
Aurora Hunting Iceland – Faroe Islands – Denmark 14 Days
- ราคารวมทิปหัวหน้าทัวร์ ทิปไกด์ท้องถิ่น ทิปคนขับรถแล้วไม่ต้องจ่ายเพิ่ม***
- ชมภูเขาเคิร์กจูเฟล ภูเขาทรงหมวกสัญลักษณ์ของไอซ์แลนด์แบบพาโนรามา
- สนุกสนานไปกับกิจกรรมการล่าแสงเหนือ ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติแสนสวยสุดมหัศจรรย์
- ชมน้ำตก SKOGAFOSS , SELJALANDSFOSS
- ชมชายหาดสีดำที่หม่บ้านวิก หนึงในชายหาดที่สวยที่สุดในโลก
- ถ่ายรูปกับแท่งหินบะซอลต์ สุดมหัศจรรย์
- ชมภายในถ้ำน้ำแข็ง ความประติมากรรมทางธรรมชาติที่สวยแปลกตา
- ชมอุทยานแห่งชาติซิงเควลลิร์ อุทยานชาติได้รับการขึ้นเบียนมรดกโลก
- ชมกีเซอร์ น้ำพุร้อนธรรมชาติ ที่พวยพุ่งขึ้นสูงกว่า 180 ฟุต ทุกๆ 7 – 10 นาที
- ชมทะลสาบธารน้ำแข็ง JOKULSARLON
- ตื่นเต้นไปกับการขับ SNOW MOBILE ตะลุยหิมะทุ่งน้ำแข็งแลงโจกุล
- ชมชายหาด DIAMOND BEACH
- ล่องเรือชมปลาวาฬ กิจกรรมอันเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวในการดูปลาวาฬแบบธรรมชาติ
- ผ่อนคลายไปกับการ แช่บ่อน้ำแร่ BLUE LAGOON บ่อน้ำแร่สีสวยชื่อดังของโลก
- เที่ยวชมหมู่เกาะแฟโรถ่ายรูปน้ำตกมูลาฟอสเซอร์ เป็นน้ำตกที่เป็นสัญลักษณ์ของเกาะ
- ทัวร์รอบเกาะแฟโร Golden Circle ชมหมู่บ้าน SAKSUN, TJORNUVIK และ GJOGV หมู่บ้านที่สวยที่สุดบนหมู่เกาะแฟโร ชมบ้านหลังคาหญ้า เอกลักษณ์ของเกาะแฟโร
- เดินเล่นถ่ายรูปในเมืองทอร์สเฮาน์ ชมบริเวณท่าเรือสีสันสดใส
- เพลิดเพลินไปกับการเดินเล่นชมเมือง โคเปนเฮเก้น และ ช้อปปิ้งที่ถนนสตรอยก์ และ นูฮาวน์
วันแรก | กรุงเทพ |
21.30 น. คณะพร้อมกันที่ สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 แถว 2 เคาน์เตอร์สายการบินไทย (TG) โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับในการตรวจเอกสารและสัมภาระในการเดินทาง
วันที่สอง | กรุงเทพ – โคเปนเฮเกน-ไอซ์แลนด์ |
00.50 น. “เหิรฟ้าสู่สนามบินโคเปนเฮเก้น” ประเทศเดนมาร์ก โดยสายการบินไทย เที่ยวบิน TG950 (ใช้เวลาบิน 12.10 ชม/รับประทานอาหารและพักผ่อนบนเครื่องบิน)
06.35 น. เดินทางถึงกรุงโคเปนเฮเกน หลังจากผ่านการตรวจคนเข้าเมือง พร้อมรับสัมภาระและการตรวจของศุลกากรแล้ว นำท่านพักผ่อนและรับประทานอาหารเช้าในเล้าจน์ภายในสนามบิน
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารภายในสนามบิน
13.05 น. ออกเดินสู่สนามบินเคฟลาวิค กรุงเรคยาวิก ประเทศไอซ์แลนด์ โดยสายการบินไอซ์แลนด์แอร์
เที่ยวบิน FI205
15.30 น. เดินทางถึงสนามบินเคฟลาวิค ประเทศไอซ์แลนด์
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร หรือ โรงแรมที่พัก
หลังจากนั้นนำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก FOSSHOTEL REYKJAVIK หรือ เทียบเท่า
วันที่สาม | ไอซ์แลนด์ – บ่อน้ำพุร้อนเดลดาร์ตุงกูเวอร์ – น้ำตกเฮินฟอซซ่า – ภูเขาเคิร์กจูเฟล |
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเดินทางสู่ เมืองบอร์กาเนส (Borgarnes) (เดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เมืองทางฝั่งตะวันตกของไอซ์แลนด์ นำท่านแวะชมน้ำพุร้อนเดลดาทุงกูเวล (Deildartunguhver Hot Spring) บ่อน้ำพุร้อนใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ อุณหภูมิน้ำสูงสุด 97 องศาเซลเซียส และเป็นบ่อน้ำพุร้อนที่มีน้ำไหลเร็วที่สุดในยุโรป
นำท่านชม น้ำตกเฮินฟอซซ่า (Hruanfossar Waterfall) ซึ่งในภาษาไอซ์แลนดิก Hruan แปลว่า ลาวา เนื่องจากเป็นน้ำตกที่ไหลลงมาจากลำธารความยาวกว่า 900 เมตรซึ่งพาดอยู่บนทุ่งลาวาที่ประทุขึ้นมาจากภูเขาไฟใต้พิภพซึ่งอยู่ใต้ธารน้ำแข็งแลงโจกุลกลาเซียร์ (Lungjokull Glacier)
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย ได้เวลานำท่านเดินทางสู่เมืองกรุนดาร์ฟจอร์ดูร์(Grundarfjordur) เป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวจำนวนมากจากทั้งในไอซ์แลนด์และต่างประเทศ มาเยือนและเพลิดเพลินไปกับความงามของธรรมชาติ อันแสนเงียบสงบ ลัดเลาะไปตามชายฝั่งตะวันตกของอ่าวแคบๆในเขตเมืองกรุนดาร์ฟจอร์ดูร์ ชมความงดงามของภูเขาเคิร์กจูเฟล (Kirkjufell) ภูเขาที่มีความสูงประมาณ 463 เมตร เป็นภูเขาที่มีทรงสวยงามและได้รับความนิยมมากในหมู่นักไต่เขา ใกล้ๆภูเขายังมีน้ำตกขนาดเล็กๆที่สวยงามมากแห่งหนึ่งอีกด้วย อิสระให้ท่านเก็บภาพความสวยงามตามอัธยาศัย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม
หลังจากนั้นนำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก FOSSHOTEL STYKKISHOLMUR HOTEL หรือ เทียบเท่า
วันที่สี่ | บลอนดูออส – อาร์คูเรย์รี่ |
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
อิสระให้ท่านเดินชมเมือง ก่อนนำท่านเดินทางสู่ เมืองบลอนดูออส (Blonduos) (เดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) เมืองทางฝั่งตะวันตกของไอซ์แลนด์ ที่ยังความน่ารักและเงียบสงบ พร้อมธรรมชาติอันแสนพิสุทธิ์ นำท่านเที่ยวชมหมู่บ้านเล็กๆและเก็บภาพความสวยงามของเมืองติดมหาสมุทรอีกแห่งของไอซ์แลนด์
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองอาคูเรย์รี่ (Akureyri) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) เมืองใหญ่อันดับสองของไอซ์แลนด์ บ้านเรือนถูกปลูกสร้างจากไม้ทาสีสันสดใสตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ ตั้งอยู่เป็นระเบียบอย่างลงตัว ตลอดเส้นทางท่านจะได้ชมทัศนียภาพอันสวยงามของไอซ์แลนด์ เมืองอาคูเรย์รี่มีแม่น้ำโครสซาเนสบอร์เกียร์ (Krossanesborgir) เป็นแม่น้ำสายสำคัญของเมืองไหลผ่าน ชมบ้านเรือนที่จัดแผนผังเมืองเมืองอย่างเป็นระเบียบ สวยงาม นำท่านชม โบสถ์อาคูเรย์รี่ เป็นสัญญลักษณ์ของเมือง เป็นโบสถ์คริสต์นิกายลูเธอรัน ออกแบบโดยสถานปนิก Gudjon Samuelsson สร้างปี 1940 หน้าต่างกระจกสีกลางเหนือแท่นบูชามีความสวยงามเป็นอย่างมาก ภาพแกะสลักนูนบนระเบียงโดยประติมากรแสดงการบัพติส จากนั้นนำท่านสู่ถนนคนเดิน เกเรอโตรกาตา (Gerartogata) อิสระให้ท่านช้อปปิ้งบน ถนนสายช้อปปิ้งของเมืองอาคูเรย์รี่
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
หลังจากนั้นนำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก HOTEL KJARNALUNDUR หรือ เทียบเท่า
วันที่ห้า | อาร์คูเรย์รี่ – น้ำตกโกดาฟอสส์ – ทะเลสาบมิวัทน์ – นามาฟแจล – ดิมมูบอร์เกียร์ |
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าชมน้ำตกโกดาฟอสส์ (Godafoss Waterfall) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที) หรือที่รู้จักในนาม น้ำตกของพระเจ้า “The Waterfalls of Gods” หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของประเทศไอซ์แลนด์ และเป็นหนึ่งในน้ำตกที่มีความงดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไอซ์แลนด์ น้ำตกมีความสูงประมาณ 12 เมตร และมีความกว้างมากกว่า 30 เมตร น้ำตกถูกค้นพบโดยนักบุญชาวคริสต์ 1,000 ปีก่อนคริสตกาล นำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาปมายด์วัทท์ (Myvatn Lake) (ประมาณ 1.20 ชั่วโมง) ทะเลสาบสีฟ้าขนาดประมาณ 37 ตารางกิโลเมตร เป็นทะเลสาบที่ใหญ่อันดับที่ 4 ของไอซ์แลนด์ เป็นแอ่งเกิดจากรอยแยกคราฟล่าฟอล์ทที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟรอบๆในอดีต
นำท่านชมนามาฟแจล (Namafjall) หรือบ่อโคลนเดือด คือโคลนตะกอนที่อิ่มตัวไปด้วยน้ำ ซึ่งมีไอน้ำร้อนจัดอยู่เบื้องล่าง เมื่อไอน้ำนั้นเคลื่อนที่จะทำให้โคลนที่อยู่ด้านบนพุ่งกระจายขึ้นมาคล้ายการระเบิดย่อยๆ ในบริเวณภูเขาไฟ อิสระให้ท่านได้เก็บภาพปรากฎการณ์ทางธรรมชาติอีกแห่งหนึ่งของไอซ์แลนด์ จากนั้นนำ
ท่านเข้าชมดิมมูโบร์กีร์ (Dimmuborgir) หรือที่แปลว่า ปราสาทดำ พื้นที่ซึ่งเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟครั้งใหญ่ในอดีตกาลราว 2,000 ปีก่อน ธารลาวาที่ไหลปกคลุมพื้นที่เมื่อโดนอากาศและน้ำที่เย็นจัด จึงทำให้พื้นที่
โดยรอบกลายเป็นดินภูเขาไฟ และหินภูเขาไฟรูปทรงประหลาดต่างๆ ชาวพื้นเมืองเชื่อว่าดินแดนแห่งนี้เป็นสถานที่เชื่อมต่อระหว่างโลกมนุษย์และดินแดนใต้พิภพ ซึ่งเมื่อซาตานถูกขับไล่จากสวรรค์ลงสู่ดินแดนใต้พิภพและผ่านดิมมูโบร์กีร์ ทำให้พื้นที่แห่งนี้เกิดภัยธรรมชาติขึ้น
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางไปยัง เมือง Faskrudsf Jordur ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
เข้าสู่โรงแรมที่พัก FOSSHOTEL EASTFJORD HOTEL หรือ เทียบเท่า
วันที่หก | Faskrudsf Jordur – วนอุทยานแห่งชาติสกาฟทาเฟล –โจกุลซาลอน–ถ้ำน้ำแข็ง – หมู่บ้านวิก |
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเดินทางสู่ วนอุทยานแห่งชาติสกาฟทาเฟล (Skaftafell National Park) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง) ชมธรรมชาติอันแปลกตาหลายสิ่งอยู่ที่เดียวกัน เช่น ภูเขาไฟสูงเสียดฟ้าที่มีหิมะปกคลุมทั้งปี ธารน้ำใส
ซึ่งไหลรินจากภูเขาสูง รอบๆเป็นป่าแคระอันอุดมสมบูรณ์ด้วยต้นเบิร์ชแคระ และทุ่งดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์บานสะพรั่งในฤดูดอกไม้ผลิของแต่ละปี ชมลาวาขนาดใหญ่เป็นแนวกว้างที่เกิดการเย็นลงอย่างช้าๆทำให้เกิดแนวแตกเป็นเสาเหลี่ยม ถือได้ว่าเป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติอันน่าทึ่ง จนเข้าสู่เขตอุทยานฯที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ตั้งอยู่ใต้ธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดเรียกว่า VATNAJOKULL มีขนาด 8,300 ตร.กม. เท่ากับธารน้ำแข็งทั้งหมดในทวีปยุโรปรวมกัน และขนาดความหนามากที่สุดหนาประมาณ 1,000 เมตร นำท่านเดินทางสู่ โจกุลซาลอน (Jökulsárlón) ทะเลสาบธารน้ำแข็ง ซึ่งรู้จักกันเป็นอย่างดีว่าเป็นทะเลสาบธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ เกิดจากการละลายของธารน้ำแข็งมากขึ้นๆ ในทุกๆ ปี ปัจจุบันมีพื้นที่กว้างถึง 18 ตารางกิโลเมตร โดยมีความลึกของน้ำในทะเลสาบถึง 200 เมตร ชมไอซ์เบิร์ก ภูเขาน้ำแข็งก้อนมหึมา เรียงรายโผล่
พ้นพื้นน้ำของทะเลสาบ สีสันสวยงามยามเมื่อกระทบแสงอาทิตย์ น่าประทับใจยิ่ง เป็นภาพธรรมชาติที่มีอยู่เพียงไม่กี่แห่งในโลก พร้อมนำท่านชมและถ่ายรูปภูเขาน้ำแข็งในระยะใกล้
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเข้าชมความสวยงามของประติมากรรมทางธรรมชาติภายในถ้ำน้ำแข็ง (Ice Cave) แห่งวัทนาโจกุล อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความสวยงามทางธรรมชาติของถ้ำน้ำแข็งที่เรียกได้ว่าเป็นถ้ำน้ำแข็งที่สวยที่สุดในไอซ์แลนด์และจะเข้าชมได้ในช่วงหน้าหนาวเท่านั้น ได้เวลานำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านวิก (Vik) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง) หมู่บ้านเล็กๆทางตอนใต้สุดของไอซ์แลนด์
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
หลังจากนั้นนำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก KATLA BY KEAHOTELS หรือ เทียบเท่า
**ปฏิบัติการล่าแสงเหนือ ทั้งนี้เนื่องจากแสงเหนือเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ จะมองเห็นหรือไม่ขึ้นกับสภาพอากาศ ณ วันนั้นเป็นสำคัญ **
วันที่เจ็ด | วิก -หาดทรายสีดำ – พิพิธภัณฑ์สโกการ์ – น้ำตกสโกการ์ – น้ำตกเซลยาลันส์ – เซลฟอสส์ |
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านแวะชมหาดทรายสีดำ (Black Beach) ซึ่งเกิดจากการสึกกร่อนของหินลาวาและแนวหินบะซอลต์ นับเป็นหนึ่งในชายหาดที่แปลกตาและมีความสวยงามที่หนึ่งบนโลก จากนั้นนำท่านออกเดินทางท่องเที่ยวตามเส้นทางด้านใต้ (South Shore) ของไอซ์แลนด์ ซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องของการค้นพบพลังงานความร้อนใต้พิภพ ซึ่งเป็นพลังงานที่ถูกนำมาใช้ทดแทนเชื้อเพลิงทำให้ประเทศแห่งนี้ได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองที่ไร้มลพิษ
นำท่านไปยัง Myrdalsjokull ระยะทางประมาณ 25 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที กิจกรรม ขับรถสโนว์โมบิลตะลุยไปในทุ่งน้ำแข็งแลงโจกุล ตะลุยไปในทุ่งน้ำแข็งกว้างอย่างเต็มอิ่มตลอด 1 ชั่วโมง (รวมชุดกันความหนาว, หมวกกันน็อก, ถุงมือ, รองเท้าบู๊ท)
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์สโกการ์ (Skogar Folk Museum) พิพิธภัณฑ์โบราณกลางแจ้ง สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1949 สถานที่ซึ่งรวบรวมคอลเลคชั่นโบราณแสดงความเป็นมาและชีวิตความเป็นอยู่ในอดีตของชาว
นอร์ดิค จากนั้นแวะถ่ายรูป น้ำตกสโกการ์ฟอสส์ (Skogarfoss Waterfalls) ความสูง 62 เมตร ประทับใจกับความสวยงามของน้ำตกที่เป็นธรรมชาติ แรงกระแทกของปลายสายน้ำเกิดเป็นละอองฟุ้งไปทั่วบริเวณ ทำให้หญ้าตระกูลมอสและเฟิร์นเติบโตปกคลุมหินที่เรียงรายริมลำธารเบื้องล่างอย่างสวยงาม โอบล้อมไปด้วยทุ่งลาวา,โตรกผาและหุบเหวเป็นทัศนียภาพที่สวยงามและน่าประทับใจกับผู้ที่มาเยือน
บ่าย นำท่านชม น้ำตกเซลยาลันส์ฟอสส์ (Seljalansfoss Waterfalls) มีความสูง 60 เมตร อีกหนึ่งน้ำตกที่มีชื่อเสียงของไอซ์แลนด์ ซึ่งบริเวณด้านหลังม่านน้ำตกสามารถเดินเข้าไปสัมผัสได้ด้วย นำท่านเดินทางสู่เมืองเซลฟอสส์ (Selfoss) ประมาณ 1 ชั่วโมง
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก
หลังจากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พัก SELFOSS HOTEL & SPA หรือ เทียบเท่า
วันที่แปด | เซลฟอสส์ –โกลเดนเซอร์เคิล – ซิงเควลลีร์ – น้ำตกกูล – กีเซอร์ – เมืองเรคยาวิก – โบสถ์ฮัลล์กรีมสคิร์คยา – เพอร์ลัน |
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พักนำท่านเที่ยวชมความมหัศจรรย์เหนือธรรมชาติของประทศไอซ์แลนด์ ในเส้นทางวงกลมทองคำ หรือ Golden Circle ชมทัศนียภาพของทุ่งหญ้าสลับกับทุ่งลาวา ฝูงสัตว์นานาชนิดทั้ง แกะ วัว ม้า ที่เลี้ยงและหากินตามธรรมชาติ นำท่านเข้าชมความงามของธรรมชาติที่สรรสร้างขึ้นภายใน อุทยานแห่งชาติซิงเควลลิร์ (Thingvellir National Park) ซึ่งได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ
เดินทางไปชม น้ำตกกูลฟอสส์(Gullfoss) หรือ ไนแองการ่าแห่งไอซ์แลนด์ ถือเป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศ และยังเป็น 1 ใน 3 สถานที่ในเส้นทาง “วงแหวนทองคำ” สถานที่ที่ผู้มาเยือนไอซ์แลนด์ไม่ควรพลาด ชื่อน้ำตก Gullfoss นี้มาจากคำว่า Gull ที่แปลว่าทองคำและ Foss ที่แปลว่าน้ำตก เมื่อรวมกันหมายถึง น้ำตกทองคำ เป็นหนึ่งในความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติระดับโลกที่เกิดจากการละลายของธารน้ำแข็งและลดระดับลงในโตรกเขาเบื้องล่างในระดับความสูงกว่า 30 เมตร
จากนั้นนำท่านชม น้ำพุร้อนธรรมชาติ (Geysir) น้ำพุร้อนหรือเกย์ซีร์ ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า กีเซอร์ ที่ใช้กันทั่วโลก น้ำพุร้อนที่นี่พวยพุ่งขึ้นสูงกว่า 180 ฟุต ทุกๆ 7 – 10 นาที พลังงานที่อยู่ใต้หินเปลือกโลก ขับเคลื่อนออกมาเป็นน้ำพุร้อน ช่วยให้อากาศอบอุ่นเย็นสบาย และรัฐบาลได้นำประโยชน์จากแหล่งความร้อนทางธรรมชาตินี้มาเป็นพลังงานไฟฟ้าส่งใช้ทั่วประเทศ
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย เดินทางสู่เมืองเรคยาวิก (Reykjavík) นำท่านถ่ายรูปกับสถานที่สำคัญต่างๆ ของเมืองหลวงแห่งไอซ์แลนด์ แวะถ่ายรูปกับ โบสถ์ฮัลล์กรีมสคิร์คยา (Hallgrímskirkja) โบสถ์ที่สูงที่สุดในไอซ์แลนด์ เป็นจุดที่สูงอีกจุดหนึ่งของเมือง โบสถ์ได้รับการออกแบบให้คล้ายคลึงกับความสมมาตรทางคณิตศาสตร์ของภูเขาไฟ Basalt โบสถ์นี้มีความสำคัญในฐานะเป็น ศาสนสถานเป็นสถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์ของสถาปนิกกุดโยน (Guðjón Samúelsson) ซึ่งเป็นผู้ออกแบบสถาปัตยกรรมแนวอิมพราสชั่นนิสท์
ชมภายนอก Hofdi House สถานที่จัดการประชุมสุดยอดเรคยาวิกในปี 1986 ของประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกนแห่งสหรัฐอเมริกาและเลขาธิการมิคาอิล กอร์บาชอฟแห่งสหภาพโซเวียต ในช่วงทศวรรษที่ 1940 – 1950 บ้านนี้ป็นสถานที่ตั้งของสถานเอกอัครราชทูตอังกฤษ ก่อนจะถูกบูรณะใหม่ในปี 2501 ปัจจุบันถูกนำมาใช้ในงานเลี้ยงรับรองและงานรื่นเริงต่างๆ ชมภายนอกของ City Hall ที่ตั้งของสำนักงานนายกเทศมนตรีเมืองเรคยาวิก ปัจจุบันใช้สำหรับนิทรรศการศิลปะ การทำงาน หรือการแสดงดนตรีสดประจำเมือง
จากนั้นชม เพอร์ลัน (Perlan) หรือ The Pearl เป็นสถานที่ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นไว้สำหรับต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองโดยสถาปนิกชื่อดัง อิงกิ มูนดูร์ เป็นผู้ออกแบบ อาคารรูปทรงคล้ายลูกโลกครึ่งวงตั้งอยู่บนฐานที่คล้ายถังน้ำมองเห็นได้ในระยะไกล
แบ่งเป็นส่วนต่างๆ เช่น ร้านอาหาร, ร้านไอศกรีม,พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ไวกิ้ง, สวนน้ำ และร้านขายของที่ระลึก นำท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์เพอร์แลน (Perlan Museum Wonders of Iceland) จุดชมวิวเรคยาวิกแบบ 360 องศา
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
หลังจากนั้นนำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก FOSSHOTEL REYKJAVIK หรือ เทียบเท่า
วันที่เก้า | ล่องเรือชมปลาวาฬ – แช่น้ำแร่บลูลากูน |
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านล่องเรือชมปลาวาฬ กิจกรรมอันเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวในการดูปลาวาฬแบบธรรมชาติโดยนั่งเรือกู๊ดโบ๊ต หรือเรือไม้ซึ่งออกแบบให้โต้คลื่นลมได้อย่างนิ่มนวล ปลาวาฬที่อาศัยอยู่ในน่านน้ำแถบนี้จะมี 3
สายพันธุ์ด้วยกัน คือ วาฬมิงค์ หรือ ในสำเนียงภาษาไอซ์แลนด์ เรียกว่า มิงคี (Minke) , วาฬหลังค่อม (Humpback) และวาฬเพชรฆาต (Killer Whale) การล่องเรือชมวาฬใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง (บนเรือมีชุดกันหนาวบริการ) (บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในกรณีที่บริษัทฯ เรือยกเลิกให้บริการอันเนื่องมาจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย)
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านไปยังบ่อน้ำแร่บลูลากูน (BLUE LAGOON) หรือ ทะเลสาบสีฟ้า สถานที่ท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพระดับโลกและโด่งดังที่สุดของประเทศไอซ์แลนด์ อิสระให้ท่านแช่น้ำแร่ธรรมชาติผ่อนคลายไปกับ Stream & Sauna เพื่อการพักผ่อนตามอัธยาศัย (มีบริการผ้าขนหนูให้ท่าน กรุณาเตรียมชุดว่ายน้ำและหมวกคลุมผมไปด้วยสำหรับการแช่น้ำแร่ในบลูลากูน ***
อิสระให้ท่านเดินสัมผัสบรรยากาศชมเมืองและช้อปปิ้งบริเวณถนนคนเดินยามเย็นในตัวเมืองเรคยาวิค จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
หลังจากนั้นนำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก FOSSHOTEL REYKJAVIK หรือ เทียบเท่า
**ปฏิบัติการล่าแสงเหนือ ทั้งนี้เนื่องจากแสงเหนือเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ จะมองเห็นหรือไม่ขึ้นกับสภาพอากาศ ณ วันนั้นเป็นสำคัญ **
วันที่สิบ | เรคยาวิค – หมู่เกาะแฟโร – น้ำตกมูลาฟอสเซอร์ – หมู่บ้านบูเออร์ |
เช้า รับประทานอาหารเช้าแบบกล่อง(Boxed Breakfast)
06.00 น. นำท่านสู่สนามบินเคฟลาวิก (Keflavik International Airport) กรุงเรคยาวิก
09.00 น. ออกเดินทางสู่สนามบินหมู่เกาะแฟโร (Faroe Islands) โดยสายการบินแอตแลนติกแอร์เวย์ เที่ยวบินที่ RC402
11.25 น. เดินทางถึงสนามบินแฟโร (FAROE ISLAND AIRPORT) ประเทศเดนมาร์ก
นำท่านเที่ยวชมหมู่เกาะแฟโร (Faroe Island) เป็นประเทศในกลุ่มเกาะจำนวน 18 เกาะ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือ
ของมหาสมุทรแอตแลนติกระหว่างสกอตแลนด์ นอร์เวย์ และไอซ์แลนด์ หมู่เกาะแฟโรเป็นเขตการปกครองตนเองของเดนมาร์ก ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2491 โดยมีสถานภาพเหมือนกับกรีนแลนด์ มีอำนาจในการปกครองตนเองทุกด้าน ยกเว้นด้านการต่างประเทศและการทหาร หมู่เกาะแฟโร มีความหมายว่า “เกาะแห่งแกะ” มีภาษาของตัวเองคือ “ภาษาแฟโร” แต่ภาษาราชการจะใช้เดนมาร์กควบด้วย มีสกุลเงินเป็นของตัวเองคือ “โครนาแฟโร” และมีเมืองหลวงคือเมือง “ทอร์สเฮาน์” มีระบอบกษัตริย์ และมีนายกรัฐมนตรีบริหารกิจการบ้านเมือง
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านถ่ายรูปกับน้ำตกมูลาฟอสเซอร์ (Mulafossur waterfall) ซึ่งเป็นน้ำตกที่เป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะแฟโร เพราะเป็นน้ำตกที่ปรากฏในภาพโปสการ์ดมากมาย ให้ท่านได้ชื่นชมธรรมชาติและความสวยงามของน้ำตกซึ่งมีฉากหลังเป็นภูเขาสวยแห่งเกาะแฟโร อิสระให้ท่านได้เก็บภาพตามอัธยาศัย
นำท่านเดินทางสู่หมู่บ้านบูเออร์ (Bour Village) ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่บนเนินเขาหินเลียบฝั่งทะเล นับเป็นหมู่บ้านที่สวยงามและมีทัศนียภาพของธรรมชาติที่ปรากฏให้เห็นในโปสการ์ดและหนังสือท่องเที่ยวมากมาย เป็นหมู่บ้านี่ตั้งอยู่ในซอร์แวงฟยอร์ด (Sorvagsfjord) เรียกได้ว่าเป็นฟยอร์ดที่มีความสวยงามทางธรรมชาติมากที่สุดอีกแห่งของเกาะแฟโร นำท่านเที่ยวชมและเก็บภาพธรรมชาติที่งดงามของหมู่เกาะแฟโร (ตอนกลางคืนสามารถรอชมแสงเหนือได้ ซึ่งช่วงหน้าหนาวจะเป็นช่วงที่ดีที่สุดในการชมแสงเหนือ)
อิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมืองเมืองทอร์สเฮาน์(Torshavn) ช่วงเย็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของหมู่เกาะแฟโร ดินแดนของประเทศเดนมาร์ก ตั้งอยู่ทางตอนใต้และเป็นส่วนหนึ่งของชายฝั่งทิศตะวันตกของเมืองสเตรอเมอ นำท่านเที่ยวชมเมืองและเดินเล่นพร้อมเก็บภาพบรรยากาศของเมืองหลวงที่ตั้งอยู่ในฟยอร์ดอันสวยงาม จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับบ้านหลังคาหญ้า (Tiganes) ซึ่งมีการปลูกหญ้าบนหลังคาบ้านนับเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของเมืองทอร์สเฮาน์ อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความสวยงามของเมืองหลวงทอร์สเฮาน์
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก TORSHAVN HOTEL หรือ เทียบเท่า
วันที่สิบเอ็ด | Golden Circle – เคิร์กจูบูเออร์ |
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเดินทางในเส้นทางวงกลมทองคำ หรือ Golden Circle ชมทัศนียภาพรอบเกาะแฟโร เยี่ยมชมหมู่บ้านสำคัญของเกาะแฟโร ได้แก่ หมู่บ้าน Saksun เป็นหมู่บ้านใกล้ชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะ Streymoy ในแฟโร ในเขตเทศบาลเมืองซุนดา หมู่บ้านเล็กๆที่มีทัศนียภาพสวยงามมีภูเขาล้อมรอบทะเล , หมู่บ้านTjornuvik หมู่บ้านเหนือสุดของเกาะที่มีทะเลยื่นเข้ามากลางเมือง และ หมู่บ้าน Gjogv หมู่บ้านนี้ตั้งชื่อตามช่องเขาที่เต็มไปด้วยทะเลยาว 200 เมตร
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำเดินทางสู่เมืองเคิร์กจูบูเออร์ (Kirkjubour) หมู่บ้านเล็กๆทางตอนใต้ของเกาะแฟโร เป็นหมู่บ้านที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เนื่องจากเป็นที่ตั้งของโบสถ์หินโบราณแมกนาส (Magnus Cathedral) จากศตวรรษที่ 13 ย้อนไปตั้งแต่สมับยุคไวกิ้ง และมีบ้านไม้ที่อายุเก่าแก่ที่สุดซึ่งสร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 นำท่านเข้าชมความงดงามของโบสถ์หินโบราณที่ยังคงอนุรักษ์ไว้จนถึงปัจจุบัน พร้อมทั้งดื่มด่ำกับทัศนียภาพของบ้านไม้โบราณที่นิยมปลูกหญ้าบนหลังคา เลียบฝั่งมหาสมุทร นับเป็นอีกหนึ่งทัศนียภาพที่สวยงามแห่งเกาะแฟโร อิสระให้ท่านเก็บภาพความสวยงามของธรรมชาติตามอัธยาศัย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก TORSHAVN HOTEL หรือ เทียบเท่า
วันที่สิบสอง | ทอร์สเฮาน์ – โคเปนเฮเก้น |
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
อิสระให้ท่านพักผ่อนหรือเดินเล่นในเมืองทอร์สเฮาน์ ตามอัธยาศัย
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่สนามบินเกาะแฟโร เพื่อเตรียมตัวเดินทางไปยังกรุงโคเปนเฮเกน
14.30 น. ออกเดินทางสู่ โคเปนเฮเกน โดยสายการบิน แอตแลนติกแอร์เวย์ เที่ยวบิน 456 (ใช้เวลาบิน 2.05 ชม.)
17.35 น. เดินทางถึงสนามบิน โคเปนเฮเกน
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก RADISSON BLU SCANDINAVIA HOTEL หรือ เทียบเท่า
วันที่สิบสาม | ท่าเรือนูฮาวน์ – สนามบิน |
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
08.00 น. นำท่านเดินเล่นที่ ท่าเรือนูฮาวน์ (Nyhavn) หรือ New Habour แปลได้ว่าท่าเรือใหม่ เป็นท่าเรือในยุคศตวรรษที่ 17 เป็นแหล่งบันเทิงในเมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูร้อน ท่าเรือนูฮาวน์เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแบบเดย์ทริป เป็นท่าจอดเรือที่มีสีสันและมีร้านอาหารตั้งเรียงรายอยู่มากมาย นอกจากนั้นยังมีทาวน์เฮ้าส์ที่มีสีสันสดใสในช่วงศตวรรษที่ 17 และ 18 มีบาร์และคาเฟ่ ต่างๆ มากมาย
10.00 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบินโคเปนเฮเกนเพื่อเช็คอิน
(เลือกรับประทานอาหารกลางวันในสนามบินโดยทางบริษัทฯจะจัดงบให้ท่าน)
13.50 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ โดยเที่ยวบิน TG951
วันที่สิบสี่ | กรุงเทพฯ |
06.20 น. เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ
*** โปรแกรมทัวร์อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงเวลาของสายการบิน / สภาวะทางอากาศซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ ทางบริษัทฯ จะยึดถือผลประโยชน์ของ ผู้เดินทางเป็นสำคัญ โปรแกรมนี้จัดขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์การท่องเที่ยวเป็นหลัก

อัตราค่าบริการ (บาท) |
ผู้ใหญ่พักห้องคู่ หรือ เด็ก 1 ท่านพักกับผู้ใหญ่ 1 ท่าน | 299,900.- |
พักเดี่ยวเพิ่มท่านละ | 30,000.- |
**ราคาอาจมีการปรับขึ้น – ลง ตามราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นลง แต่จะปรับตามความเป็นจริง (ราคา ณ วันที่ 09 พฤศจิกายน 2565) **
แจ้งเพื่อทราบ
- สำหรับห้องพักแบบ 3 เตียง มีบริการเฉพาะบางโรงแรมเท่านั้น กรณีเดินทางเป็นผู้ใหญ่ 3 ท่าน แนะนำให้ท่าน เปิดห้องพัก เป็น 2 ห้องจะสะดวกกับท่านมากกว่า
- กรณีเดินทางเป็นตั๋วกรุ๊ป หากออกตั๋วแล้ว ไม่สามารถขอคืนเงินได้ และไม่สามารถเปลี่ยนวันเดินทางได้
- กระเป๋าเดินทางเพื่อโหลด ท่านละ 1 ใบ น้ำหนักไม่เกิน 23 ก.ก. (เนื่องจากมีเที่ยวบินภายใน FI/RC รวม 3 เที่ยวบิน)
- กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง (Hand carry) น้ำหนักไม่เกิน 7 ก.ก.
ค่าทัวร์รวม |
- ตั๋วเครื่องบินไป-กลับชั้นนักท่องเที่ยวโดยสายการบิน TG / FI /RC (กระเป๋าเดินทาง 1 ใบ น้ำหนัก ไม่เกิน 23 กก./ท่าน)
- ค่าภาษีสนามบิน, ภาษีน้ำมัน, ค่าประกันภัยทางอากาศ,
- ค่าประกันภัยการเดินทางอุบัติเหตุวงเงิน 1,500,000 บาท และ ค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศวงเงิน 2,000,000 บาท
ค่ารักษาพยาบาลหลังกลับจากต่างประเทศภายใน 21 วัน วงเงิน 40,000 บาท (ประกันภัยไม่ครอบคลุมผู้ที่อายุเกิน 85 ปี)
- ค่าภาษีในทุกประเทศ (ประเทศตามระบุในโปรแกรมทัวร์)
- ค่าที่พักตลอดการเดินทาง (พักห้องคู่)
- ค่าอาหารทุกมื้อตามระบุ, ค่าพาหนะ หรือรถรับ-ส่ง ระหว่างนำเที่ยว, ค่าเข้าชมสถานที่, ค่าวีซ่าเชงเก้นเดนมาร์ก
หมายเหตุ สถานทูตเดนมาร์กจะออกวีซ่าเชงเก้น, ไอซ์แลนด์ และ แฟโร ในฉบับเดียวกัน ดังนั้นคิดค่าวีซ่า 3,500 บาท หาก
ท่านมีวีซ่าเชงเก้นแล้ว ท่านต้องทำวีซ่าไอซ์แลนด์และแฟโร จะไม่ได้มีการหักค่าวีซ่าคืน
- ค่าทิปหัวหน้าทัวร์
- ค่าทิปไกด์ท้องถิ่น, คนขับรถ พนักงานบริการฯ
ค่าทัวร์ไม่รวม |
- ค่าทำหนังสือเดินทาง (PASSPORT)
- ค่าจัดทำเอกสาร และค่าทำธรรมเนียมวีซ่าของคนต่างด้าว
- ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอาทิ ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, ค่าเครื่องดื่มในห้องพัก และค่าอาหารที่สั่งมาในห้องพักค่าอาหารและเครื่องดื่มที่สั่งพิเศษในร้านอาหารนอกเหนือจากที่ทางบริษัทจัดให้ยกเว้นจะตกลงกันเป็นกรณีพิเศษ เช่น หากท่านทานได้เฉพาะอาหารทะเลเพียงอย่างเดียว ท่านต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม
- ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ไม่ได้ระบุไว้ในรายการ
- ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%
การจองทัวร์ (กรุณาจองทัวร์อย่างน้อย 1 เดือน ก่อนจะเดินทาง) : |
งวดที่ 1 : สำรองที่นั่งจ่าย 80,000 บาท/ท่าน
งวดที่ 2 : ชำระส่วนที่สอง จำนวน 80,000 บาท วันที่ 16 มกราคม 2566
งวดที่ 3 : ชำระส่วนที่เหลือ 45 วัน ล่วงหน้าก่อนออกเดินทาง
การยกเลิกการจองทัวร์ : |
ยกเลิกก่อนการเดินทาง 45 วัน ไม่เก็บค่าใช้จ่าย (หากไม่ได้มีการยื่นวีซ่าล่วงหน้า) (สงกรานต์-ปีใหม่ 60 วัน)
ยกเลิกก่อนการเดินทาง 30-45 วัน หักค่ามัดจำ 35,000 บาท + ค่าวีซ่า (ถ้ามี) (สงกรานต์-ปีใหม่ 44-59 วัน)
ยกเลิกก่อนการเดินทาง 10-30 วัน หักค่ามัดจำ 35,000 บาท + ค่าใช้จ่ายอื่น (ถ้ามี) (สงกรานต์-ปีใหม่ 20-43 วัน)
ยกเลิกก่อนการเดินทาง 0-9 วัน หักค่าใช้จ่าย 75-100% ของค่าทัวร์ (สงกรานต์-ปีใหม่ 0-19วัน)
***ผู้เดินทางที่ไม่สามารถเข้า-ออกเมืองได้ เนื่องจากการยื่นเอกสารปลอม หักค่าใช้จ่าย 100%
***หากมีการยกเลิกการจองทัวร์ หลังได้ทำการยื่นวีซ่าเรียบร้อยแล้ว บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการนำเล่มพาสปอร์ตไปยกเลิกวีซ่าในทุกกรณี ไม่ว่าค่าใช้จ่ายในการยื่นวีซ่าจะรวมหรือแยกจากรายการทัวร์ก็ตาม***
หมายเหตุ :
- บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการเดินทางในกรณีที่มีผู้เดินทาง ต่ำกว่า 12 ท่าน โดยจะแจ้งให้ผู้เดินทางทราบล่วงหน้า อย่างน้อย 20 วัน ก่อนการเดินทาง
- บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงการพาเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวใดๆที่ปิดทำการ โดยจะจัดหาสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆเพื่อทดแทนเป็นลำดับแรก หรือคืนค่าเข้าชมแก่คณะผู้เดินทางแทน
- บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงการพาเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวใดๆที่ปิดทำการ โดยจะจัดหาสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆเพื่อทดแทนเป็นลำดับแรก หรือคืนค่าเข้าชมแก่คณะผู้เดินทางแทน
- บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายการท่องเที่ยว กรณีที่เกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัย อาทิ การล่าช้าของสายการบิน การนัดหยุดงาน การประท้วง ภัยธรรมชาติ การก่อจราจล อุบัติเหตุ ปัญหาการจราจร ฯลฯ ทั้งนี้จะคำนึงและรักษาผลประโยชน์ของผู้เดินทางไว้ให้ได้มากที่สุด
- เนื่องจากการท่องเที่ยวนี้เป็นการชำระแบบเหมาจ่ายกับบริษัทตัวแทนในต่างประเทศ ท่านไม่สามารถที่จะเรียกร้องเงินคืน ในกรณีที่ท่านปฎิเสธหรือสละสิทธิ์ ในการใช้บริการที่ทางทัวร์จัดให้ ยกเว้นท่านได้ทำการตกลง หรือ แจ้งให้ทราบ ก่อนเดินทาง
- บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น หากท่านถูกปฎิเสธการตรวจคนเข้าเมือง และจะไม่คืนเงินค่าทัวร์ที่ท่านชำระมาแล้ว หากท่านถูกปฎิเสธการเข้าเมือง เนื่องจากการกระทำที่ส่อไปในทางผิดกฎหมาย หรือการหลบหนีเข้าเมือง
- ในกรณีที่ท่านจะใช้หนังสือเดินทางราชการ (เล่มสีน้ำเงิน) เดินทางกับคณะ บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบ หากท่านถูกปฎิเสธการเข้าหรือออกนอกประเทศใดประเทศหนึ่ง เพราะโดยปกตินักท่องเที่ยวใช้หนังสือเดินทางบุคคลธรรมดา เล่มสีเลือดหมู
กรณีเดินทางโดยลูกค้าจัดการตั๋วเครื่องบินเอง (Land Only) |
- ในกรณีลูกค้าดำเนินการเรื่องตั๋วเครื่องบินเองและมาเที่ยวร่วมกับคณะ (Join Tour) ลูกค้าต้องดำเนินการมาพบคณะทัวร์ด้วยตัวเอง และต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการมาพบคณะใหญ่ด้วยตัวเอง รวมถึงหากกรณีเที่ยวบินของคณะใหญ่เกิดความล่าช้าหรือยกเลิกเที่ยวบินอันด้วยสาเหตุใดๆก็ตาม
ตั๋วเครื่องบิน |
- ในการเดินทางเป็นหมู่คณะผู้โดยสารจะต้องเดินทางไป-กลับ หากท่านต้องการเลื่อนวันเดินทางกลับ ท่านจะต้องชำระ ค่าใช้จ่ายส่วนต่างที่สายการบินเรียกเก็บโดยสายการบิน เป็นผู้กำหนด ซึ่งทางบริษัทฯ ไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ และในกรณีที่ยกเลิกการเดินทาง ถ้าทางบริษัทได้ออกตั๋วเครื่องบินไปแล้ว ผู้เดินทางต้องรอ Refund ตามระบบของสายการบินเท่านั้น (ในกรณีที่ตั๋วเครื่องบินสามารถทำการ Refund ได้เท่านั้น)
- ท่านที่จะออกตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต หาดใหญ่ ฯลฯ โปรดแจ้งฝ่ายขายก่อนเพื่อขอคำยืนยันว่าทัวร์นั้นๆ ยืนยันการเดินทาง แน่นอน หากท่านออกตั๋วภายในประเทศโดยไม่ได้รับการยืนยันจากพนักงาน แล้วทัวร์นั้นยกเลิก บริษัทฯไม่สามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายใดๆที่เกี่ยวข้องกับตั๋วเครื่องบินภายในประเทศได้
- เมื่อท่านจองทัวร์และชำระมัดจำแล้ว หมายถึงท่านยอมรับในข้อความและเงื่อนไขที่บริษัทฯแจ้งแล้วข้างต้น
โรงแรมและห้องพัก |
- ห้องพักในโรงแรมเป็นแบบห้องพักคู่ ( TWN/DBL ) ในกรณีที่ท่านมีความประสงค์จะพักแบบ 3 ท่าน / 3 เตียง ( TRIPLE ROOM ) ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของห้องพักและรูปแบบของห้องพักของแต่ละโรงแรม ซึ่งมักมีความแตกต่างกัน ซึ่งอาจจะทำให้ท่านไม่ได้ห้องพักติดกันตามที่ต้องการ หรือ อาจไม่สามารถจัดห้องที่พักแบบ 3 เตียงได้
- โรงแรมหลายแห่งในยุโรป จะไม่มีเครื่องปรับอากาศเนื่องจากอยู่ในแถบที่มีอุณหภมิต่ำ เครื่องปรับอากาศที่มีจะให้บริการในช่วงฤดูร้อนเท่านั้น
- ในกรณีที่มีการจัดประชุมนานาชาติ ( TRADE FAIR ) เป็นผลให้ค่าโรงแรมสูงขึ้น 3-4 เท่าตัว บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนหรือย้ายเมืองเพื่อให้เกิดความเหมาะสม
กระเป๋าเล็กถือติดตัวขึ้นเครื่องบิน |
- กรุณางดนำของมีคม ทุกชนิด ใส่ในกระเป๋าใบเล็กที่จะถือขึ้นเครื่องบิน เช่น มีดพับ กรรไกรตัดเล็บทุกขนาด ตะไบเล็บ เป็นต้น กรุณาใส่ในกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ห้ามนำติดตัวขึ้นบนเครื่องบินโดยเด็ดขาด
- วัตถุที่เป็นลักษณะของเหลว อาทิ ครีม โลชั่น น้ำหอม ยาสีฟัน เจล สเปรย์ และเหล้า เป็นต้น จะถูกทำการตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยจะอนุญาตให้ถือขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 10 ชิ้น ในบรรจุภัณฑ์ละไม่เกิน 100 ml. แล้วใส่รวมเป็นที่เดียวกันในถุงใสพร้อมที่จะสำแดงต่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตามมาตราการองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ( ICAO )
- หากท่านซื้อสินค้าปลอดภาษีจากสนามบิน จะต้องปิดผนึกถุงโดยระบุ วันเดินทาง เที่ยวบิน จึงสามารถนำขึ้นเครื่องได้ และห้ามมีร่องรอยการเปิดปากถุงโดยเด็ดขาด
สัมภาระและค่าพนักงานยกสัมภาระ |
- สำหรับน้ำหนักของสัมภาระที่ทางสายการบินอนุญาตให้โหลดใต้ท้องเครื่องบิน คือ 20-30 กิโลกรัม (สำหรับผู้โดยสารชั้นประหยัด/ Economy Class Passenger ซึ่งขึ้นกับแต่ละสายการบิน) การเรียกเก็บค่าระวางน้ำหนักเพิ่มเป็นสิทธิ์ของสายการบินที่ท่านไม่อาจปฎิเสธได้ หาก น้ำหนักกระเป๋าเดินทางเกินกว่าที่สายการบินกำหนด
- สำหรับกระเป๋าสัมภาระที่ทางสายการบินอนุญาตให้นำขึ้นเครื่องได้ ต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัมและมีสัดส่วนไม่เกิน 5 x 13.5 x 21.5 สำหรับหน่วยวัด “นิ้ว” (Inch) หรือ 19 x 35 x 55 สำหรับหน่วยวัด “เซนติเมตร” (Centimeter)
- ในบางรายการทัวร์ ที่ต้องบินด้วยสายการบินภายในประเทศ น้ำหนักของกระเป๋าอาจจะถูกกำหนดให้ต่ำกว่ามาตรฐานได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแต่ละสายการบิน บริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับภาระ ความรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในน้ำหนักส่วนที่เกิน
- กระเป๋าและสัมภาระที่มีล้อเลื่อนและมีขนาดใหญ่เกินไป ไม่เหมาะกับการเป็นกระเป๋าถือขึ้นเครื่องบิน (Hand carry)
เอกสารประกอบการขอวีซ่าสถานฑูตเดนมาร์ก
(ใช้เวลาในการขอวีซ่าประมาณ 15-20 วันทำการ)
สถานฑูตไม่อนุญาตให้ดึงเล่มพาสปอร์ต หากได้ยื่นเข้าไปแล้ว ดังนั้นถ้าท่านรู้ว่าต้องใช้เล่มกรุณาแจ้งบริษัททัวร์ฯ เพื่อขอยื่นวีซ่าล่วงหน้าก่อนกรุ๊ป และให้แนบตั๋วเครื่องบินในช่วงที่ท่านจะเดินทางมาด้วย
(การเตรียมเอกสาร กรุณาอ่านให้เข้าใจ และเตรียมให้ครบ และกรุณาอย่าดื้อและยึดติดกับการยื่นในสมัยก่อน )
- หนังสือเดินทาง อายุใช้งานได้ เกิน 6 เดือนขึ้นไป และ มีหน้าว่างอย่างน้อย 2 แผ่น
2. รูปถ่ายสีหน้าตรง ขนาด 3.5 x 4.5 ซ.ม. จำนวน 2 รูป พื้นฉากหลังรูปต้องเป็นพื้นสีขาว (อย่าถ่ายเอง เพราะพื้นเป็นสีเทา ใช้ไม่ได้) ห้ามสวมแว่นสายตา (รูปถ่ายต้องถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน…สถานฑูตมีการเทียบรูปกับหน้าวีซ่าที่เคยได้)
- สำเนาบัตรประชาชน
- สำเนาทะเบียนบ้าน (กรุณาถ่ายหน้าแรกที่มีรายละเอียดบ้านเลขที่มาด้วย)
- สำเนาทะเบียนสมรส (กรณีผู้หญิง…..หากมีการเปลี่ยนคำนำหน้าเป็น …นาง… ต้องแนบมา)
- สำเนาทะเบียนหย่า (กรณีผู้หญิง…..ถ้าหย่าและหากมีการใช้คำนำหน้าเป็น ….นาง…ต้องแนบมา)
- สำเนาใบมรณะบัตร
- สูติบัตร (กรณีเด็กต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ต้องแนบสูติบัตรมา)
- กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์: (หากเด็กไม่ได้เดินทางพร้อม พ่อและแม่) ต้องยื่นเอกสารเพิ่มเติมดังนี้
- เด็ก เดินทางกับบุคคลอื่น บิดาและมารดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอม ซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้น และให้ระบุว่า ยินยอมให้เด็กเดินทางกับใคร (ระบุชื่อ) มีความสัมพันธ์อย่างไรกับครอบครัว
- เด็ก เดินทางกับบิดา มารดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอมซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้นและให้ระบุว่า มารดายินยอมให้เด็กเดินทางกับบิดา (ระบุชื่อบิดา)
- เด็ก เดินทางกับมารดา บิดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอมซึ่งออกให้โดย
- หลักฐานการทำงาน (จดหมายรับรองการทำงาน) ทำเป็นภาษาอังกฤษ ระบุ TO WHOM IT MAY CONCERN
- กรณีผู้เดินทางเป็นเจ้าของกิจการ : ใช้หนังสือจดทะเบียนบริษัทฯ ที่มีรายชื่อผู้ประกอบกิจการ (อายุไม่เกิน 3 เดือน)
- กรณีผู้เดินทางเป็นเจ้าของร้านค้า : ใช้ทะเบียนพาณิชย์ที่มีชื่อผู้เป็นเจ้าของร้านค้า
- กรณีพนักงานบริษัท : ใช้จดหมายรับรองการทำงานจากนายจ้าง ระบุตำแหน่ง ระยะเวลาการว่าจ้าง เงินเดือน
- กรณีที่เป็นข้าราชการ : ใช้หนังสือรับรองจากหน่วยงาน
- กรณีเกษียณอายุราชการ: ถ่ายสำเนาบัตรข้าราชการบำนาญ
- กรณีเป็นนักเรียนนักศึกษา ต้องมีหนังสือรับรองจากสถาบันศึกษา นั้นว่ากำลังศึกษาอยู่ ระบุชั้นปีที่ศึกษา
- หลักฐานการเงิน : (กรุณาเตรียมให้ถูกต้อง ใช้ทั้ง Bank guarantee และ สำเนาบัญชี เล่มเดียวกัน)
- หนังสือรับรองสถานะทางการเงิน (Bank guarantee) ของบัญชีออมทรัพย์ (Saving account) ออกโดยธนาคาร ระบุชื่อเจ้าของบัญชีให้ครบถ้วน มีอายุไม่เกิน 20 วันนับจากวันที่จะยื่นวีซ่า
- สำเนาสมุดบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน นับขึ้นไปจากเดือนที่จะยื่นวีซ่า มียอดเงินไม่ต่ำกว่า 100,000 บาทต่อการรับรอง 1 ท่าน และยอดแสดงในบัญชีต้องไม่ก้าวข้ามเดือน (ปรับสมุดและสำเนา 7 วันก่อนยื่นวีซ่า)
************* ข้อ 1 และ ข้อ 2 ต้องเป็นสมุดบัญชีออมทรัพย์เล่มเดียวกันเท่านั้น **************
หมายเหตุ : หากสมุดบัญชีแสดงยอดรวมที่มีการกระโดดข้ามเดือน (ยอดไม่ต่อเนื่อง) เช่นจากเดือน 1 ข้ามไปเป็นยอดของ เดือน 3 (เดือน 2 ไม่มี) ท่านต้องไปขอ Bank statement จากทางธนาคารแทนการถ่ายสำเนาสมุดบัญชี
- บัญชีฝากประจำ (Fixed) สามารถแนบประกอบได้ แต่ท่านต้องแนบบัญชีออมทรัพย์ (Saving) มาด้วย
หากต้องการใช้บัญชีฝากประจำ ต้องเตรียมดังนี้
- หนังสือรับรองสถานะทางการเงิน (Bank guarantee) ของบัญชีฝากประจำ (Fixed account) ออกโดยธนาคาร ระบุชื่อเจ้าของบัญชีให้ครบถ้วน มีอายุไม่เกิน 20 วันนับจากวันที่จะยื่นวีซ่า
- สำเนาสมุดบัญชีฝากประจำ มียอดเงินไม่ต่ำกว่า 100,000 บาทต่อการรับรอง 1 ท่าน
หมายเหตุ หากต้องการรับรองการเงินให้คนภายในครอบครัว ต้องเตรียมเอกสารดังนี้
- หนังสือรับรองทางการเงิน (Bank Guarantee) ต้องระบุชื่อเจ้าของบัญชี รับรองค่าใช้จ่ายให้ใคร (ต้องระบุชื่อผู้ถูกรับรองในจดหมายด้วย)
- กรุณาแนบสูติบัตร, ทะเบียนบ้าน, ทะเบียนสมรส หรือหลักฐาน เพื่อแสดงสถานะ และความสัมพันธ์ว่าเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน
กรณีนายจ้างรับรองค่าใช้จ่ายให้ลูกจ้าง
- จดหมายรับรองจากนายจ้างระบุว่าเป็นผู้รับรองค่าใช้จ่าย พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น
- หนังสือรับรองเงินฝาก ดังข้อ1 และ 11.2
(สถานฑูตไม่รับพิจารณาบัญชีกระแสรายวันในทุกกรณี ไม่ต้องแนบมา)
Tour Reviews
There are no reviews yet.
Leave a Review