บทความ ประเทศมาซิโดเนีย

มาซิโดเนีย (Macedonia) ประเทศบ้านเกิดของจอมราชัน อเล็กซานเดอร์มหาราช

ประเทศมาซิโดเนีย ตั้งอยู่ในคาบสมุทรบอลข่าน คาบสมุทรบอลข่าน เป็นชื่อทางประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ หมายถึงดินแดนทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ของทวีปยุโรป มีพื้นที่กว้างใหญ่ประมาณ 550,000 ตร.กม. และมีประชากรรวมกันราว 53 ล้านคน ชื่อนี้มาจากชื่อของเทือกเขาบอลข่าน ที่พาดผ่านใจกลางประเทศบัลแกเรียไปยังด้านตะวันออกของสาธารณรัฐเซอร์เบีย
ในปัจจุบันประเทศที่ตั้งอยู่ในคาบสมุทรบอลข่าน คือ แอลเบเนีย บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา บัลแกเรีย โครเอเชีย กรีซ มาซิโดเนีย เซอร์เบีย มอนเตเนโกร โคโซโว สโลวีเนียและตุรกี (เฉพาะฝั่งยุโรป)

Macedonia Head1 Macedonia Head2

ในอดีต ราชอาณาจักรมาซิโดเนีย ( Kingdom of Macedonia) เป็นราชอาณาจักรในกรีซโบราณที่มีศูนย์กลางอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของคาบสมุทรกรีซ หลังจากการพิชิตดินแดนต่างๆ ของอเล็กซานเดอร์มหาราชแห่งอาณาจักรมาซิโดเนีย ก็กลายเป็นราชอาณาจักรที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลกที่มีดินแดนที่ครอบคลุมกรีซทั้งหมดไปจนถึงอินเดีย
ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ดินแดนคาบสมุทรบอลข่านได้ถูกปกครองโดยวีรบุรุษของชาวสลาฟ คือ โจซิพ บรอซ ตีโต้ (Josip Broz Tito) ในปี ค.ศ. 1980 ตีโต้สามารถยึดครองใจชนเผ่าต่างๆได้ทั้งหมด และรวมเป็นประเทศเดียว ชื่อว่า ยูโกสโลเวีย (Yugoslavie) และแบ่งยูโกสลาเวียออกเป็น 6 รัฐ ประกอบด้วย เซอร์เบีย สโลเวเนีย โครเอเชีย บอสเนีย-เฮอร์เซโกวีน่า มอนเตเนโกร และมาซิโดเนีย
หลังจากการล่มสลายของยูโกสลาเวีย และมาซิโดเนียประกาศเอกราชโดยใช้ชื่อประเทศว่า สาธารณรัฐมาซิโดเนีย (Republic of Macedonia – ROM) ตามรัฐธรรมนูญ และต่อมาได้สมัคร เข้าเป็นสมาชิกองค์การสหประชาชาติภายใต้ชื่อดังกล่าว แต่ได้รับการคัดค้านจากกรีซ โดยให้เหตุผลทางประวัติศาสตร์และดินแดนว่า การ ใช้ชื่อ Republic of Macedonia เป็นการส่อเจตนารมณ์ที่จะอ้างสิทธิครอบคลุมไปถึงดินแดนมาซิโดเนียส่วนที่อยู่ในกรีซ ในที่สุดคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้มีข้อมติที่ 817 (1993) ให้ใช้ชื่อ Former Yugoslav Republic of Macedomia (FYROM) ในการอ้างถึงมาซิโดเนียในสหประชาชาติจนกว่าประเทศทั้งสองจะตกลงกันได้ สหประชาชาติได้มีมติเมื่อวันที่ 8 เมษายน ค.ศ. 1993 ประกาศรับรองมาซิโดเนียเข้าเป็นสมาชิกประเทศที่ 181

เมืองสโคเพีย (Skopje) เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศมาซิโดเนีย ตั้งอยู่ทางด้านเหนือของประแทศ เป็นศูนย์กลางทางการเมือง ทางวัฒนธรรม และทางเศรษฐกิจของประเทศ ในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงของเซอร์เบียและบัลแกเรีย ในอดีตกาลสันนิษฐานว่ามีการตั้งถิ่นฐานที่
สโคเพียตั้งแต่ 4,000 ปีก่อนคริสตกาล

Skopje

อนุสาวรีย์อเล็กซานเดอร์มหาราช (Alexander the Great Statue) ซึ่งได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองหลวงและประเทศนี้ เป็นรูปปั้นที่อเล็กซานเดอร์มหาราชกำลังนั่งอยู่บนหลังม้าคู่ใจในการออกศึกทำสงครามที่มีชื่อว่า บูซาเฟลัส อนุสาวรีย์แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นการรำลึกถึงที่ประเทศได้รับเอกราชมา 20 ปีและเสร็จเรียบร้อยเมื่อวันที่ 8 กันยายน ปี ค.ศ.2011
อนุสาวรีย์แห่งนี้ตั้งอยู่บนกลางน้ำพุ ซึ่งตรงกลางมีเสาทรงกลมที่มีฐานด้านบนสูงถึง 10 เมตร และรูปปั้นตั้งอยู่บนเสารูปทรงกลมที่สูง 4.5 เมตร ส่วนของเสาประกอบไปด้วยสามส่วนของการตกแต่งด้วยงาช้างที่ได้แกะสลักภาพอันสวยงามทางด้านประวัติศาสตร์และสลับกับรูปแหวนที่ทำด้วยบรอนซ์ และนอกจากนั้นยังการตกแต่งรอบบริเวณน้ำพุด้วยเสาบรอนซ์ที่สูงถึง 3 เมตรด้วยรูปทหารแปดคน มีรูปสิงโตที่เป็นบรอนซ์แปดตัวที่พ่นน้ำออกมาด้วย

Alexander the Great Statue

ป้อมปราการคาเล่ (Kale Fortress) ซึ่งตั้งอยู่บริเวณที่สูงของเนินเขาในหุบเขาสโคเพียและเป็นจุดที่ชมเมืองสโคเพียได้สวยงาม ส่วนของป้อมปราการที่เป็นส่วนเก่าที่สุดมีความยาวประมาณ 121 เมตร เป็นการสร้างใน รูปแบบที่นำก้อนหินก้อนใหญ่ที่ตบแต่งเรียบร้อยและนำมาไว้ด้านนอกและส่วนด้านในจะเป็นหินก้อนเล็กถูกสร้างขึ้นโดยในราวศตวรรษที่ 6 โดยจักรพรรดิจัสติเนียนแห่งไบแซนไทน์ เมืองนี้และสิ่งโบราณสถานหลายแห่งได้ถูกทำลายโดยการเกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง จึงทำให้องค์จักรพรรดิฯ ได้ตัดสินใจที่จะทำอะไรบางอย่างให้กับบ้านเกิดของพระองค์ จึงได้เริ่มก่อสร้างสิ่งต่างๆขึ้นมาหลายอย่าง

Kale Fortress

สะพานหิน (Stone Bridge) ซึ่งได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนี้อีกแห่งหนึ่ง ถูกสร้างขึ้นในราวศตวรรษที่ 6 โดยจักรพรรดิจัสติเนียนแห่งไบแซนไทน์เช่นเดียวกัน สะพานนี้มีความยาวประมาณ 214 เมตรและส่วนโค้งที่ใต้สะพาน 13 ช่อง ซึ่งจักรพรรดิที่ได้เข้ามาปกครองก็ได้พยายามทำการก่อสร้างเพิ่มเติมเพื่อให้เป็นสถานที่ที่ระลึกถึง
ต่อมาในราวปลายของศตวรรษที่ 15 สุลต่านเมห์เหม็ดที่ 2 ได้มีการปรับปรุงก่อสร้างกันอย่างหนัก และได้สร้างเพิ่มเติมที่บริเวณขอบริมสะพานและสร้างหอคอยที่ตัวเพิ่มขึ้นอีกด้วย แต่ทว่าโชคไม่ดีหอคอยได้พังลงมาในขณะที่ทำการก่อสร้างอยู่และก็ยังคอยการก่อสร้างอยู่ทุกวันนี้

Stone Bridge

พอร์ต้า มาซีโดเนีย (Porta Macedonia) ซึ่งถูกสร้างขึ้นเพื่อให้เป็นประตูชัยตั้งอยู่ที่จัตุรัสเพลล่า และเพื่อเป็นการประกาศอิสรภาพของมาซีโดเนียที่มีมา 20 ปี ส่วนโค้งของประตูนี้มีความสูง 21 เมตร ซึ่งพื้นผิวภายนอกประมาณ 193 ตรม. ของประตูชัยนี้ ได้ถูกตบแต่งด้วยหินอ่อนและมีการทำแกะสลักลวดลายที่สวยงามให้เห็นถึงประวัติศาสตร์ของชาติฯ และภายในก็ยังมีห้องที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงามพร้อมกับมีห้องขายของที่ระลึกซึ่งเป็นของทางรัฐบาลอีกด้วย

porta macedonia

เมืองโอห์ริด (Ohrid) ตั้งอยู่บริเวณริมทะเลสาบโอห์ริด ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของบริเวณนี้ ประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 42,000 คน คน และเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงที่มีโบสถ์มากถึง 365 หลัง ซึ่งถูกสร้างขึ้นเพื่อให้เป็นสัญลักษณ์ของการเข้าทำพิธีวันละหนึ่งแห่ง และเมื่อครบทุกแห่งก็จะเป็นเวลาหนึ่งปีพอดี นอกจากนั้นเมืองนี้ยังเต็มไปความสวยงามของการปลูกสร้างบ้านและสถานที่ต่างๆที่สวยงาม ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1979 ทะเลสาบโอห์ริด (Ohrid Lake) เป็นทะเลสาบที่มีความเก่าและลึกมากที่สุดของยุโรปประมาณ 288 เมตร มีพื้นที่ประมาณ 358 ตร.กม. อยู่ระหว่างสองประเทศ คือ ด้านตะวันตกเป็นของอัลบาเนียที่มีพื้นที่น้ำประมาณ 110 ตร.กม. ส่วนทางด้านตะวันออกเป็นของมาซีโดเนีย ที่มีพื้นที่น้ำประมาณ 248 ตร.กม.

Ohrid

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท โก ทูเกเธอร์ แทรเวล จำกัด โทร 0-2635-1255 , 08-1455-8370 , 08-1405-9726 อีเมล์ [email protected] หรือ Face Book : Gotogethertravel.com