วันเดินทาง
11 – 22 เมษายน 2563
สายการบิน


ไม่พลาดทุกข่าวสาร ไม่พลาดทุกกิจกรรม เดี๋ยวจะคุยกับเขาไม่รู้เรื่อง กด Add Friend ทางเราได้เลย

เพิ่มเพื่อน

Exotic Norway – Finland 12D 9N

ล่าแสงเหนือ – ล่องเรือตัดน้ำแข็ง – ว่ายน้ำในบ่อน้ำกลางทะเล

เที่ยวนอร์เวย์-ฟินแลนด์ ชมแสงเหนือ ปรากฏการณ์ธรรมชาติอันแสนสวยงามและน่าพิศวง

  • นำท่านสัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่ ล่องเรือตัดน้ำแข็ง POLAR ICEBREAKER
  • ให้ท่านได้ว่ายน้ำในบ่อน้ำกลางทะเลที่หนาวเย็นด้วยอุณหภูมิที่ติดลบกว่า 20 องศาเซลเซียส
  • ชมหมู่บ้านซานตาคลอส
  • พักโรงแรมกระจกสไตล์ Igloo NORTHERN LIGHTS VILLAGE สะดวกสบายมีห้องอาบน้ำในตัว
  • นำท่านออกล่าแสงเหนือด้วย HEATING SLEDGE ตามล่าหาปรากฏการณ์ธรรมชาติแสงออโรร่า
  • นั่งลากเลื่อนสุนัข Husky Safaris ,นั่งเลื่อนกวางเรนเดียร์ และขับ Snowmobile
  • เมืองทรอมโซ เมืองแห่งแสงเหนือ สุดยอดสถานที่ในการตามล่าแสงเหนือ นั่งกระเช้าสู่ยอดเขาโตรสไตเนิน (STORSTEINEN MOUNTAIN)
  • ชมทุกจุดไฮไลท์ของเกาะโลโฟเตน
  • นำท่านสัมผัสประสบการณ์จับปูยักษ์ตัวเป็นๆ ให้ท่านได้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึก พร้อมลิ้มรสอาหารปรุงพิเศษจากเนื้อปูยักษ์แบบสดๆให้ท่านได้รับประทาน ฯลฯ

 

1

Day 1: Departure

กรุงเทพฯ-เฮลซิงกิ-โรวาเนียมี่
  • 06.00 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับและตรวจเอกสารการเดินทาง ณ เคาน์เตอร์สายการบินฟิน แอร์ ชั้น 4 ประตูทางเข้าที่ 4 แถว G
  • 09.05 น. เหิรฟ้าสู่สนามบินเฮลซิงกิ” โดยสายการบินฟินแอร์ เที่ยวบินที่ AY142 สายการบินฯ มีอาหารเช้า และอาหารกลางวัน บริการระหว่างเที่ยวบินสู่เฮลซิงกิ
  • 15.00 น. เดินทางถึงสนามบิน กรุงเฮลซิงกิ  (HELSINKI) เพื่อแวะเปลี่ยนเครื่อง
  • 16.20 น. ออกเดินทางสู่ เมืองโรวาเนียมี โดย สายการบินฟิน แอร์ เที่ยวบินที่ AY535
  • 17.40 น. เดินทางถึงสนามบิน เมืองโรวาเนียมี่ (ROVANIEMI) นครหลวงของเขต แลปแลนด์ ดินแดนมหัศจรรย์บริเวณเส้นอาร์คติก (เส้นแบ่งเขตอบอุ่นกับเขตหนาวเหนือ) หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง
  • ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารจีน
  • จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม SCANDIC ROVANIEMI CITY HOTEL หรือเทียบเท่า
2

Day 2

โรวาเนียมี่-เคมิ
  • เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

เมืองเคมิ

08.00 น. นำท่านเดินทางสู่ เมืองเคมิ (Kemi) (ระยะทาง 117 กิโลเมตร) เมืองท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ริมอ่าวน้ำลึกบอธเนีย (Gulf of Bothnia) บริเวณทางตอนเหนือของทะเลบอลติค (Baltic Sea) มีประชากรอาศัยอยู่เพียง 22,000 คน แต่เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่มีความสำคัญของแลปแลนด์

POLAR EXPLORER ICEBREAKER

13.00 น. นำท่านเดินทางสู่ท่าเรือของ POLAR EXPLORER ICEBREAKER เรือตัดน้ำแข็ง หรือ ไอซ์เบรกเกอร์ ที่โด่งดังที่สุดในโลก หลังจากปลดประจำการแล้ว มีการนำมาให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับความหฤหรรษ์กับประสบการณ์ ใหม่ ๆ จากเรือทลายน้ำแข็งที่บดทลายมากว่า 30 ปีในเขตอาร์คติก

POLAR EXPLORER ICEBREAKER

นำท่านสัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ที่ยากจะลืมเลือน จากการทลายทุ่งน้ำแข็งที่จับตัวหนากว่า 1 เมตรในแต่ละวัน ว่ายน้ำทะเล ICE SWIMMING ลงว่ายน้ำในบ่อน้ำกลางทะเลที่หนาวเย็น และล้อมรอบไปด้วยน้ำแข็งหนา อุณหภูมิที่ติดลบกว่า 20 องศาเซลเซียสโดย ชุดพิเศษA WATER RIGHT  THERMAL SUITพร้อมรับประทานอาหารว่างบนเรือตัดน้ำแข็ง

  • เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร อาหารท้องถิ่น

13.00 น. จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่เมืองเคมิ (ระยะทาง 73 กิโลเมตร)

นำท่านชม Snow Castle อันเป็นผลงานประติมากรรมระดับโลก โดยครั้งนี้เป็นครั้งที่ 19 ในทุก ๆ ปีของฤดูหนาว จะมีการรังสรรค์ผลงานอันยิ่งใหญ่ ทีมงานผู้ชำนาญการจะเริ่มการแกะสลัก และนำเอาน้ำแข็งก้อนมหึมามาตกแต่งเป็นรูปแบบต่าง ๆ รวมถึงการจำลองแบบให้เป็นเมืองน้ำแข็งที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลกโดยฝีมือมนุษย์

  • ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
  • นำท่านสู่ที่พักโรงแรม SCANDIC KEMI HOTEL หรือเทียบเท่า
3

Day 3

เคมิ-โรวาเนียมี่-ซาลิเซลก้า
  • เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
  • นำท่านเดินทางกลับสู่โรวาเนียมี (ระยะทาง 117 กิโลเมตร)

สุนัขฮัสกี้ (HUSKY FARM)

นำท่านทำกิจกรรมสุนัขลากเลื่อนโดยสุนัขฮัสกี้ (HUSKY FARM) ฮัสกี้เป็นสุนัขที่มีมายาวนานกว่า 3,000 ปีมาแล้ว เพื่อใช้ในการลากเลื่อนบรรทุกสิ่งของ หรือเป็นพาหนะในพื้นที่ที่ปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง และหิมะจึงถือได้ว่าเป็นสุนัขลากเลื่อนพันธุ์แท้ ที่มีประสิทธิภาพในการลากเลื่อนสูงสุดในบรรดาสุนัขลากเลื่อนทั้งหมด ทั้งนี้เนื่องจากสุนัขมีน้ำหนักเบา คล่องตัว ว่องไว แข็งแรง อดทนต่อความหนาวเย็น และความอดอยากในฤดูหนาวได้ดี รวมทั้งมีความอดทนต่อความเหนื่อยล้าเป็นที่หนึ่งจึงทำให้สามารถลากเลื่อนด้วยความเร็วเป็นเวลาติดต่อกันนานๆ ในอุณหภูมิที่ต่ำกว่าศูนย์องศา สุนัขลากเลื่อนยังเป็นกีฬายอดนิยม โดยมีมัชเชอร์ (MUSHER)เป็นผู้บังคับเลื่อนในการแข่งขันแต่ละครั้งจนแพร่หลายไปยังหลายประเทศแถบขั้วโลก

SANTA CLAUS VILLAGE

จากนั้นนำท่านสู่ หมู่บ้านซานตาคลอส (SANTA CLAUS VILLAGE) ตั้งอยู่บนเส้น อาร์คติกเซอร์เคิล ภายในหมู่บ้านมีที่ทำการไปรษณีย์ สำหรับท่านที่ต้องการส่งของขวัญไปยังคนที่ท่านรัก ร้านขายของที่ระลึก ถ่ายรูปกับคุณลุงซานตาที่ใจดีเป็นที่ระลึกในการมาเยือน **ค่าถ่ายรูปไม่รวมอยู่ในค่าทัวร์ **

จากนั้นนำท่าน ถ่ายภาพกับเส้นอาร์คติกเซอร์เคิล (ARCTIC CIRCLE) เส้นแบ่งเขตแดนตามเส้นรุ้งและเส้นแวงเพื่อกำหนดขอบเขตของบริเวณซีกโลกเหนือ โดยเส้นอาร์คติกเซอร์เคิลจะอยู่ที่66 องศา 32 ลิปดา 44 ฟิลิปดาเหนือ เป็นตัวบ่งบอกจุดเหนือสุดที่ในเวลา 1 ปี คนที่อยู่แถบนี้จะไม่ได้พบกับพระอาทิตย์ขึ้นเลยอย่างน้อย 24 ชั่วโมง หรือพระอาทิตย์ไม่ตกเลยเป็นเวลาอย่างน้อย 24 ชั่วโมง

  • เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร อาหารท้องถิ่น

นำท่านเดินทางสู่ เมืองซาลิเซลก้า (Saariselka) เมืองท่องเที่ยวตั้งอยู่ทางตอนเหนือของฟินแลนด์มีชื่อเสียง อย่างมากทางด้านที่พักและรีสอร์ท(ระยะทาง 258 กิโลเมตร)
นำท่านสัมผัสประสบการณ์พิเศษ นำเข้าพักในหมู่บ้านเรือนกระจก ซึ่งได้ถูกออกแบบพิเศษ ผลิตจากกระจกนำความร้อนแบบพิเศษ มีการปรับอุณหภูมิภายในห้องอบอุ่นตลอดเพื่อให้ป้องกันหิมะเกาะเป็นน้ำแข็ง และไม่ให้บดบังทัศนียภาพความงามด้านนอกห้อง เพื่อให้ท่านได้ชมวิวภายนอกอย่างชัดเจน และไม่ควรพลาดกับประสบการณ์การเข้าพักในช่วงฤดูหนาว ในวันที่ท้องฟ้าเปิดท่านจะได้นอนบนเตียงแสนอุ่นพร้อมชมวิวแสงเหนือสุดสวยที่รอคอยทุกท่านในค่ำคืนฤดูหนาว

  • ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารท้องถิ่น นำท่านนำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม NORTHERN LIGHTS VILLAGE GLASS IGLOOS HOTEL หรือเทียบเท่า


จากนั้นนำท่านสัมผัสกิจกรรมอันดับหนึ่งของการท่องเที่ยว นำท่าน ตามล่าหาแสงเหนือโดยการนั่ง HEATING SLEDGE เป็นเวลา 3 ชั่วโมง พร้อมบริการน้ำเบอร์รี่อุ่นๆ ระหว่างการท่องเที่ยว ได้เวลาอันสมควร สัมผัสกับประสบการณ์ อันน่าประทับใจในการ ล่าแสงเหนือ โดยทางบริษัท ฯ จะมีการจัดเตรียมเครื่องกันหนาวให้ท่านอย่างครบถ้วน ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พัก KAKSLAUTTANEN ARCTIC RESORT GLASS IGLOOS

4

Day 4

ซาลิเซลก้า-อินาริ-คิร์เคนเนส
  • เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
  • นำท่านเดินทางสู่เมืองอินาริ (Inari)

REINDEER-SLEDDING

นำท่านสัมผัสประสบการณ์ ด้วยการนั่งรถลากเลื่อนโดยกวางเรนเดียร์ (REINDEER-SLEDDING) ยานพาหนะของซานตาคลอส ท่านสามารถให้อาหาร และสัมผัสความน่ารักของกวางเรนเดียร์ได้อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร

ขับขี่สโนว์โมบิล (SNOWMOBILE)

จากนั้นนำท่านสัมผัสกิจกรรมอันดับหนึ่งของการท่องเที่ยวแบบตะลุยหิมะ ด้วยการขับขี่สโนว์โมบิล (SNOWMOBILE) พาหนะที่คล่องตัวที่สุดในการเดินทางบนหิมะหรือน้ำแข็ง โดยท่านจะได้รับคำแนะนำในการขับขี่ที่ถูกต้อง สนุกสนานและปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ และชำนาญเส้นทางในการเดินทางท่อง เที่ยวแบบสโนว์โมบิลซาฟารี

  • เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

KIRKENES

นำท่านเดินทางสู่ คิร์เคนเนส (KIRKENES) (ระยะทาง 279 กิโลเมตร) ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของนอร์เวย์ในเขตอาร์คติดเซอร์เคิล (ATCTIC CIRCLE) ซึ่งมีเขตติดกับประเทศรัสเซีย และยังเป็นเมืองหลวงของภูมิภาคบาเรนส์ (BARENTS) เป็นอีกเมืองหนึ่งของนอร์เวย์ที่มีชื่อเสียง และได้รับความนิยมมากในช่วงฤดูหนาว เนื่องจากมีกิจกรรมมากมายสำหรับนักท่องเที่ยว อาทิ สุนัขลากเลื่อน, กวางลากเลื่อน, SNOW MOBILE, การตกปลาในน้ำแข็ง, การนอนใน SNOW HOTEL และกิจกรรมอื่นๆอีกมากมาย ให้นักท่องเที่ยวผู้มาเยือนได้เลือกทำกัน จนกระทั่งเดินทางถึง เมืองคิร์เคนเนส

  • ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
  • นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม THON HOTEL KIRKENES หรือเทียบเท่า
5

Day 5

 คิร์เคนเนส-ทรอมโซ
  • เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมKing Crab Safari
  • นำท่าน สัมผัสประสบการณ์จับปูยักษ์ (King Crab Safari) โดยนั่งเรือ หรือ รถสโนว์โมบิล (ขึ้นกับสภาพอากาศ หากน้ำแข็งมีการจับตัวมากในช่วงหน้าหนาว ทางเรือจะจัดเป็นนั่งสโนว์โมบิลแทน) ตื่นตาตื่นใจกับการจับปูยักษ์ตัวเป็นๆให้ท่านได้ลองจับและถ่ายภาพเป็นที่ระลึก กับกิจกรรมจับปูยักษ์นับเป็นอีกกิจกรรมที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
  • 13.30 น. พิเศษให้ท่านรับประทานอาหารกลางวัน ลิ้มรสเนื้อปูยักษ์แบบสดๆให้ท่านได้รับประทาน
  • 14.30 น. นำท่านแวะถ่ายรูปกับ Russian Monument และ War Mothers Monument ซึ่งเป็นอนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงชัยชนะและความสูญเสียของเมืองเคิร์กเคเนสในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
  • 17.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารท้องถิ่น
  • 18.00 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบิน คิร์เคนเนส
  • 21.05 น. ออกเดินทางสู่ เมืองทรอมโซ โดย สายการบินวิเดโร แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ WF915

TROMSO

22.20 น. เดินทางถึง เมืองทรอมโซ (TROMSO) เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของนอร์เวย์อยู่ในเขตมณฑลทรอมทางตอนเหนือของนอร์เวย์และทางตอนเหนือของคาบสมุทรสแกนดิเนเวียน อีกทั้งยังเป็นเมืองใหญ่ที่สุด ในเขตอาร์คติกเซอร์เคิล (ARCTIC CIRCLE) อีกด้วย หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว

  • 23.30 น. นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม RADISSON BLU HOTEL หรือเทียบเท่า
6

Day 6

ทรอมโซ–นาร์วิค
  • เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
  • นำท่าน ชมย่านใจกลางเมือง ให้ท่านได้ชื่นชมความงดงามของสถาปัตยกรรมที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมโดยเฉพาะเหล่าอาคารบ้านไม้เก่าแก่ที่ถูกแต่งแต้มด้วยสีสันสดใสฉูดฉาด

พิพิธภัณฑ์ขั้วโลก (POLAR MUSEUM)

นำท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์ขั้วโลก(Polar Museum) อีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์ที่อยู่ในอาคารไม้สีแดง มีลักษณะคล้ายๆกับโกดังเก็บของ ตั้งอยู่บนท่าเทียบเรือ เป็นอีกหนึ่งอาคารแห่งประวัติศาสตร์ของนอร์เวย์ ซึ่งถูกสร้างขึ้นในช่วงปี 1830 ภายในมีการจัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของภูมิภาค การสำรวจขั้วโลก รวมไปถึงพื้นที่ในแถบอาร์คติก นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงเกี่ยวกับการล่าสัตว์ในเขตอาร์คติก ซึ่งได้แก่ ปลาวาฬ หมีขั้วโลก และสิงโตทะเล

มหาวิหารอาร์คติก (ARCTIC CATHEDRAL

จากนั้นนำท่านเข้าชม มหาวิหารอาร์คติก (ARCTIC CATHEDRAL) มหาวิหารที่สร้างขึ้นในรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ สร้างขึ้นในปี 1965 อีกทั้งยังมีโครงสร้างโดดเด่น ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจในการ สร้างมากจากสภาพภูมิทัศน์ในแบบภาคเหนือของนอร์เวย์ มหาวิหารอาร์คติกยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอีกแห่ง หนึ่งของเมืองทรอมโซ เนื่องจากเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถชมความงามของพระอาทิตย์เที่ยงคืน ได้อย่างชัดเจนจากนั้นนำท่านช้อปปิ้งเลือกซื้อสินค้าและของฝาก ณ ห้างสรรพสินค้า Nerstranda Shopping Center

นั่งเคเบิ้ลคาร์สู่ยอดเขาสโตรสไตเนิน (STORSTEINEN MOUNTAIN)

จากนั้นนำท่าน นั่งเคเบิ้ลคาร์สู่ยอดเขาสโตรสไตเนิน (STORSTEINEN MOUNTAIN) เป็นยอดเขาสูงที่มีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นเมืองทรอมโซและบริเวณใกล้เคียงที่มีลักษณะเป็นเกาะใหญ่แยกจากกันโดยมีร่องน้ำซึ่งเกิดจากการกัดเซาะตั้งแต่ยุคน้ำแข็ง กลายเป็นฟยอร์ดอยู่โดยรอบ อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความประทับใจของเมืองทรอมโซจากมุมสูง

  • เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
  • บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองนาร์วิค (NARVIK) เมืองทางตอนเหนือของประเทศนอร์เวย์ที่แวดล้อมด้วยภูเขาและทะเลอันกว้างใหญ่ มีชื่อเสียงในเรื่องของพื้นที่การเล่นสกีที่มีความเป็นเอกลักษณ์ โดยสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างมากในช่วงฤดูหนาว อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในการดูแสงเหนือ พร้อมกับแนวชายฝั่งฟยอร์ดและวิวภูเขาที่รายล้อมเมืองอย่างสวยงาม อีกทั้งยังเป็นเมืองที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงเสด็จประพาสอีกด้วย
  • ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
  • จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม SCANDIC NARVIK HOTEL หรือเทียบเท่า
7

Day 7

นาร์วิค-เฮนนิ่งสวาร์-สโววาร์
  • เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ หมู่เกาะลอฟโฟเทน (LOFOTEN ISLANDS) ตั้งอยู่ที่เมือง NORDLAND ประเทศนอร์เวย์ เป็นหมู่บ้านของชาวประมงที่ผู้คนส่วนใหญ่ยังคงพึ่งพาการหาปลาในช่วงฤดูหนาว และทำปลาตากแห้งส่งออกที่มีชื่อเสียง โด่งดังไปทั่วโลก เอกลักษณ์ที่สำคัญของหมู่เกาะแห่งนี้ก็คือ กระท่อมสีแดงแบบดั้งเดิม (RORBUER) ของชาวประมงที่กลายเป็นสีสันริมชายฝั่ง ที่ไม่ว่าใครได้มาเยือนก็ต้องถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึกไปซะทุกราย เป็นหนึ่งในสถานที่สำหรับกา รดูแสงเหนือที่โรแมนติกที่สุดแห่งหนึ่งของนอร์เวย์ เนื่องจากความมหัศจรรย์ ทางธรรมชาติที่ถูกเสกสร้างมาอย่างพิถีพิถัน มีผืนน้ำสีฟ้าคราม ท้องฟ้าสีใส ภูเขาสูงตระหง่าน แทรกแซมด้วยบ้านชาวประมงทรงสวยแปลกตา นับว่าเป็นเมืองสวยท่ามกลางธรรมชาติที่ดูคล้ายเมืองในจินตนาการมากกว่าความจริง จนกระทั่งเดินทางถึง เมืองสโววาร์ หมู่เกาะโลโฟเทน

HENNINGSVAER

เดินทางสู่ เมืองท่า HENNINGSVAER เป็นเมืองท่าและหมู่บ้านชาวประมงที่ปัจจุบันชาวบ้านยังคงประมงกันอยากคึกคัก เป็นอีกเมืองยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวต่างพากัน  มาแวะเวียน ซึ่งจุดเด่นของเมืองนี้คือบ้านชาวประมงสีแดง (RORBUER) ตั้งอยู่ริมทะเล มีอ่าวจอดเรือประมงเรียงรายอยู่มากมาย เป็นภาพที่สวยงามตัดกับวิวภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะในช่วงฤดูหนาว ถือเป็นภาพที่สวยงามไม่น้อย ให้ท่านได้เดินเล่นและเก็บภาพความประทับใจตามอัธยาศัย จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร

  • เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร อาหารท้องถิ่น
  • บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองสโววาร์ (SVOLVAER)

Magic Ice Bar Svolvær
จากนั้นนำท่านเข้าชม Magic Ice Bar Svolvær พบกับการผจญภัยที่น่าอัศจรรย์กับของเขตอาร์กติก โดยสิ่งของภายในจัดทำขึ้นจากน้ำแข็ง และการติดตั้งที่มีแสงไฟ LED ที่มีสีสันผสมผสานดนตรีสร้างบรรยากาศที่มีเสน่ห์เฉพาะ เมจิกไอซ์เป็นดินแดนมหัศจรรย์ในฤดูหนาวที่ซึ่งจะช่วยให้ท่านได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศอันไม่ธรรมดาของดินแดนแห่งน้ำแข็งที่สมกับเป็น ‘Winter Wonderland’ อย่างแท้จริง

  • ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารจีน
  • นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม THON HOTEL LOFOTEN หรือเทียบเท่า
8

Day 8

 หมู่เกาะโลโฟเทน
  • เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

EGGUM

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่  EGGUM  ตั้งอยู่บนฝั่งทะเลของเกาะ Vestvågøy เพียงแห่งเดียวที่อยู่ระหว่างทะเลกับภูเขา  ชมจุดชมวิวที่หันหน้าไปทางทะเล เป็นพื้นที่พักผ่อนในรูปวงกลม มีงานศิลปะที่สวยงามของศิลปิน Marcus Raetz ท่านจะได้เห็น ป้อมปราการเก่าแก่ขนาดใหญ่ EGGUM และซากปรักหักพังตั้งแต่สมัยสงครามโลก ไม่เพียงแต่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ในอดีต แต่บริเวณนี้ยังมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม หากขึ้นไปยังป้อมปราการเก่าจะสามารถมองเห็นวิวทะเลตัดกับท้องฟ้าและภูเขาขนาดใหญ่ที่ตั้งเรียงรายสูงต่ำสลับกัน จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร

  • นำท่านเดินทางสู่ เมือง LEKNES อีกหนึ่งเมืองสวยอันขึ้นชื่อของหมู่เกาะ LOFOTEN นำท่านเดินเล่นชมเมือง และเก็บภาพความประทับใจ

พิพิธภัณฑ์เรือไวกิ้ง (VIKING SHIP MUSEUM)

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พิพิธภัณฑ์ไวกิ้ง (LOFOTR VIKING MUSEUM) เนื่องจากบริเวณหมู่เกาะลอฟโฟเทน มีการค้นพบว่าเป็นที่ตั้งของชุมชนชาวไวกิ้งในอดีต บนเกาะจึงมีพิพิธภัณฑ์ไวกิ้งที่แสดงเรื่องราวและหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของชาวไวกิ้งไว้มากมาย ซึ่งรูปแบบพิพิธภัณฑ์ถูกออกแบบโดยใช้โครงเรือไวกิ้งโบราณและภายในได้จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้และเรื่องราวเกี่ยวกับวิถีชีวิตของชาวไวกิ้ง ให้ท่านชมพิพิธภัณฑ์ไวกิ้ง และพายเรือไวกิ้งโบราณ ซึ่งเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่พลาดไม่ได้ เมื่อไปเยือนพิพิธภัณฑ์ไวกิ้งแห่งนี้

  • เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารไทย
  • บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง Stamsund เป็นเมืองหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆน่ารัก
  • นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม  LIVE LOFOTEN HOTEL หรือเทียบเท่า
  • ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
9

Day 9

 หมูบ้านA-โซวาเก้น-รีนน์-หมู่เกาะโลโฟเทน
  • เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

Å Lofoten

นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้าน Å เป็นหมู่บ้านที่ได้ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดบนหมู่เกาะ LOFOTEN อันเป็นจุดสิ้นสุดของถนนสายหลัก E10 ซึ่งถือว่าเป็นหมู่บ้านที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากนักท่องเที่ยว ให้ท่านได้ใช้เวลาชมความงดงาม และถ่ายภาพตามอัธยาศัย

หมู่บ้านฮัมนอย (Hamnøy)

จากนั้นเดินทางต่อไปยังหมู่บ้านฮัมนอย (Hamnøy) หมู่บ้านชาวประมงที่เก่าแก่ที่สุดในหมู่เกาะ Lofoten ที่สวยงามมีขนาดเล็ก แต่สวยงามไม่น่าเชื่อ ถือได้ว่าเป็นหมู่บ้านที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองโมสเคนเนสซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมเนื่องจากมีทัศนียภาพและธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองโซวาเก้น (SORVAGEN)

  • เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

REINE

บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางไปยัง เมืองรีนน์ (REINE) ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะ ระหว่างสองข้างทางท่านจะได้เพลิดเพลินกับธรรมชาติอันสวยงามแปลกตา ไปตามถนนสาย E10 ซึ่งเป็นถนนเส้นหลักสายเดียวของหมู่เกาะลอฟโฟเทน นำท่านเดินทางผ่านถนนเส้นเล็กๆเชื่อต่อระหว่างเกาะเล็กเกาะน้อย ข้ามสะพานต่างๆ จนกระทั่งเดินทางถึง เมือง REINE ให้ท่านได้เดินเล่นชมเมือง และถ่ายรูปเก็บภาพความประทับใจ จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร

  • ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
  • นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม  LIVE LOFOTEN HOTEL หรือเทียบเท่า
10

Day 10

หมู่เกาะโลโฟเทน-เลกเนส-ออสโล
  • เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

LEKNES

จากนั้นนำท่าน เดินทางสู่ หมู่บ้าน BALLSTAD หมู่บ้านชาวประมงแบบดั้งเดิมบนหมู่เกาะโลโฟเทนที่มีอายุกว่า 1,000 ปี ถือว่าเป็นหมู่บ้านชาวประมงขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง และยังเป็นอีกมุมหนึ่งที่ท่านสามารถถ่ายภาพกระท่อมชาวประมงหลังสีแดง ตัดกับพื้นน้ำทะเลและท้องฟ้าอันสวยงามได้ถือเป็นวิวจุดขายแห่งหนึ่งของหมู่เกาะลอฟโฟเทน กระทั่งได้เวลาอันสมควร

  • 11.45 น. อาหารกลางวันในสนามบิน (Allowance 20 EUR.)
  • 13.50 น. ออกเดินทางสู่ เมืองออสโล (OSLO) ประเทศนอร์เวย์ โดยสายการบินวิเดโร แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ WF801
  • 16.10 น. เดินทางถึงสนามบินเมืองออสโล นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง
  • 18.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารในโรงแรม นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พักโรงแรม CLARION HOTEL THE HUB หรือเทียบเท่า
11

Day 11

ออสโล-เฮลซิงกิ 
  • เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
  • นำท่านเดินทางสู่ ย่านเอเคอร์ บรูค (Aker Brygge) และที่ตั้งของ ศาลาว่าการ (Town Hall) แนวอาร์ตเดคโค สถาปัตยกรรมที่ดูทันสมัย ประดับไปด้วย น้ำพุ สวน และประติมากรรม เติมแต่งให้ดูกลมกลืน ใกล้กันเป็น The Nobel Peace Centre สถานที่ที่มีการจัดแสดงเกี่ยวกับผู้ที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติและไกลออกไปคือ โรงโอเปร่า (The Norwegian National Opera & Ballet) ที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ด้วยแนวคิดสถาปัตยกรรมร่วมสมัย
  • 10.00 น. จากนั้นนำท่านเดินทางสู่สนามบิน เพื่อเดินทางสู่เฮลซิงกิ (Helsinki) อาหารกลางวันในสนามบิน (Allowance 20 EUR.)
  • 13.15 น. ออกเดินทางสู่ เมืองเฮลซิงกิ (Helsinki) ประเทศฟินแลนด์ โดยสายการบินฟิน แอร์ เที่ยวบินที่ AY914
  • 15.40 น. เดินทางถึงสนามบินเมืองเฮลซิงกิ นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง
สำหรับกรุ๊ปเดินทางเดือนเมษายน ต้องเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยสาย

การบินสายการบินฟิน แอร์ เที่ยวบินที่ AY141 เวลา 17.30 เดินทางถึง กรุงเทพฯเวลา 07.15+1

 

SIBELIUS MONUMENT

17.00 น. ผ่านชมอุทยานที่ตั้งของ อนุสาวรีย์ชานเซเบลลุส (SIBELIUS MONUMENT) บุคคลสำคัญของประเทศ ผู้ประพันธ์เพลงปลุกใจรักชาติ ผ่านชมมหาวิหารเฮลซิงกิ (Helsinki Cathedral) ซึ่งในอดีตเรียกว่าโบสถ์นิโคลัส เป็นมหาวิหารสีขาวบริสุทธิ์สวยงาม ตั้งเด่นตระหง่านอยู่จนเรียกว่าเป็นจุดแลนด์มาร์กของเฮลซิงก็ว่าได้ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปกันอย่างเป็นจำนวนมาก
อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าที่ตลาดนัดริมทะเล (Market Square) ที่มีชื่อเสียงนอกจากจะเป็นตลาดย่านใจกลางเมืองที่ขายของที่ระลึกแก่นักท่องเที่ยว แหล่งขายปลานานาชนิด อาหาร ผลไม้ และดอกไม้แล้ว ยังเป็นที่ตั้งสถานที่สำคัญ อาทิ ทำเนียบประธานาธิบดี, ศาลากลางและโบสถ์ อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย ในย่านถนนคนเดิน หรือห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ที่เต็มไปด้วยสินค้าแบรนด์เนมราคาพิเศษ

  • 18.30 น. อิสระอาหารค่ำ เพื่อให้ท่านช้อปปิ้งตามอัธยาศัย (Allowance 20 EUR)
  • 20.30 น. จากนั้นนำท่านเดินทางสู่สนามบิน  เพื่อเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ
12

Day 12

เฮลซิงกิ-กรุงเทพฯ
  • 00.40 น. ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินสายการบินฟิน แอร์ เที่ยวบินที่ AY143
  • 15.35 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ
วันเดินทาง
11 – 22 เมษายน 2563
สายการบิน

Exotic Norway – Finland  12 Days 9 Nights (AY)

DEPARTURE/RETURN LOCATION สนามบินสุวรรณภูมิ  (ฺBKK)
DEPARTURE TIME โปรดเดินทางมาถึงอย่างน้อย 2 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง
INCLUDED
ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ กรุงเทพ-เฮลซิงกิ-โรวาเนียมี่-ออสโล-กรุงเทพฯ โดยสายการบินฟินน์ แอร์
ค่าตั๋วเครื่องบิน คิร์เคนเนส-ทรอมโซ / เลกเนส-ออสโล โดยสายการบิน วิเดโร แอร์ไลน์
ค่าภาษีสนามบินทุกแห่ง และค่าประกันภัยสายการบิน
ค่าโรงแรมที่พัก 9 คืน ระดับมาตรฐาน (พักห้องละ 2 ท่าน)
ค่าอาหารทุกมื้อตามที่ระบุในโปรแกรม และค่าน้าดื่ม วันละ 1 ขวด/ท่าน
ค่าพาหนะในการนาเที่ยว ตลอดการเดินทาง
ค่าเข้าชมสถานที่ตามระบุไว้ในโปรแกรม

ค่าวีซ่าประเทศนอร์เวย์

ค่ามัคคุเทศก์ท้องถิ่น และหัวหน้าทัวร์คนไทย คอยอำนวยความสะดวกให้แก่ท่านตลอดการเดินทาง
ค่าประกันอุบัติเหตุระหว่างการเดินทางในวงเงินท่านละ1,000,000บาทและค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศวงเงิน 500,000 บาท (ประกันไม่ครอบคลุมผู้ที่มีอายุตั้งแต่75ปีขึ้นไป)
NOT INCLUDED
ค่าทิปไกด์ท้องถิ่น, คนขับรถฯ วันละ 5 ยูโร ต่อท่าน ต่อวัน รวม 10 วัน คิดเป็น 50 ยูโร
ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ไทย วันละ 3 ยูโร ต่อท่าน ต่อวัน รวม 12 วัน คิดเป็น 36 ยูโร หรือขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของท่าน
ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอาทิ ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, ค่าเครื่องดื่มในห้องพัก และค่าอาหารที่สั่งมาในห้องพักค่าอาหารและเครื่องดื่มที่สั่งพิเศษในร้านอาหารนอกเหนือจากที่ทางบริษัทจัดให้ยกเว้นจะตกลงกันเป็นกรณีพิเศษ เช่น หากท่านทานได้เฉพาะอาหารทะเลเพียงอย่างเดียว ท่านต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม
ค่าทำหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต)
ค่าน้าหนักของกระเป๋าเดินทางที่เกินกว่าสายการบินกาหนด (20 กก./1ใบ/ท่าน)
ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%
ค่าธรรมเนียมน้ำมันของสายการบิน (หากมีการปรับขึ้น)
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ไม่ได้ระบุไว้ในรายการ
ไม่มีแจกกระเป๋าหรือของพรีเมี่ยมต่างๆ
การชำระเงิน หากท่านสนใจและประสงค์จะเดินทาง กรุณาจองทัวร์และชำระเงินมัดจำล่วงหน้า 20,000 บาท/ท่าน (เพื่อเป็นการยืนยันการเดินทางของท่าน)

กรุณาชำระค่าทัวร์ส่วนที่เหลือล่วงหน้า 30 วัน ก่อนการเดินทาง หากท่านไม่ชำระเงินส่วนที่เหลือตามวันที่กำหนด ทางบริษัทฯ ถือว่าท่านยกเลิกการเดินทางโดยไม่มีเงื่อนไข

ท่านสามารถโอนเงินเข้ำบัญชีของบริษัทฯ ดังรายละเอียดดังนี้

การยกเลิก และการเปลี่ยนแปลง
ยกเลิกก่อนการเดินทาง 45 วัน  คืนค่าใช้จ่ายทั้งหมด (ยกเว้นค่าวีซ่าที่ยื่นและตั๋วเครื่องบินที่ออกล่วงหน้าและกรุ๊ปที่เดินทางช่วงวันหยุดหรือเทศกาล (สงกรานต์ วันแรงงาน ช่วงเดือนตุลาคม และปีใหม่) ที่ต้องการันตี มัดจำกับทางสายการบินหรือกรุ๊ปที่มีการ การันตีค่ามัดจำที่พัก โดยตรงหรือโดยการผ่านตัวแทนในประเทศหรือต่างประเทศและไม่อาจขอคืนเงินได้)
ยกเลิกก่อนการเดินทาง 30-44 วัน  หักค่ามัดจำ 40,000 บาท + ค่าวีซ่า (ถ้ามี)
ยกเลิกก่อนการเดินทาง 10-29 วัน  หักค่ามัดจำ 40,000 บาท + ค่าใช้จ่ายอื่น (ถ้ามี)
ยกเลิกก่อนการเดินทาง 1-9 วัน  หักค่าใช้จ่าย 100% ของค่าทัวร์
หากมีการยกเลิกการจองทัวร์ หลังได้ทำการยื่นวีซ่าเรียบร้อยแล้ว บริษัทขอสงวนสิทธิ์ใน
การนำเล่มพาสปอร์ตไปยกเลิกวีซ่าในทุกกรณี ไม่ว่าค่าใช้จ่ายในการยื่นวีซ่าจะรวมหรือแยกจากรายการทัวร์ก็ตาม

ข้อมูลเกี่ยวกับวีซ่า

เอกสารประกอบการขอวีซ่า (ใช้เวลายื่น 15 วันทำการ)
1. หนังสือเดินทาง (Passport) หนังสือเดินทาง ต้องมีหน้าเหลือสำหรับประทับวีซ่าอย่างน้อย 2 หน้าต้องมีอายุการใช้งานเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน นับจากหลังวันเดินทาง หนังสือเดินทางห้ามชำรุด หรือขีดเขียนใดๆทั้งสิ้นภายในหนังสือเดินทาง (สำหรับท่านที่มีหนังสือเดินทางเล่มเก่า กรุณานำมาประกอบการยื่นวีซ่าด้วย เพื่อความสะดวกในการพิจารณาวีซ่าของท่าน)
2. รูปถ่าย รูปถ่ายสีหน้าตรงขนาด 1.5 x 2 นิ้ว จำนวน 2 ใบ (สัดส่วนใบหน้าโดยละเอียดเฉพาะใบหน้าสูง 3 ซม. วัดจากหน้าผากถึงคาง***) (ใช้รูปสีพื้นหลังขาวเท่านั้น ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือนและต้องไม่ซ้ำกับรูปวีซ่าที่มีในเล่ม สติ๊กเกอร์ใช้ไม่ได้, ห้ามสวมแว่นตาหรือเครื่องประดับ) และกรุณาเขียนชื่อ-นามสกุลตัวบรรจงไว้ด้านหลังรูป และให้ประกบด้านหน้าเข้าหากัน (กรุณาอย่าให้รูปเลอะหมึก และอย่าให้รูปมีรอยลวดเย็บกระดาษ เพราะสถานฑูตจะไม่รับรูปแบบนี้ ท่านอาจจะต้องถ่ายใหม่)
3. สำเนาทะเบียนบ้าน/บัตรประชาชน หรือ สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้าเคยเปลี่ยน)
4. หลักฐานการเงิน
– กรณีผู้เดินทางออกค่าใช้จ่ายเอง ใช้ Bank Statement บัญชีออมทรัพย์ ย้อนหลัง 6 เดือน ของผู้เดินทาง ขอจากทางธนาคารเท่านั้น ต้องเป็น Statement ตัวเต็มจากธนาคารเท่านั้น ไม่ใช่สำเนาจากสมุดบัญชี และ อัพเดทไม่เกิน 15 วันหรืออยู่ในเดือนที่ยื่นวีซ่าสถานทูตไม่รับพิจารณาบัญชีกระแสรายวัน และสถานทูตไม่รับพิจารณาบัญชีฝากประจำ
– กรณีผู้เดินทางไม่ได้ออกค่าใช้จ่ายเอง ใช้สำเนา Bank Statement บัญชีออมทรัพย์(ของผู้ที่ออกค่าใช้จ่าย) ย้อนหลัง 6 เดือน
5. หลักฐานการทำงาน(ภาษาอังกฤษและมีอายุ 1 เดือน นับย้อนหลังจากวันนัดสัมภาษณ์)
– กรณีเป็นพนักงาน หนังสือรับรองการทำงานจากบริษัทฯ ระบุตำแหน่ง, เงินเดือน, วันเริ่มทำงานและช่วงเวลาที่อนุมัติให้ลาหยุด ต้องสะกดให้ตรงตามหน้าพาสปอร์ต
– กรณีเจ้าของกิจการ สำเนาใบทะเบียนการค้าและหนังสือรับรองการจดทะเบียนที่มีชื่อของผู้เดินทางเป็นกรรมการหรือหุ้นส่วน พร้อมทั้ง เซ็นชื่อรับรองสำเนาและประทับตราบริษัทฯ (อายุสำเนาไม่เกิน 3 เดือน)
– กรณีเป็นนักเรียน หรือ นักศึกษา ใช้หนังสือรับรองจากทางโรงเรียนหรือสถาบันที่กำลังศึกษาอยู่ (สถานทูตไม่รับเอกสารที่เป็นบัตรนักเรียน ไม่ว่าเป็นช่วงปิดเทอม และต้องมีอายุ 1 เดือน นับย้อนหลังจากวันนัดสัมภาษณ์) ต้องสะกดชื่อ-สกุล ให้ตรงตามหน้าพาสปอร์ต
6. กรณีที่เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี ขอสำเนาสูติบัตร
กรณีเด็กไม่ได้เดินทางพร้อมผู้ปกครอง
(กรุณาขอ 2 ฉบับ เพื่อสำหรับยื่นวีซ่า 1 ฉบับ และอีก 1 ฉบับ รบกวนเตรียมมาวันเดินทางสำหรับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองที่สนามบิน)
– หากเด็กเดินทางไปกับบิดาจะต้องมีใบรับรองจากมารดา โดยมารดาจะต้องคัดจดหมายยินยอมให้บุตรเดินทางไปต่างประเทศกับมารดาโดยมีการรับรองค่าใช้จ่ายพร้อมแจ้งความสัมพันธ์และยินดีชดเชยค่าเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นโดยคัดฉบับจริงจากอำเภอต้นสังกัด พร้อมฉบับแปลภาษาอังกฤษ พร้อมทั้งแนบสำเนาบัตรประชาชนหรือหน้าพาสปอร์ตมารดามาด้วย
– หากเด็กเดินทางกับมารดาจะต้องมีใบรับรองจากบิดา โดยบิดาจะต้องคัดจดหมายยินยอมให้บุตรเดินทางไปต่างประเทศกับมารดาโดยมีการรับรองค่าใช้จ่ายพร้อมแจ้งความสัมพันธ์และยินดีชดเชยค่าเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นโดยคัดฉบับจริงจากอำเภอต้นสังกัด พร้อมทั้งแนบสำเนาบัตรประชาชนหรือหน้าพาสปอร์ตบิดามาด้วย
– หากเด็กไม่ได้เดินทางทั้งกับบิดาและมารดา โดยบิดาและมารดาจะต้องคัดจดหมายยินยอมให้บุตรเดินทางไปต่างประเทศกับใคร โดยมีการรับรองค่าใช้จ่ายพร้อมแจ้งความสัมพันธ์และยินดีชดเชยค่าเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นโดยคัดฉบับจริงจากอำเภอต้นสังกัด พร้อมทั้งแนบสำเนาบัตรประชาชนหรือหน้าพาสปอร์ตบิดาและมารดามาด้วย พร้อมทั้งแนบสถานะทางการงานและการเงินของบิดาหรือมารดาเพื่อรับรองแก่บุตรด้วย
– กรณีเด็กที่บิดา-มารดาหย่าร้าง จะต้องแนบสำเนาใบหย่า และมีการสลักหลังโดยมีรายละเอียดว่าฝ่ายใดเป็นผู้ดูแลบุตรแต่เพียงผู้เดียว
– กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี บิดา-มารดาลงชื่อรับรองในแบบฟอร์มสมัครวีซ่า
7. กรณีสมรสแล้ว สำเนาทะเบียนสมรส, สำเนาใบหย่า หรือ สำเนาใบมรณะบัตร (กรณีคู่สมรสเสียชีวิต)
เอกสารยื่นวีซ่าอาจมีการปรับเปลี่ยนและขออัพเดทเพิ่มเติมได้ทุกเวลา หากทางสถานทูตแจ้งขอเพิ่มเติม
*** ทางสถานทูตไม่ให้ดึงเล่มพาสปอร์ตในทุกกรณี หากลูกค้าจำเป็นต้องใช้พาสปอร์ตเดินทางในช่วงที่ยื่นวีซ่ากรุ๊ป ลูกค้าจะต้องไปแสดงตัวยื่นวีซ่าเดี่ยวเท่านั้นและต้องแนบตั๋วที่จะเดินทางก่อนหน้า
เพื่อแจ้งให้สถานทูตรับทราบ ***1

เงื่อนไขอื่นๆ

เอกสารประกอบการขอวีซ่า (ใช้เวลายื่น 15 วันทำการ)
1. หนังสือเดินทาง (Passport) หนังสือเดินทาง ต้องมีหน้าเหลือสำหรับประทับวีซ่าอย่างน้อย 2 หน้าต้องมีอายุการใช้งานเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน นับจากหลังวันเดินทาง หนังสือเดินทางห้ามชำรุด หรือขีดเขียนใดๆทั้งสิ้นภายในหนังสือเดินทาง (สำหรับท่านที่มีหนังสือเดินทางเล่มเก่า กรุณานำมาประกอบการยื่นวีซ่าด้วย เพื่อความสะดวกในการพิจารณาวีซ่าของท่าน)
2. รูปถ่าย รูปถ่ายสีหน้าตรงขนาด 1.5 x 2 นิ้ว จำนวน 2 ใบ (สัดส่วนใบหน้าโดยละเอียดเฉพาะใบหน้าสูง 3 ซม. วัดจากหน้าผากถึงคาง***) (ใช้รูปสีพื้นหลังขาวเท่านั้น ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือนและต้องไม่ซ้ำกับรูปวีซ่าที่มีในเล่ม สติ๊กเกอร์ใช้ไม่ได้, ห้ามสวมแว่นตาหรือเครื่องประดับ) และกรุณาเขียนชื่อ-นามสกุลตัวบรรจงไว้ด้านหลังรูป และให้ประกบด้านหน้าเข้าหากัน (กรุณาอย่าให้รูปเลอะหมึก และอย่าให้รูปมีรอยลวดเย็บกระดาษ เพราะสถานฑูตจะไม่รับรูปแบบนี้ ท่านอาจจะต้องถ่ายใหม่)
3. สำเนาทะเบียนบ้าน/บัตรประชาชน หรือ สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้าเคยเปลี่ยน)
4. หลักฐานการเงิน
– กรณีผู้เดินทางออกค่าใช้จ่ายเอง ใช้ Bank Statement บัญชีออมทรัพย์ ย้อนหลัง 6 เดือน ของผู้เดินทาง ขอจากทางธนาคารเท่านั้น ต้องเป็น Statement ตัวเต็มจากธนาคารเท่านั้น ไม่ใช่สำเนาจากสมุดบัญชี และ อัพเดทไม่เกิน 15 วันหรืออยู่ในเดือนที่ยื่นวีซ่าสถานทูตไม่รับพิจารณาบัญชีกระแสรายวัน และสถานทูตไม่รับพิจารณาบัญชีฝากประจำ
– กรณีผู้เดินทางไม่ได้ออกค่าใช้จ่ายเอง ใช้สำเนา Bank Statement บัญชีออมทรัพย์(ของผู้ที่ออกค่าใช้จ่าย) ย้อนหลัง 6 เดือน
5. หลักฐานการทำงาน(ภาษาอังกฤษและมีอายุ 1 เดือน นับย้อนหลังจากวันนัดสัมภาษณ์)
– กรณีเป็นพนักงาน หนังสือรับรองการทำงานจากบริษัทฯ ระบุตำแหน่ง, เงินเดือน, วันเริ่มทำงานและช่วงเวลาที่อนุมัติให้ลาหยุด ต้องสะกดให้ตรงตามหน้าพาสปอร์ต
– กรณีเจ้าของกิจการ สำเนาใบทะเบียนการค้าและหนังสือรับรองการจดทะเบียนที่มีชื่อของผู้เดินทางเป็นกรรมการหรือหุ้นส่วน พร้อมทั้ง เซ็นชื่อรับรองสำเนาและประทับตราบริษัทฯ (อายุสำเนาไม่เกิน 3 เดือน)
– กรณีเป็นนักเรียน หรือ นักศึกษา ใช้หนังสือรับรองจากทางโรงเรียนหรือสถาบันที่กำลังศึกษาอยู่ (สถานทูตไม่รับเอกสารที่เป็นบัตรนักเรียน ไม่ว่าเป็นช่วงปิดเทอม และต้องมีอายุ 1 เดือน นับย้อนหลังจากวันนัดสัมภาษณ์) ต้องสะกดชื่อ-สกุล ให้ตรงตามหน้าพาสปอร์ต
6. กรณีที่เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี ขอสำเนาสูติบัตร
กรณีเด็กไม่ได้เดินทางพร้อมผู้ปกครอง
(กรุณาขอ 2 ฉบับ เพื่อสำหรับยื่นวีซ่า 1 ฉบับ และอีก 1 ฉบับ รบกวนเตรียมมาวันเดินทางสำหรับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองที่สนามบิน)
– หากเด็กเดินทางไปกับบิดาจะต้องมีใบรับรองจากมารดา โดยมารดาจะต้องคัดจดหมายยินยอมให้บุตรเดินทางไปต่างประเทศกับมารดาโดยมีการรับรองค่าใช้จ่ายพร้อมแจ้งความสัมพันธ์และยินดีชดเชยค่าเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นโดยคัดฉบับจริงจากอำเภอต้นสังกัด พร้อมฉบับแปลภาษาอังกฤษ พร้อมทั้งแนบสำเนาบัตรประชาชนหรือหน้าพาสปอร์ตมารดามาด้วย
– หากเด็กเดินทางกับมารดาจะต้องมีใบรับรองจากบิดา โดยบิดาจะต้องคัดจดหมายยินยอมให้บุตรเดินทางไปต่างประเทศกับมารดาโดยมีการรับรองค่าใช้จ่ายพร้อมแจ้งความสัมพันธ์และยินดีชดเชยค่าเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นโดยคัดฉบับจริงจากอำเภอต้นสังกัด พร้อมทั้งแนบสำเนาบัตรประชาชนหรือหน้าพาสปอร์ตบิดามาด้วย
– หากเด็กไม่ได้เดินทางทั้งกับบิดาและมารดา โดยบิดาและมารดาจะต้องคัดจดหมายยินยอมให้บุตรเดินทางไปต่างประเทศกับใคร โดยมีการรับรองค่าใช้จ่ายพร้อมแจ้งความสัมพันธ์และยินดีชดเชยค่าเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นโดยคัดฉบับจริงจากอำเภอต้นสังกัด พร้อมทั้งแนบสำเนาบัตรประชาชนหรือหน้าพาสปอร์ตบิดาและมารดามาด้วย พร้อมทั้งแนบสถานะทางการงานและการเงินของบิดาหรือมารดาเพื่อรับรองแก่บุตรด้วย
– กรณีเด็กที่บิดา-มารดาหย่าร้าง จะต้องแนบสำเนาใบหย่า และมีการสลักหลังโดยมีรายละเอียดว่าฝ่ายใดเป็นผู้ดูแลบุตรแต่เพียงผู้เดียว
– กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี บิดา-มารดาลงชื่อรับรองในแบบฟอร์มสมัครวีซ่า
7. กรณีสมรสแล้ว สำเนาทะเบียนสมรส, สำเนาใบหย่า หรือ สำเนาใบมรณะบัตร (กรณีคู่สมรสเสียชีวิต)
เอกสารยื่นวีซ่าอาจมีการปรับเปลี่ยนและขออัพเดทเพิ่มเติมได้ทุกเวลา หากทางสถานทูตแจ้งขอเพิ่มเติม
*** ทางสถานทูตไม่ให้ดึงเล่มพาสปอร์ตในทุกกรณี หากลูกค้าจำเป็นต้องใช้พาสปอร์ตเดินทางในช่วงที่ยื่นวีซ่ากรุ๊ป ลูกค้าจะต้องไปแสดงตัวยื่นวีซ่าเดี่ยวเท่านั้นและต้องแนบตั๋วที่จะเดินทางก่อนหน้า
เพื่อแจ้งให้สถานทูตรับทราบ ***
วันเดินทาง
11 – 22 เมษายน 2563
สายการบิน
northern light village