูง 3 ซม. วัดจากหน้าผากถึงคาง***) (ใช้รูปสีพื้นหลังขาวเท่านั้น ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือนและต้องไม่ซ้ำกับรูปวีซ่าที่มีในเล่ม สติ๊กเกอร์ใช้ไม่ได้, ห้ามสวมแว่นตาหรือเครื่องประดับ) และกรุณาเขียนชื่อ-นามสกุลตัวบรรจงไว้ด้านหลังรูป และให้ประกบด้านหน้าเข้าหากัน (กรุณาอย่าให้รูปเลอะหมึก และอย่าให้รูปมีรอยลวดเย็บกระดาษ เพราะสถานฑูตจะไม่รับรูปแบบนี้ ท่านอาจจะต้องถ่ายใหม่) 3. สำเนาทะเบียนบ้าน/บัตรประชาชน หรือ สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้าเคยเปลี่ยน) 4. หลักฐานการเงิน – กรณีผู้เดินทางออกค่าใช้จ่ายเอง ใช้ Bank Statement บัญชีออมทรัพย์ ย้อนหลัง 6 เดือน ของผู้เดินทาง ขอจากทางธนาคารเท่านั้น ต้องเป็น Statement ตัวเต็มจากธนาคารเท่านั้น ไม่ใช่สำเนาจากสมุดบัญชี และ อัพเดทไม่เกิน 15 วันหรืออยู่ในเดือนที่ยื่นวีซ่าสถานทูตไม่รับพิจารณาบัญชีกระแสรายวัน และสถานทูตไม่รับพิจารณาบัญชีฝากประจำ – กรณีผู้เดินทางไม่ได้ออกค่าใช้จ่ายเอง ใช้สำเนา Bank Statement บัญชีออมทรัพย์(ของผู้ที่ออกค่าใช้จ่าย) ย้อนหลัง 6 เดือน 5. หลักฐานการทำงาน(ภาษาอังกฤษและมีอายุ 1 เดือน นับย้อนหลังจากวันนัดสัมภาษณ์) – กรณีเป็นพนักงาน หนังสือรับรองการทำงานจากบริษัทฯ ระบุตำแหน่ง, เงินเดือน, วันเริ่มทำงานและช่วงเวลาที่อนุมัติให้ลาหยุด ต้องสะกดให้ตรงตามหน้าพาสปอร์ต – กรณีเจ้าของกิจการ สำเนาใบทะเบียนการค้าและหนังสือรับรองการจดทะเบียนที่มีชื่อของผู้เดินทางเป็นกรรมการหรือหุ้นส่วน พร้อมทั้ง เซ็นชื่อรับรองสำเนาและประทับตราบริษัทฯ (อายุสำเนาไม่เกิน 3 เดือน) – กรณีเป็นนักเรียน หรือ นักศึกษา ใช้หนังสือรับรองจากทางโรงเรียนหรือสถาบันที่กำลังศึกษาอยู่ (สถานทูตไม่รับเอกสารที่เป็นบัตรนักเรียน ไม่ว่าเป็นช่วงปิดเทอม และต้องมีอายุ 1 เดือน นับย้อนหลังจากวันนัดสัมภาษณ์) ต้องสะกดชื่อ-สกุล ให้ตรงตามหน้าพาสปอร์ต 6. กรณีที่เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี ขอสำเนาสูติบัตร กรณีเด็กไม่ได้เดินทางพร้อมผู้ปกครอง (กรุณาขอ 2 ฉบับ เพื่อสำหรับยื่นวีซ่า 1 ฉบับ และอีก 1 ฉบับ รบกวนเตรียมมาวันเดินทางสำหรับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองที่สนามบิน) – หากเด็กเดินทางไปกับบิดาจะต้องมีใบรับรองจากมารดา โดยมารดาจะต้องคัดจดหมายยินยอมให้บุตรเดินทางไปต่างประเทศกับมารดาโดยมีการรับรองค่าใช้จ่ายพร้อมแจ้งความสัมพันธ์และยินดีชดเชยค่าเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นโดยคัดฉบับจริงจากอำเภอต้นสังกัด พร้อมฉบับแปลภาษาอังกฤษ พร้อมทั้งแนบสำเนาบัตรประชาชนหรือหน้าพาสปอร์ตมารดามาด้วย – หากเด็กเดินทางกับมารดาจะต้องมีใบรับรองจากบิดา โดยบิดาจะต้องคัดจดหมายยินยอมให้บุตรเดินทางไปต่างประเทศกับมารดาโดยมีการรับรองค่าใช้จ่ายพร้อมแจ้งความสัมพันธ์และยินดีชดเชยค่าเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นโดยคัดฉบับจริงจากอำเภอต้นสังกัด พร้อมทั้งแนบสำเนาบัตรประชาชนหรือหน้าพาสปอร์ตบิดามาด้วย – หากเด็กไม่ได้เดินทางทั้งกับบิดาและมารดา โดยบิดาและมารดาจะต้องคัดจดหมายยินยอมให้บุตรเดินทางไปต่างประเทศกับใคร โดยมีการรับรองค่าใช้จ่ายพร้อมแจ้งความสัมพันธ์และยินดีชดเชยค่าเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นโดยคัดฉบับจริงจากอำเภอต้นสังกัด พร้อมทั้งแนบสำเนาบัตรประชาชนหรือหน้าพาสปอร์ตบิดาและมารดามาด้วย พร้อมทั้งแนบสถานะทางการงานและการเงินของบิดาหรือมารดาเพื่อรับรองแก่บุตรด้วย – กรณีเด็กที่บิดา-มารดาหย่าร้าง จะต้องแนบสำเนาใบหย่า และมีการสลักหลังโดยมีรายละเอียดว่าฝ่ายใดเป็นผู้ดูแลบุตรแต่เพียงผู้เดียว – กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี บิดา-มารดาลงชื่อรับรองในแบบฟอร์มสมัครวีซ่า 7. กรณีสมรสแล้ว สำเนาทะเบียนสมรส, สำเนาใบหย่า หรือ สำเนาใบมรณะบัตร (กรณีคู่สมรสเสียชีวิต) เอกสารยื่นวีซ่าอาจมีการปรับเปลี่ยนและขออัพเดทเพิ่มเติมได้ทุกเวลา หากทางสถานทูตแจ้งขอเพิ่มเติม *** ทางสถานทูตไม่ให้ดึงเล่มพาสปอร์ตในทุกกรณี หากลูกค้าจำเป็นต้องใช้พาสปอร์ตเดินทางในช่วงที่ยื่นวีซ่ากรุ๊ป ลูกค้าจะต้องไปแสดงตัวยื่นวีซ่าเดี่ยวเท่านั้นและต้องแนบตั๋วที่จะเดินทางก่อนหน้า เพื่อแจ้งให้สถานทูตรับทราบ ***1 |
|||||||||
เงื่อนไขอื่นๆ |
เอกสารประกอบการขอวีซ่า (ใช้เวลายื่น 15 วันทำการ) 1. หนังสือเดินทาง (Passport) หนังสือเดินทาง ต้องมีหน้าเหลือสำหรับประทับวีซ่าอย่างน้อย 2 หน้าต้องมีอายุการใช้งานเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน นับจากหลังวันเดินทาง หนังสือเดินทางห้ามชำรุด หรือขีดเขียนใดๆทั้งสิ้นภายในหนังสือเดินทาง (สำหรับท่านที่มีหนังสือเดินทางเล่มเก่า กรุณานำมาประกอบการยื่นวีซ่าด้วย เพื่อความสะดวกในการพิจารณาวีซ่าของท่าน) 2. รูปถ่าย รูปถ่ายสีหน้าตรงขนาด 1.5 x 2 นิ้ว จำนวน 2 ใบ (สัดส่วนใบหน้าโดยละเอียดเฉพาะใบหน้าสูง 3 ซม. วัดจากหน้าผากถึงคาง***) (ใช้รูปสีพื้นหลังขาวเท่านั้น ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือนและต้องไม่ซ้ำกับรูปวีซ่าที่มีในเล่ม สติ๊กเกอร์ใช้ไม่ได้, ห้ามสวมแว่นตาหรือเครื่องประดับ) และกรุณาเขียนชื่อ-นามสกุลตัวบรรจงไว้ด้านหลังรูป และให้ประกบด้านหน้าเข้าหากัน (กรุณาอย่าให้รูปเลอะหมึก และอย่าให้รูปมีรอยลวดเย็บกระดาษ เพราะสถานฑูตจะไม่รับรูปแบบนี้ ท่านอาจจะต้องถ่ายใหม่) 3. สำเนาทะเบียนบ้าน/บัตรประชาชน หรือ สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้าเคยเปลี่ยน) 4. หลักฐานการเงิน – กรณีผู้เดินทางออกค่าใช้จ่ายเอง ใช้ Bank Statement บัญชีออมทรัพย์ ย้อนหลัง 6 เดือน ของผู้เดินทาง ขอจากทางธนาคารเท่านั้น ต้องเป็น Statement ตัวเต็มจากธนาคารเท่านั้น ไม่ใช่สำเนาจากสมุดบัญชี และ อัพเดทไม่เกิน 15 วันหรืออยู่ในเดือนที่ยื่นวีซ่าสถานทูตไม่รับพิจารณาบัญชีกระแสรายวัน และสถานทูตไม่รับพิจารณาบัญชีฝากประจำ – กรณีผู้เดินทางไม่ได้ออกค่าใช้จ่ายเอง ใช้สำเนา Bank Statement บัญชีออมทรัพย์(ของผู้ที่ออกค่าใช้จ่าย) ย้อนหลัง 6 เดือน 5. หลักฐานการทำงาน(ภาษาอังกฤษและมีอายุ 1 เดือน นับย้อนหลังจากวันนัดสัมภาษณ์) – กรณีเป็นพนักงาน หนังสือรับรองการทำงานจากบริษัทฯ ระบุตำแหน่ง, เงินเดือน, วันเริ่มทำงานและช่วงเวลาที่อนุมัติให้ลาหยุด ต้องสะกดให้ตรงตามหน้าพาสปอร์ต – กรณีเจ้าของกิจการ สำเนาใบทะเบียนการค้าและหนังสือรับรองการจดทะเบียนที่มีชื่อของผู้เดินทางเป็นกรรมการหรือหุ้นส่วน พร้อมทั้ง เซ็นชื่อรับรองสำเนาและประทับตราบริษัทฯ (อายุสำเนาไม่เกิน 3 เดือน) – กรณีเป็นนักเรียน หรือ นักศึกษา ใช้หนังสือรับรองจากทางโรงเรียนหรือสถาบันที่กำลังศึกษาอยู่ (สถานทูตไม่รับเอกสารที่เป็นบัตรนักเรียน ไม่ว่าเป็นช่วงปิดเทอม และต้องมีอายุ 1 เดือน นับย้อนหลังจากวันนัดสัมภาษณ์) ต้องสะกดชื่อ-สกุล ให้ตรงตามหน้าพาสปอร์ต 6. กรณีที่เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี ขอสำเนาสูติบัตร กรณีเด็กไม่ได้เดินทางพร้อมผู้ปกครอง (กรุณาขอ 2 ฉบับ เพื่อสำหรับยื่นวีซ่า 1 ฉบับ และอีก 1 ฉบับ รบกวนเตรียมมาวันเดินทางสำหรับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองที่สนามบิน) – หากเด็กเดินทางไปกับบิดาจะต้องมีใบรับรองจากมารดา โดยมารดาจะต้องคัดจดหมายยินยอมให้บุตรเดินทางไปต่างประเทศกับมารดาโดยมีการรับรองค่าใช้จ่ายพร้อมแจ้งความสัมพันธ์และยินดีชดเชยค่าเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นโดยคัดฉบับจริงจากอำเภอต้นสังกัด พร้อมฉบับแปลภาษาอังกฤษ พร้อมทั้งแนบสำเนาบัตรประชาชนหรือหน้าพาสปอร์ตมารดามาด้วย – หากเด็กเดินทางกับมารดาจะต้องมีใบรับรองจากบิดา โดยบิดาจะต้องคัดจดหมายยินยอมให้บุตรเดินทางไปต่างประเทศกับมารดาโดยมีการรับรองค่าใช้จ่ายพร้อมแจ้งความสัมพันธ์และยินดีชดเชยค่าเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นโดยคัดฉบับจริงจากอำเภอต้นสังกัด พร้อมทั้งแนบสำเนาบัตรประชาชนหรือหน้าพาสปอร์ตบิดามาด้วย – หากเด็กไม่ได้เดินทางทั้งกับบิดาและมารดา โดยบิดาและมารดาจะต้องคัดจดหมายยินยอมให้บุตรเดินทางไปต่างประเทศกับใคร โดยมีการรับรองค่าใช้จ่ายพร้อมแจ้งความสัมพันธ์และยินดีชดเชยค่าเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นโดยคัดฉบับจริงจากอำเภอต้นสังกัด พร้อมทั้งแนบสำเนาบัตรประชาชนหรือหน้าพาสปอร์ตบิดาและมารดามาด้วย พร้อมทั้งแนบสถานะทางการงานและการเงินของบิดาหรือมารดาเพื่อรับรองแก่บุตรด้วย – กรณีเด็กที่บิดา-มารดาหย่าร้าง จะต้องแนบสำเนาใบหย่า และมีการสลักหลังโดยมีรายละเอียดว่าฝ่ายใดเป็นผู้ดูแลบุตรแต่เพียงผู้เดียว – กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี บิดา-มารดาลงชื่อรับรองในแบบฟอร์มสมัครวีซ่า 7. กรณีสมรสแล้ว สำเนาทะเบียนสมรส, สำเนาใบหย่า หรือ สำเนาใบมรณะบัตร (กรณีคู่สมรสเสียชีวิต) เอกสารยื่นวีซ่าอาจมีการปรับเปลี่ยนและขออัพเดทเพิ่มเติมได้ทุกเวลา หากทางสถานทูตแจ้งขอเพิ่มเติม *** ทางสถานทูตไม่ให้ดึงเล่มพาสปอร์ตในทุกกรณี หากลูกค้าจำเป็นต้องใช้พาสปอร์ตเดินทางในช่วงที่ยื่นวีซ่ากรุ๊ป ลูกค้าจะต้องไปแสดงตัวยื่นวีซ่าเดี่ยวเท่านั้นและต้องแนบตั๋วที่จะเดินทางก่อนหน้า เพื่อแจ้งให้สถานทูตรับทราบ *** |