
ตุรกี ดินแดนที่อุดมไปด้วยความงดงามทางสถาปัตยกรรม ที่ผสมผสานกันระหว่างยุโรปและเอเชีย นอกจากนั้นยังเป็นจุดกำเนิดของประวัติศาสตร์ที่นับย้อนหลังไปได้ไกลถึงยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก เรื่อยมาจนถึงยุคของกรีกและโรมันอันรุ่งเรือง เมืองคอนสแตนดิโนเปิล หรือเมืองอีสตันบูล ซึ่งเคยสัมพันธ์กับทางเอเชีย ในฐานะเมืองที่เป็นคู่ค้าผ้าไหมที่ส่งออกไปจากเมืองซีอานของประเทศจีน จนก่อให้เกิดเป็นเส้นทางสายไหมที่มีชื่อเสียง ยังเป็นดินแดนที่ได้ชื่อว่าอาณาจักรของออตโตมาน ซึ่งในความจินตนาการของท่านคิดว่าตุรกีเป็นประเทศมุสลิมที่เคร่งครัด แต่ในความเป็นจริงแล้วเพียบพร้อมไปด้วยความสะดวกสบายตามแบบยุโรปทุกอย่าง
อีสตันบูล-ชานัคคาเล่-ทรอย-คูซาดาซึ-ปามุคคาเล่-อัลทาเลีย-คอนย่า-คัพปาโดเซีย
ดินแดนแห่ง 2 ทวีป ยุโรป และ เอเชีย ชมความยิ่งใหญ่ในอดีตของจักวรรดิ์ออตโตมาน อารยะธรรมโบราณ และธรรมชาติที่งดงาม
- บินตรง + บินภายใน 1 ครั้ง !! โปรแกรมสวย ไม่เหนื่อย
- เข้าชมความยิ่งใหญ่ของ พระราชวังโดลมาบาห์เช่
- ชมเมืองอีสตันบูล เข้าชมสุเหร่าสีน้ำเงิน และสุเหร่าเซนต์โซเฟีย
- เที่ยวทั้งที !! ต้องมีม้าไม้ แห่งเมืองทรอย
- ขึ้นเคเบิ้ลคาร์…..เข้าชมอะโครโพลิส ณ เมืองเพอร์กามัม
- เข้าชมดินแดนอันน่าอัศจรรย์ ปราสาทปุยฝ้าย ณ เมืองปามุคคาเล่
- ล่องเรือชมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ณ เมืองอัลทาเลีย…ริเวียร่าแห่งตุรกี
- สรรสร้างประสบการณ์ใหม่นอนโรงแรมสไตล์ถ้ำ 1 คืน ณ เมืองคัพปาโดเชีย
- ที่พักหรูโรงแรมระดับ 5 ดาว ตลอดการเดินทาง
Day 1: Departure
- 20.30 น. พร้อมกันที่ สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 แถว U เคาน์เตอร์สายการบินเตอร์กิส แอร์ไลน์ (TK) ประตูทางเข้าที่ 9 โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัท ฯ คอยให้การต้อนรับ ตรวจเอกสาร และสัมภาระ
- 23.50 น. เหินฟ้าสู่ กรุงอีสตันบลู เที่ยวบินที่ TK 069 (ใช้เวลาบินประมาณ 10.30 ช.ม.)
Day 2
- 06.20 น. ถึง สนามบินนานาชาติฮาวาลิมานี่ อีสตันบูล ประเทศตุรกี นำท่านผ่านพิธีการตรวจเอกสารคนเข้าเมือง และศุลกากร
- เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
- กรุงอีสตัลบูล (Istanbul) เป็นมหานครของสองทวีป/เอเซียและยุโรป เป็นเมืองที่มีความงดงามในประวัติศาสตร์โลกมานานหลายศตวรรษ นับแต่ยุคสมัยของกรีกและโรมัน ในสมัยของพวกกรีก ก็คือเมืองไบแซนติอุม มีอายุอยู่ในระหว่าง 675 ปีก่อนคริสตกาล จนถึงปี ค.ศ.330 จึงได้เสียให้แก่อาณาจักรโรมัน และเคยเป็นเมืองหลวงของโรมันทางด้านตะวันออก ในนามของ กรุงคอนสแตนติโนเปิล จนกระทั่งถึง ค.ศ.1453 จึงได้ถูกพวกออตโตมาน ทำลายลงและเปลี่ยนชื่อมาเป็น อีสตันบูล และได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1985
- นำท่านไปเที่ยวชม ฮิปโปโดรม (Hippodome) ในอดีตเคยเป็นศูนย์กลางแห่งชีวิตของชาวไบแซนติอุม คือ สถานที่ที่แข่งกีฬารถม้าศึกของชาวโรมัน และของจักรวรรดิออตโตมานกว่า 400 ปี ในปัจจุบันเหลือแค่เสา 3 ต้น คือเสาต้นแรก โอเบลิสก์แห่งฟาโรห์ทุตโมซิสที่ 3 ซึ่งถูกสร้างมาตั้งแต่ 1500 ปีก่อนคริสตกาล ต่อมาเป็นเสาเซอร์เพนไทน์ ซึ่งถูกสร้างขึ้นมา 497 ปีก่อนคริสตกาล และเสาคอนสแตนตินที่ 7 เป็นเสาต้นสุดท้าย สถานที่นี้ได้ถูกสร้างขึ้นประมาณปี ค.ศ.203 ในยุคของไบแซนไทน์
- นำท่านเข้าชม สุเหร่าสีน้ำเงิน (Blue Mosque) สุเหร่าแห่งนี้สร้างขึ้นบนพื้นที่ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นวังที่ประทับของจักรพรรดิไบแซนไทน์ ภายในถูกตบแต่งด้วยกระเบื้องสีน้ำเงิน มีเสามินาเรท์เป็นยอดแหลมถึง 6 ต้น ถูกสร้างโดยสุลต่านอาห์เมต ที่ 1 ในปี ค.ศ.1609-1616
- นำท่านเข้าชม เซ้นต์ โซเฟีย (St.Sophia) ถือว่าเป็นเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลางและเป็นโบสถ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชาวคริสต์ เพื่อแสดงถึงความอัจฉริยะและพลานุภาพอันเกรียงไกรของอาณาจักรโรมันถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ. 360 โดยจักรพรรดิคอนสแตนติน ถูกไฟไหม้และสร้างขึ้นใหม่ในปี ค.ศ.415 ถูกเผาทำลายและสร้างขึ้นใหม่ในปี ค.ศ.537 โดยจักรพรรดิจัสติเนียนและจวบจนวาระสุดท้าย ของกรุงคอนสแตนติโนเปิล ต่อมาได้ถูกสถาปนาเป็นสุเหร่าที่ใหญ่ที่สุดในโลกของอิสลาม ชื่อ อายา ซอฟยา
- นำท่านเข้าชม อ่างเก็บน้ำใต้ดิน หรืออุโมงค์ส่งน้ำใต้ดิน (Yerebatan Sarnici) สร้างในปี 532 ประมาณ 1476 ปีมาแล้ว รัชสมัยจักรพรรดิจัสติเนียน เพื่อกักเก็บน้ำเอาไว้ใช้ในพระราชวัง ปัจจุบันได้รับการบูรณะอย่างดี สะอาดเรียบร้อย มีความขลัง มีทางเดินปูนราวไม้กั้นเดินทะลุได้ทั่ว เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง James Bond ตอน Greeting From Moscow เสาต้นที่แปลกตาที่สุดคือ เสาที่สลักเป็นรูปดวงตานกยูง หยดน้ำตาหรือดวงตาปีศาจ ตามแต่ใครจะเห็นเป็นรูปใด เรียกชื่อว่า Forum Tauri และเสาอีก 2 ต้นที่ไม่ ควรพลาดชม ได้แก่ เสาที่มีหัวของเมดูซา กลับหัว วางเป็นฐาน และอีกเสาหนึ่งหัวเมดูซาตะแคงขวาอยู่เพราะเป็นเคล็ดไม่ให้เมดูซามองใครแล้วจะกลายเป็นหิน แต่จะให้อยู่เฝ้าอ่างเก็บน้ำแห่งนี้ตลอดไป
- เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
- นำท่านไปยังย่านการค้าชื่อดัง แกรนด์ บาซาร์ (Grand Bazaar) ซึ่งเป็นตลาดเก่าแก่ที่สร้างในสมัยกลางปีคริสตวรรษที่ 15 มีร้านค้ามากมายถึง 4,000 ร้าน ซึ่งเป็นตลาดค้าพรมและเครื่องเงินทองที่ใหญ่ที่สุดของตุรกี ให้ท่านได้พักผ่อนตามอัธยาศัย เลือกซื้อสินค้าต่างๆที่ให้ท่านได้ซื้ออย่างมากมาย
- จากนั้นนำท่านออกเดินทางเรียบชายฝั่งทะเลไปยังบริเวณ แหลมแกลลิโปลี เพื่อที่จะนำท่านข้ามฟากโดยเรือผ่านทางช่องแคบของทะเลมาร์มาร่า และออกเดินทางไปยัง เมืองชานัคคาเล ตั้งอยู่ริมทะเลมาร์มาร่า และติดกับทะเลอีเจียน ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านการท่องเที่ยว เพระว่ามีซากโบราณสถานที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยโรมันหลายแห่ง
- ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
- เข้าสู่ที่พัก KOLIN HOTEL หรือเทียบเท่า
Day 3
- เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
- จากนั้นนำท่านเดินทางไปยัง เมืองทรอย เข้าชมความสวยงามของ ม้าไม้โทรจาน ที่เคยเป็นต้นแบบ ซึ่งถูกนำมาใช้ในการทำสงครามเมื่อปี 1,000-700 ก่อนคริสตกาล พร้อมกับชมสิ่งโบราณสถานต่างๆ มากมายที่ถูกสร้างขึ้นในอดีตที่เคยรุ่งเรืองเช่น โรงละคร ปราสาทที่ถูกขุดค้นขึ้นมาในบริเวณใกล้ ๆ กัน และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1998
- ได้เวลาอันสมควรนำท่านออกเดินทางสู่ เมืองเพอร์กามัม
- จากนั้นนำท่าน ขึ้นกระเช้าเคเบิ้ลคาร์ ไปชมโบราณสถานต่าง ๆ ที่ยังคงความสวยงามของ อะโครโพลิส ที่ถูกสร้างขึ้นบนเนินเขา ในสมัยที่พวกกรีกเข้ามาปกครองที่บริเวณนั้น และมีความเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก เมืองนี้ยังเป็นเมืองศูนย์กลางของการแพทย์ที่ใหญ่ที่สุดในขณะนั้น และยังเป็นโรงเรียนสอนเกี่ยวกับจิตวิทยาแห่งแรกของโลก
- เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
- จากนั้นเดินทางสู่ เมืองคูซาดาซี แปลว่า “เกาะนก” ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของตุรกี ติดกับชายฝั่งทะเลอีเจียน โดยผ่านเมืองอีซเมียร์
- นำท่านช้อปปิ้ง ณ ศูนย์ผลิตเสื้อหนังคุณภาพสูง ซึ่งผลิตเสื้อหนังแบรนด์ดังในอิตาลีและอิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย
- ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
- เข้าสู่ที่พัก TUSAN HOTEL หรือเทียบเท่า
Day 4
- เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
- นำท่านแวะ ชมร้านขนมของฝาก เตอร์กิช ดีไลท์ พร้อมจับจ่ายซื้อของฝากตามอัธยาศัย
- จากนั้นนำท่านสู่ เมืองโบราณเอฟฟิซุส (ระยะเวลาเดินทางประมาณ 3 ชม.) ซึ่งเป็นเมืองโบราณที่มีการบำรุงรักษาไว้เป็นอย่างดีที่สุดเมืองหนึ่ง และเคยเป็นที่อยู่ของชาวไอโอเนียนจากกรีก
- นำท่านเข้าชม เมืองโบราณเอฟฟิซุส City of Ephesus อดีตเป็นเมืองหลวงแห่งเอเชียของอาณาจักรโรมัน ชม อาคารที่เป็นสัญลักษณ์ของ นครเอฟฟิซุส คือ ห้องสมุดของเซลซุส Library of Celsus และอาคารสำคัญอีกแห่งคือ วิหารแห่งจักรพรรดิเฮเดรียน Temple of Hadrian สร้างขึ้นถวายแด่จักรพรรดิเฮเดรียน ความโดดเด่นของวิหารแห่งนี้คืออยู่ในสภาพที่สมบูรณ์มาก ห้องอาบน้ำโรมันโบราณ Roman Bath ที่ยังคงเหลือร่องรอยของห้องน้ำ ห้องอบไอน้ำ ให้เห็นอยู่จนถึงทุกวันนี้
- จากนั้นปิดท้ายกันที่สิ่งก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในนครเอฟฟิซุส คือ โรงละคร Great Theatre ซึ่งสร้างโดยสกัดเข้าไปในไหล่เขาให้เป็นที่นั่ง สามารถจุคนได้ถึง 25,000 คน ซึ่งคิดเป็น 1 ใน 10 ของประชากรในยุคนั้น สร้างสมัยกรีกโบราณ แต่พวกโรมันมาปรับปรุงให้ยิ่งใหญ่มากขึ้น ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก เมื่อปี ค.ศ. 2015
- เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
- หลังจากนั้นนำท่านเข้าชม บ้านพระแม่มารี (House of Virgin Mary) ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นที่สุดท้ายที่พระแม่มารีมาอาศัยอยู่และสิ้นพระชนม์ในบ้างหลังนี้ ถูกค้นพบอย่าปาฏิหาริย์ โดยแม่ชีตาบอดชาวเยอรมัน ชื่อ แอนนา แคเทอรีน เอมเมอริช Anna Catherine Emmerich เมื่อปี ค.ศ. 1774-1824 ได้เขียนบรรยายสถานที่ไว้ในหนังสืออย่างละเอียดราวกับเห็นด้วยตาตนเอง เมื่อเธอเสียชีวิตลง มีคนพยายามสืบเสาะค้นห้าบ้านหลังนี้ จนพบในปี ค.ศ. 1891 ปัจจุบันบ้านพระแม่มารีได้รับการบูรณะเป็นบ้านอิฐชั้นเดียว ภายในมีรูปปั้นของพระแม่มารี ซึ่งพระสันตปาปา โป๊ป เบเนดิกส์ที่ 6 ได้เคยเสด็จเยือนที่นี่ บริเวณด้านนอกของบ้าน มีก๊อกน้ำสามก๊อก ที่มีความเชื่อว่าเป็นก๊อกน้ำที่มีความศักดิ์สิทธิ์ แทนความเชื่อในเรื่อง สุขภาพ ความร่ำรวย และความรัก ถัดจากก๊อกน้ำเป็น กำแพงอธิษฐาน ซึ่งมีความเชื่อว่าหากต้องการให้สิ่งที่ ปรารถนาเป็นความจริงให้เขียนลงในผ้าฝ้ายแล้วนำไปผูกไว้แล้วอธิษฐาน
- จากนั้นออกเดินทางสู่ เมืองปามุคคาเล่ (ระยะเวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง)เมืองที่มีน้ำพุเกลือแร่แคลเซียมอ๊อกไซด์ไหลขึ้นมาจากใต้ดินเป็นเวลานับพันปีมาแล้วจากการไหลของน้ำพุเกลือแร่ร้อนนี้ได้ก่อให้เกิดทัศนียภาพของน้ำตกสีขาวเป็นชั้นๆ หลายชั้น
- ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
- เข้าสู้ที่พัก COLOSSAE THERMAL HOTEL หรือเทียบเท่า
Day 5
- เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
- นำท่านเข้าชม ปราสาทปุยฝ้าย เมืองแห่งน้ำพุเกลือแร่ร้อน เนื่องจากที่ส่วนใหญ่เต็มไปด้วยส่วนประกอบของแคลเซียม บ่อน้ำพุเกลือแร่ร้อนนี้ได้ก่อให้เกิดทัศนียภาพของน้ำตกสีขาวเป็นชั้นๆ หลายชั้น และผลจากการแข็งตัวของ แคลเซียมทำให้เกิดเป็นแห่งหินสีขาวราวกับหิมะไหลหลั่นเป็นทางน้ำยาว ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก เมื่อปี ค.ศ. 1988
- จากนั้นนำท่านชม เมืองโบราณเฮียราโพลสิ (Hierapolis) ในอดีตเป็นสถานที่บำบัดโรค ก่อตั้งโดยกษัตริย์ยูเมเนสที่ 1แห่งแพร์กามุม ในปี 190 ก่อนคริสต์กาล สถานที่แห่งนี้มี แผ่นดินไหวเกิดขึ้นหลาย ครั้งปีค.ศ 1334 จึง ไม่มีคนอาศัยอยู่อีก ศูนย์กลางของเฮียราโพลิสเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งปัจจุบันตั้งอยู่ในโรงแรมปามุคคาเล สถานที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ พิพิธภัณฑ์ปามุคคาเล โรงอาบน้ำโรมัน โบสถ์สมัยไบแซนไทน
- นำท่านช้อปปิ้ง ณ ร้านขายของที่ระลึกพื้นเมือง เช่น ผ้าพื้นเมือง พวงกุญแจ กระเป๋า และอื่นๆอีกมากมาย
- เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
- นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองอัลทาเลีย (Antalya) (ระยะเวลาเดินทางประมาณ 4.30 ชั่วโมง) เป็นเมืองท่องเที่ยวชายทะเลที่ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน Mediterranean Sea ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศตุรกี เป็นอีกหนึ่งเมืองประวัติศาสตร์ ซึ่งสามารถย้อนกลับไปประมาณ 150 ปีก่อนคริสตกาล สำหรับตัวเมืองนั้นตั้งอยู่บนที่ราบชายฝั่งแคบๆที่ล้อมรอบด้วยภูเขาและท้องทะเลอันงดงาม จนนักท่องเที่ยวที่เคยมาเยือนล้วนให้การยกย่องว่าเป็น “ริเวียร่าแห่งตุรกี” ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวภายในเมืองนั้นก็มีทั้งส่วนที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่ถือว่ามีความเก่าแก่มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
- ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
- เข้าสู่ที่พัก CROWN PLAZA HOTEL หรือเทียบเท่า
Day 6
- เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
- จากนั้นนำท่านชม ประตูเฮเดรียน (Hadrian’s Gate) ประตูชัยซึ่งสร้างขึ้นตามชื่อของจักรพรรดิโรมันเฮเดรียน Roman Emperor Hadrian ในช่วงศตวรรษที่ 2โดยประตูนั้นถูกสร้างขึ้นในรูปแบบทรงโค้ง จำนวน 3 ประตู ซึ่งถือว่าเป็นประตูที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศตุรกีอีกด้วย
- จากนั้นนำท่าน ล่องเรือชมความงามของอ่าวที่เป็นส่วนหนึ่งของทะเลเมดิเตอร์เนี่ยน Mediteranian Boat Trip เจ้าของสมญานาม “ริเวียร่าแห่งตุรกี” ให้ท่านได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดโดยการล่องเรือที่ตกแต่งคล้ายกับเรือโจรสลัด เรือจะพาท่านลัดเลาะไปตามหน้าผาต่างๆ ที่มีโรงแรมระดับ 5 ดาว สร้างเรียงรายอยู่ตามหน้าผา และที่พลาดไม่ได้เรือจะพาท่านล่องไปชมน้ำตกที่ไหลจากหน้าผาไหลลงสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนี่ยน นับว่าเป็นความแปลกใหม่ ซึ่งแตกต่างจากน้ำตกทั่วๆไปในเมืองไทย ส่วนใหญ่จะไหลลงด้านล่างจะเป็นลำธารน้ำ นับว่าเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่นักท่องเที่ยวอย่างท่านไม่ควรพลาด
- กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเพอร์เก้ เมืองที่มีความสำคัญของโลกโบราณ ในอดีตเป็นที่อยู่อาศัยของพวกฮิทไต้เมืองประมาณ 1,500 ปีก่อนคริสตกาล และได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 2009
- นำท่านเข้าชม โรงละครที่ยิ่งใหญ่ แอสเพนโดส สัมผัสอย่างใกล้ชิดซึ่งมีความสวยงาม และสามารถจุผู้ชมได้ประมาณ 20,000 คน มีเวทีแสดงด้านหลัง สถานที่นี้ถูกสร้างขึ้นหลายชั้นที่นี่มีห้องสำหรับนักแสดงเพื่อไว้เปลี่ยนเครื่องแต่งกาย
- นำท่านเดินทางสู่ เมืองคอนย่า (ระยะเวลาเดินทางประมาณ 4 ชม.) ในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเซลจุคในช่วงปี ค.ศ.1071-1308 รวมทั้งยังเป็นศูนย์กลางที่สำคัญของภูมิภาคแถบนี้อีกด้วย และได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 2000
- ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
- เข้าสู่ที่พัก HILTON GARDEN INN HOTEL หรือเทียบเท่า
Day 7
- เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- จากนั้นนำท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์เมฟลานา หรือสำนักลมวน เริ่มก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1231 ก่อตั้งโดยเมฟลานา เจลาเลดดิน รูมี ซึ่งเชื่อกันว่าชายคนนี้เป็นผู้ชักชวนคนที่นับถือศาสนาคริสต์ ให้เปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลามโดยมีพื้นฐานอยู่บนความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน เดิมเป็นสถานที่นักบวชในศาสนาอิสลามทำสมาธิ โดยการเดินหมุนเป็นวงกลม ขณะฟังเสียงขลุ่ย ส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์เป็นสสุานของเมฟลาน่า เจลาลคุ ดน รูมี่ อาจารย์ทางปรัชญาประจำราชสำนักแห่ง สุลตานอาเลดิน เคย์โคบาท ภายนอกเป็นหอทรงกระบอกปลายแหลมสีเขียวสดใส ภายในประดับ ฝาผนังแบบมุสลิม และยังเป็นสุสาน สำหรับผู้ติดตาม สานุศิษย์ บิดา และบุตรของเมฟลาน่าด้วย
- นำท่านเดินทางสู่ เมืองคัพปาโดเชีย (Cappadocia) (ระยะทาง 215 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง) ระหว่างทางให้ท่านเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ที่สวยงามสองข้างทางโดยตลอด
- กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
- นำจากนั้นนำท่านเข้าชม นครใต้ดิน (Underground City of Kaymakli) ซึ่งถูกทำขึ้นในศตวรรษที่ 4 ได้ถูกขุดลึกลงไปสำหรับใช้เป็นที่หลบซ่อนประมาณ 5,000-7,000 คน ที่ได้หลบหนีจากการรุกรานของศัตรู และพวกที่ต่อต้านไม่ยอมรับนับถือศาสนาอื่น ๆ ให้ท่านชมความเป็นอยู่ที่ใต้ดิน ซึ่งได้ถูกวางรากฐานทางด้านสาธารณูปโภคไว้เป็นอย่างดี ห้องครัว ห้องทำไวน์ ห้องเก็บอาหาร พร้อมทั้งยังมีระบบระบายอากาศ และอื่น ๆ อีก
- ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
- เข้าสู่ที่พัก ANATOLIAN HOUSE CAVE HOTEL หรือเทียบเท่า จากนั้นนำท่านไปชมการแสดงพื้นเมืองและระบำหน้าท้องประกอบดนตรีของสาวน้อยชาวตุรกี
Day 8
- 05.00 น. สำหรับท่านี่สนใจจะขึ้นบอลลูน ชมความงามของเมืองคัฟปาโดเซีย ซึ่งครอบคลุมบริเวณ 5 จังหวัด ซึ่งประกอบไปด้วย อัคซาเรย์ เคย์เซอรี ไคร์เชอร์ เนฟเชอร์และนิกเด ที่เกิดการแปรสภาพเป็นหุบเขา ร่องลึก เนินเขา กรวยหิน และเสารูปทรงต่างๆที่งดงาม จะมีเจ้าหน้าที่มารับท่านที่บริเวณล๊อบบี้ของโรงแรม ใช้เวลาเดินทางประมาณไป-กลับ 1 ชม. และอยู่บนบอลลูนประมาณ 45-50 นาที ค่าใช้จ่ายท่านละประมาณ USD 230.- /กรุณาสอบถามหัวหน้าทัวร์
- เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- จากนั้นนำท่านชม พิพิธภัณฑ์เกอเรเม่ (Goreme Museum) ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง ที่เป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์ในช่วงคริสตศวรรษที่ 9 ซึ่งเป็นความคิดของชาวคริสต์ที่ต้องการเผยแพร่ศาสนาโดยการขุดถ้ำเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างโบสถ์ ยังเป็นการป้องกันการรุกรานจากชนเผ่าลัทธิอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับศาสนาคริสต์ และได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1985
- นำท่านแวะชม โรงงานเซรามิค และโรงงานทอพรม ให้ท่านเลือกซื้อของฝากตามอัธยาศัย
- กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่สนามบิน เมืองไคเซอรี่
- 15.45 น. ออกเดินทางสู่ อีสตันบลู โดยสายการบินสายการบินเตอร์กิส แอร์ไลน์ (TK) เที่ยวบินที่ TK 2013
- 17.35 น. เดินทางมาถึง อีสตันบลู………….จากนั้นนำท่านเดินสู่โรงแรมที่พัก
- ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
- เข้าสู่ที่พัก HILTON BOSPHORUS HOTEL หรือเทียบเท่า
Day 9
- เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
- นำท่านไปลงเรือชม ช่องแคบบอสฟอรัส ซึ่งเป็นช่องแคบที่เชื่อมทะเลดำกับทะเลมาร์มาร่า มีความยาวประมาณ 32กม. ความกว้างตั้งแต่ 500 เมตร จนถึง 3 กม. ซึ่งถือว่าที่สุดของยุโรปและเอเชียมาพบกันที่นี่ ชมทิวทัศน์ทั้งสองข้างจะสวยงามตระการตาของบอสฟอรัสที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญยิ่งในการป้องกันประเทศตุรกีอีกด้วย เพราะมีป้อม ปืนตั้งเรียงรายอยู่ตามช่องแคบเหล่านี้
- จากนั้นนำท่านเข้าชม พระราชวังโดลมาบาห์เช่ (Dolmabahce Palace) พระราชวังแห่งนี้สร้างโดยสุลต่านอับดุล เมอจิท ซึ่งเป็นพระราชวังที่สะท้อนให้เห็นถึงความเจริญอย่างสูงสุดทางวัฒนธรรมและทางวัตถุของจักรวรรดิออตโตมาน ซึ่งได้ขยายอำนาจออกไปอย่างกว้างขวางพระราชวังแห่งนี้เป็นศิลปะผสมผสานกันระหว่างยุโรปและตะวันออกที่ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม และภายนอกยังประกอบไปด้วยสวนไม้ดอกที่ปลูกรายล้อมตัวพระราชวัง ชมภายในพระราชวังประดับด้วยโคมไฟระย้าและที่น่าตื่นตา ก็คือ โคมไฟอันมหึมาหนักถึง 4 ตัน และนาฬิกาทุกเรือนของที่นี่จะชี้บอกเวลา 09.05 น.เป็นนิจนิรันดรเพื่อที่ระลึกถึงการจากไปของท่าน คามาล อตาเติร์ก (Kamal Ataturk) ซึ่งเป็นวีรบุรุษของชาติผู้ที่บดขยี้กองทัพของอังกฤษที่กาลิโปลี ในสมัยสงครามโลกครั่งที่ 1
- กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
- จากนั้นนำท่านเข้าชม พระราชวังท็อปกาปิ ซึ่งในอดีตเคยเป็นที่ประทับของสุลต่านแห่งราชวงศ์ออตโตมันหลายองค์ ในปัจจุบันพระราชวังท็อปกาปิ กลายเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติที่ใช้เก็บมหาสมบัติอันล้ำค่า อาทิ เพชร 96 กะรัต กริชทองประดับมรกต เครื่องลายครามจากจีน หยก มรกต ทับทิม และเครื่องทรงของสุลต่านที่ได้ปกครองในอาณาจักรแห่งนี้ ฯลฯ
- นำท่านไปเลือกซื้อสินค้าที่ ตลาดอียิปต์ หรือสไปซ์ มาร์เก็ต เป็นตลาดที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ในศตวรรษที่ 17 ซึ่งทอดยาวไปตามสุเหร่าเยนี ที่อยู่ใกล้กับสะพานกาลาต้า เป็นแหล่งขายของส่ง มีทั้งของกิน ของเล่นและเสื้อผ้า และยังมีเครื่องเทศ ผลไม้แห้งถั่วต่างๆ น้ำมันมะกอก ฯ
- ได้เวลาอันสมควร………..นำท่านเดินทางสู่สนามบิน
- 20.55 น. ออกเดินทางจากอีสตันบลู สู่กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ TK 064
- (รับประทานอาหารและพักผ่อนบนเครื่องบิน)
- (ใช้เวลาบินประมาณ 10.30 ช.ม.)
Day 10
- 10.05 น. ถึง สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ / กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

5 STARS TURKEY 10 DAYS (TK) NOV 2019 – NEW YEAR 2020
DEPARTURE/RETURN LOCATION | สนามบินสุวรรณภูมิ (ฺBKK) | |||||||||
DEPARTURE TIME | โปรดเดินทางมาถึงอย่างน้อย 2 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง | |||||||||
INCLUDED |
|
|||||||||
NOT INCLUDED |
|
|||||||||
การชำระเงิน | หากท่านสนใจและประสงค์จะเดินทาง กรุณาจองทัวร์และชำระเงินมัดจำล่วงหน้า 20,000 บาท/ท่าน (เพื่อเป็นการยืนยันการเดินทางของท่าน)
กรุณาชำระค่าทัวร์ส่วนที่เหลือล่วงหน้า 30 วัน ก่อนการเดินทาง หากท่านไม่ชำระเงินส่วนที่เหลือตามวันที่กำหนด ทางบริษัทฯ ถือว่าท่านยกเลิกการเดินทางโดยไม่มีเงื่อนไข ท่านสามารถโอนเงินเข้ำบัญชีของบริษัทฯ ดังรำยละเอียดดังนี้ |
|||||||||
การยกเลิก และการเปลี่ยนแปลง |
|
|||||||||
ข้อมูลเกี่ยวกับวีซ่า |
เอกสารประกอบการขอวีซ่า (ใช้เวลายื่น 15 วันทำการ) 1. หนังสือเดินทาง (Passport) หนังสือเดินทาง ต้องมีหน้าเหลือสำหรับประทับวีซ่าอย่างน้อย 2 หน้าต้องมีอายุการใช้งานเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน นับจากหลังวันเดินทาง หนังสือเดินทางห้ามชำรุด หรือขีดเขียนใดๆทั้งสิ้นภายในหนังสือเดินทาง (สำหรับท่านที่มีหนังสือเดินทางเล่มเก่า กรุณานำมาประกอบการยื่นวีซ่าด้วย เพื่อความสะดวกในการพิจารณาวีซ่าของท่าน) 2. รูปถ่าย รูปถ่ายสีหน้าตรงขนาด 1.5 x 2 นิ้ว จำนวน 2 ใบ (สัดส่วนใบหน้าโดยละเอียดเฉพาะใบหน้าสูง 3 ซม. วัดจากหน้าผากถึงคาง***) (ใช้รูปสีพื้นหลังขาวเท่านั้น ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือนและต้องไม่ซ้ำกับรูปวีซ่าที่มีในเล่ม สติ๊กเกอร์ใช้ไม่ได้, ห้ามสวมแว่นตาหรือเครื่องประดับ) และกรุณาเขียนชื่อ-นามสกุลตัวบรรจงไว้ด้านหลังรูป และให้ประกบด้านหน้าเข้าหากัน (กรุณาอย่าให้รูปเลอะหมึก และอย่าให้รูปมีรอยลวดเย็บกระดาษ เพราะสถานฑูตจะไม่รับรูปแบบนี้ ท่านอาจจะต้องถ่ายใหม่) 3. สำเนาทะเบียนบ้าน/บัตรประชาชน หรือ สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้าเคยเปลี่ยน) 4. หลักฐานการเงิน – กรณีผู้เดินทางออกค่าใช้จ่ายเอง ใช้ Bank Statement บัญชีออมทรัพย์ ย้อนหลัง 6 เดือน ของผู้เดินทาง ขอจากทางธนาคารเท่านั้น ต้องเป็น Statement ตัวเต็มจากธนาคารเท่านั้น ไม่ใช่สำเนาจากสมุดบัญชี และ อัพเดทไม่เกิน 15 วันหรืออยู่ในเดือนที่ยื่นวีซ่าสถานทูตไม่รับพิจารณาบัญชีกระแสรายวัน และสถานทูตไม่รับพิจารณาบัญชีฝากประจำ – กรณีผู้เดินทางไม่ได้ออกค่าใช้จ่ายเอง ใช้สำเนา Bank Statement บัญชีออมทรัพย์(ของผู้ที่ออกค่าใช้จ่าย) ย้อนหลัง 6 เดือน 5. หลักฐานการทำงาน(ภาษาอังกฤษและมีอายุ 1 เดือน นับย้อนหลังจากวันนัดสัมภาษณ์) – กรณีเป็นพนักงาน หนังสือรับรองการทำงานจากบริษัทฯ ระบุตำแหน่ง, เงินเดือน, วันเริ่มทำงานและช่วงเวลาที่อนุมัติให้ลาหยุด ต้องสะกดให้ตรงตามหน้าพาสปอร์ต – กรณีเจ้าของกิจการ สำเนาใบทะเบียนการค้าและหนังสือรับรองการจดทะเบียนที่มีชื่อของผู้เดินทางเป็นกรรมการหรือหุ้นส่วน พร้อมทั้ง เซ็นชื่อรับรองสำเนาและประทับตราบริษัทฯ (อายุสำเนาไม่เกิน 3 เดือน) – กรณีเป็นนักเรียน หรือ นักศึกษา ใช้หนังสือรับรองจากทางโรงเรียนหรือสถาบันที่กำลังศึกษาอยู่ (สถานทูตไม่รับเอกสารที่เป็นบัตรนักเรียน ไม่ว่าเป็นช่วงปิดเทอม และต้องมีอายุ 1 เดือน นับย้อนหลังจากวันนัดสัมภาษณ์) ต้องสะกดชื่อ-สกุล ให้ตรงตามหน้าพาสปอร์ต 6. กรณีที่เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี ขอสำเนาสูติบัตร กรณีเด็กไม่ได้เดินทางพร้อมผู้ปกครอง (กรุณาขอ 2 ฉบับ เพื่อสำหรับยื่นวีซ่า 1 ฉบับ และอีก 1 ฉบับ รบกวนเตรียมมาวันเดินทางสำหรับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองที่สนามบิน) – หากเด็กเดินทางไปกับบิดาจะต้องมีใบรับรองจากมารดา โดยมารดาจะต้องคัดจดหมายยินยอมให้บุตรเดินทางไปต่างประเทศกับมารดาโดยมีการรับรองค่าใช้จ่ายพร้อมแจ้งความสัมพันธ์และยินดีชดเชยค่าเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นโดยคัดฉบับจริงจากอำเภอต้นสังกัด พร้อมฉบับแปลภาษาอังกฤษ พร้อมทั้งแนบสำเนาบัตรประชาชนหรือหน้าพาสปอร์ตมารดามาด้วย – หากเด็กเดินทางกับมารดาจะต้องมีใบรับรองจากบิดา โดยบิดาจะต้องคัดจดหมายยินยอมให้บุตรเดินทางไปต่างประเทศกับมารดาโดยมีการรับรองค่าใช้จ่ายพร้อมแจ้งความสัมพันธ์และยินดีชดเชยค่าเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นโดยคัดฉบับจริงจากอำเภอต้นสังกัด พร้อมทั้งแนบสำเนาบัตรประชาชนหรือหน้าพาสปอร์ตบิดามาด้วย – หากเด็กไม่ได้เดินทางทั้งกับบิดาและมารดา โดยบิดาและมารดาจะต้องคัดจดหมายยินยอมให้บุตรเดินทางไปต่างประเทศกับใคร โดยมีการรับรองค่าใช้จ่ายพร้อมแจ้งความสัมพันธ์และยินดีชดเชยค่าเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นโดยคัดฉบับจริงจากอำเภอต้นสังกัด พร้อมทั้งแนบสำเนาบัตรประชาชนหรือหน้าพาสปอร์ตบิดาและมารดามาด้วย พร้อมทั้งแนบสถานะทางการงานและการเงินของบิดาหรือมารดาเพื่อรับรองแก่บุตรด้วย – กรณีเด็กที่บิดา-มารดาหย่าร้าง จะต้องแนบสำเนาใบหย่า และมีการสลักหลังโดยมีรายละเอียดว่าฝ่ายใดเป็นผู้ดูแลบุตรแต่เพียงผู้เดียว – กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี บิดา-มารดาลงชื่อรับรองในแบบฟอร์มสมัครวีซ่า 7. กรณีสมรสแล้ว สำเนาทะเบียนสมรส, สำเนาใบหย่า หรือ สำเนาใบมรณะบัตร (กรณีคู่สมรสเสียชีวิต) เอกสารยื่นวีซ่าอาจมีการปรับเปลี่ยนและขออัพเดทเพิ่มเติมได้ทุกเวลา หากทางสถานทูตแจ้งขอเพิ่มเติม *** ทางสถานทูตไม่ให้ดึงเล่มพาสปอร์ตในทุกกรณี หากลูกค้าจำเป็นต้องใช้พาสปอร์ตเดินทางในช่วงที่ยื่นวีซ่ากรุ๊ป ลูกค้าจะต้องไปแสดงตัวยื่นวีซ่าเดี่ยวเท่านั้นและต้องแนบตั๋วที่จะเดินทางก่อนหน้า เพื่อแจ้งให้สถานทูตรับทราบ ***1 |
|||||||||
เงื่อนไขอื่นๆ |
เอกสารประกอบการขอวีซ่า (ใช้เวลายื่น 15 วันทำการ) 1. หนังสือเดินทาง (Passport) หนังสือเดินทาง ต้องมีหน้าเหลือสำหรับประทับวีซ่าอย่างน้อย 2 หน้าต้องมีอายุการใช้งานเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน นับจากหลังวันเดินทาง หนังสือเดินทางห้ามชำรุด หรือขีดเขียนใดๆทั้งสิ้นภายในหนังสือเดินทาง (สำหรับท่านที่มีหนังสือเดินทางเล่มเก่า กรุณานำมาประกอบการยื่นวีซ่าด้วย เพื่อความสะดวกในการพิจารณาวีซ่าของท่าน) 2. รูปถ่าย รูปถ่ายสีหน้าตรงขนาด 1.5 x 2 นิ้ว จำนวน 2 ใบ (สัดส่วนใบหน้าโดยละเอียดเฉพาะใบหน้าสูง 3 ซม. วัดจากหน้าผากถึงคาง***) (ใช้รูปสีพื้นหลังขาวเท่านั้น ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือนและต้องไม่ซ้ำกับรูปวีซ่าที่มีในเล่ม สติ๊กเกอร์ใช้ไม่ได้, ห้ามสวมแว่นตาหรือเครื่องประดับ) และกรุณาเขียนชื่อ-นามสกุลตัวบรรจงไว้ด้านหลังรูป และให้ประกบด้านหน้าเข้าหากัน (กรุณาอย่าให้รูปเลอะหมึก และอย่าให้รูปมีรอยลวดเย็บกระดาษ เพราะสถานฑูตจะไม่รับรูปแบบนี้ ท่านอาจจะต้องถ่ายใหม่) 3. สำเนาทะเบียนบ้าน/บัตรประชาชน หรือ สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้าเคยเปลี่ยน) 4. หลักฐานการเงิน – กรณีผู้เดินทางออกค่าใช้จ่ายเอง ใช้ Bank Statement บัญชีออมทรัพย์ ย้อนหลัง 6 เดือน ของผู้เดินทาง ขอจากทางธนาคารเท่านั้น ต้องเป็น Statement ตัวเต็มจากธนาคารเท่านั้น ไม่ใช่สำเนาจากสมุดบัญชี และ อัพเดทไม่เกิน 15 วันหรืออยู่ในเดือนที่ยื่นวีซ่าสถานทูตไม่รับพิจารณาบัญชีกระแสรายวัน และสถานทูตไม่รับพิจารณาบัญชีฝากประจำ – กรณีผู้เดินทางไม่ได้ออกค่าใช้จ่ายเอง ใช้สำเนา Bank Statement บัญชีออมทรัพย์(ของผู้ที่ออกค่าใช้จ่าย) ย้อนหลัง 6 เดือน 5. หลักฐานการทำงาน(ภาษาอังกฤษและมีอายุ 1 เดือน นับย้อนหลังจากวันนัดสัมภาษณ์) – กรณีเป็นพนักงาน หนังสือรับรองการทำงานจากบริษัทฯ ระบุตำแหน่ง, เงินเดือน, วันเริ่มทำงานและช่วงเวลาที่อนุมัติให้ลาหยุด ต้องสะกดให้ตรงตามหน้าพาสปอร์ต – กรณีเจ้าของกิจการ สำเนาใบทะเบียนการค้าและหนังสือรับรองการจดทะเบียนที่มีชื่อของผู้เดินทางเป็นกรรมการหรือหุ้นส่วน พร้อมทั้ง เซ็นชื่อรับรองสำเนาและประทับตราบริษัทฯ (อายุสำเนาไม่เกิน 3 เดือน) – กรณีเป็นนักเรียน หรือ นักศึกษา ใช้หนังสือรับรองจากทางโรงเรียนหรือสถาบันที่กำลังศึกษาอยู่ (สถานทูตไม่รับเอกสารที่เป็นบัตรนักเรียน ไม่ว่าเป็นช่วงปิดเทอม และต้องมีอายุ 1 เดือน นับย้อนหลังจากวันนัดสัมภาษณ์) ต้องสะกดชื่อ-สกุล ให้ตรงตามหน้าพาสปอร์ต 6. กรณีที่เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี ขอสำเนาสูติบัตร กรณีเด็กไม่ได้เดินทางพร้อมผู้ปกครอง (กรุณาขอ 2 ฉบับ เพื่อสำหรับยื่นวีซ่า 1 ฉบับ และอีก 1 ฉบับ รบกวนเตรียมมาวันเดินทางสำหรับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองที่สนามบิน) – หากเด็กเดินทางไปกับบิดาจะต้องมีใบรับรองจากมารดา โดยมารดาจะต้องคัดจดหมายยินยอมให้บุตรเดินทางไปต่างประเทศกับมารดาโดยมีการรับรองค่าใช้จ่ายพร้อมแจ้งความสัมพันธ์และยินดีชดเชยค่าเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นโดยคัดฉบับจริงจากอำเภอต้นสังกัด พร้อมฉบับแปลภาษาอังกฤษ พร้อมทั้งแนบสำเนาบัตรประชาชนหรือหน้าพาสปอร์ตมารดามาด้วย – หากเด็กเดินทางกับมารดาจะต้องมีใบรับรองจากบิดา โดยบิดาจะต้องคัดจดหมายยินยอมให้บุตรเดินทางไปต่างประเทศกับมารดาโดยมีการรับรองค่าใช้จ่ายพร้อมแจ้งความสัมพันธ์และยินดีชดเชยค่าเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นโดยคัดฉบับจริงจากอำเภอต้นสังกัด พร้อมทั้งแนบสำเนาบัตรประชาชนหรือหน้าพาสปอร์ตบิดามาด้วย – หากเด็กไม่ได้เดินทางทั้งกับบิดาและมารดา โดยบิดาและมารดาจะต้องคัดจดหมายยินยอมให้บุตรเดินทางไปต่างประเทศกับใคร โดยมีการรับรองค่าใช้จ่ายพร้อมแจ้งความสัมพันธ์และยินดีชดเชยค่าเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นโดยคัดฉบับจริงจากอำเภอต้นสังกัด พร้อมทั้งแนบสำเนาบัตรประชาชนหรือหน้าพาสปอร์ตบิดาและมารดามาด้วย พร้อมทั้งแนบสถานะทางการงานและการเงินของบิดาหรือมารดาเพื่อรับรองแก่บุตรด้วย – กรณีเด็กที่บิดา-มารดาหย่าร้าง จะต้องแนบสำเนาใบหย่า และมีการสลักหลังโดยมีรายละเอียดว่าฝ่ายใดเป็นผู้ดูแลบุตรแต่เพียงผู้เดียว – กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี บิดา-มารดาลงชื่อรับรองในแบบฟอร์มสมัครวีซ่า 7. กรณีสมรสแล้ว สำเนาทะเบียนสมรส, สำเนาใบหย่า หรือ สำเนาใบมรณะบัตร (กรณีคู่สมรสเสียชีวิต) เอกสารยื่นวีซ่าอาจมีการปรับเปลี่ยนและขออัพเดทเพิ่มเติมได้ทุกเวลา หากทางสถานทูตแจ้งขอเพิ่มเติม *** ทางสถานทูตไม่ให้ดึงเล่มพาสปอร์ตในทุกกรณี หากลูกค้าจำเป็นต้องใช้พาสปอร์ตเดินทางในช่วงที่ยื่นวีซ่ากรุ๊ป ลูกค้าจะต้องไปแสดงตัวยื่นวีซ่าเดี่ยวเท่านั้นและต้องแนบตั๋วที่จะเดินทางก่อนหน้า เพื่อแจ้งให้สถานทูตรับทราบ *** |