
จัยซัลแมร์ Golden City (นครสีทอง)
จ๊อดปูร์ Blue City (นครสีฟ้า)
ชัยปุระ Pink City (นครสีชมพู)
เมืองอุไดร์ปูร์ (นครสีขาว)
*****พักโรงแรมระดับ 4-5 ดาว*****
สุดยอดโปรแกรม…เที่ยวครบสูตร!!!
ราชาสถาน ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของสาธารณรัฐอินเดีย ทางฝั่งตะวันตกของรัฐติดกับประเทศปากีสถาน ทางเหนือติดกับรัฐปัญจาบและรัฐหรยาณา ทางตะวันออกติดกับรัฐอุตตรประเทศและรัฐมัธยมประเทศ ทางใต้ติดกับรัฐคุชราต ทางใต้ของรัฐราชสถาน ซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งทะเลอาหรับ 400 กิโลเมตร มีเทือกเขา Aravalli ซึ่งแบ่งราชสถานออกเป็นสองฝั่ง ได้แก่ ฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือซึ่งเป็นทะเลทรายปกคลุม 2 ใน 3 ของรัฐ และฝั่งตะวันออกซึ่งเป็นที่ดินอุดมสมบูรณ์
Day 1: กรุงเทพฯ-กรุงเดลี
- 17.00 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับและตรวจเอกสารการเดินทาง ณ เคาน์เตอร์สายการบิน ไทยแอร์เวย์ ชั้น 4 ประตูทางเข้าที่ 2
- 20.00 น. ”เหิรฟ้าสู่กรุงเดลี” ประเทศอินเดีย โดยสายการบินแอร์อินเดีย เที่ยวบินที่ TG-315 (ใช้เวลาบินประมาณ 4 ชั่วโมง บริการอาหารเช้าบนเครื่อง)
- 23.00 น. เดินทางมาถึงสนามบินนานาชาติอินทิราคานธีร์ เมืองเดลี ตามเวลาท้องถิ่น หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและตรวจรับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว นำท่านเดินทางเข้าที่พัก
- พักที่ RADISSON BLU PACHIM VIHAR HOTEL ระดับ 5 ดาว หรือเทียบเท่า
Day 2 : เดลี - จัยปูร์
- เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
- นำท่านชม วัดอัครชาดาม (AKSHARDHAM TEMPLE) ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมแบบฮินดูที่มีขนาดใหญ่สร้างขึ้นโดย Pramukh Swami Maharaj ผู้นำนิกาย Swami Narayan ของศาสนาฮินดู เป็นศูนย์รวมเกี่ยวกับอารยะธรรมอินเดีย และมีการแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับวัฒนธรรมและศิลปะต่างๆ
- เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
- จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ เมืองจัยปูร์ (JAIPUR) หรือ “นครสีชมพู” ซึ่งเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในแคว้นราชาสถาน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง
- ค่ำ รับประทานอาหารคํ่า ณ ห้องอาหารโรงแรม
- พักที่ SAROVAR PORTICO HOTEL ระดับ 5 ดาว หรือเทียบเท่า
Day 3 : เมืองจัยปูร์ ซิตี้ทัวร์
- เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
- นำท่าน ชมเมืองจัยปูร์ หรือนครแห่งชัยชนะ คนอินเดียเรียกเมืองนี้ว่า จัยปูร์ หรือ จัยเปอร์ ท่านมหาราชา ไสว ชัย สิงห์ ที่ 2 (Sawei Jai Singh II) เป็นผู้สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1727 เมืองนี้ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่ออกแบบวางผังเมืองได้สวยงาม จัยปูร์เป็นเมืองหลวงของรัฐราชสถานได้ชื่อว่า นครสีชมพู (Pink City) เพราะในสมัยที่มหาราชา ราม สิงห์ เป็นกษัตริย์ปกครองเมืองจัยปูร์เวลานั้นอินเดียเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ ในปีค.ศ.1853 เจ้าชายมกุฎราชกุมารของอังกฤษเสด็จประพาสเมืองจัยปูร์ มหาราชา ราม สิงห์ สั่งให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตเมืองทาสีบ้านเรือนด้วยสีชมพู (อมส้ม) ทั้งเมืองเพื่อถวายการต้อนรับจัยปูร์จึงได้ชื่อว่านครสีชมพูแต่นั้นเป็นต้นมา
- จากนั้น นำท่านขึ้น ชมพระราชวังแอมเบอร์ฟอร์ท (Amber fort) ซึ่งเดิมเคยเป็นราชธานีของเมืองจัยปูร์ สร้างอยู่บนเนินเขาสูงตรงตำแหน่งเดิมที่เคยเป็นป้อมปราการเก่าในศตวรรษที่ 11 มาก่อน สร้างขึ้นโดยมหาราชาแมนสิงห์ ในปี ค.ศ. 1592 และเสร็จสิ้นลงในสมัยของมหาราชาใจสิงห์ ป้อมแห่งนี้เป็นต้นแบบที่ดีของสถาปัตยกรรมแบบราชปุต Rajput เป็นป้อมปราการเด่นตระหง่านอยู่บนเนินเขา โดยมีทะเลสาบ Maota อยู่เบื้องล่าง แวดล้อมด้วยชุมชนของเขตเมืองเก่า ทัศนียภาพเมื่อมองลงมาจากป้อมเป็นสิ่งที่น่าประทับใจมาก
- เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร/โรงแรม
- นำท่านชม ซิตี้พาเลช (Jaipur City Place) ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ถึง 1 ใน 7 ของใจกลางเมือง สร้างตั้งแต่สมัยมหาราชาชัยสิงห์ และต่อเติมกันเรื่อยมาเป็นสถาปัตยกรรมแบบราชสถาน ที่แสดงถึงลักษณะของศิลปะแบบโมกุล ปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ แสดงของใช้ส่วนพระองค์ของมหาราชาแห่งเมืองจัยปูร์ แม้ยุคนี้จะไม่มีมหาราชาอีกต่อไป แต่ City Palace แห่งนี้ก็ยังเป็นสมบัติส่วนพระองค์ และชาวเมืองจัยปูร์บางส่วนก็ยังนับถือพระองค์อยู่แม้พระองค์จะไม่มีอำนาจใดๆ ที่ปากทางเข้าซิตี้พาเลส มีหอดูดาว จันทราแมนทาร์ (Jantar Mantar) สร้างในปี ค.ศ. 1727 โดยมหาราชาใจสิงห์ พระองค์ยังทรงเป็นกษัตริย์นักดาราศาสตร์ จึงทรงสร้างหอดูดาวและอุปกรณ์ดาราศาสตร์ขนาดใหญ่ไว้มากมาย เรียกว่า Jantar Mantar ไม่ใช่แค่ 1 แห่งแต่มีถึง 5 แห่ง อีก 4 แห่งอยู่ที่ Delhi, Ujjain, Varanasi และ Matura แต่ที่ใหญ่และสมบูรณ์ที่สุดอยู่ที่นี่ นาฬิกาแดด สูงถึง 28 เมตร ที่ยังเที่ยงตรงอยู่ บอกเวลาที่เมืองจัยปูร์โดยเฉพาะ ซึ่งจะไม่ตรงกับเวลามาตรฐานของอินเดีย
- จากนั้น นำท่าน แวะถ่ายภาพ ฮาวามาฮาล “พาเลซออฟวินด์” (Hawa Mahal) พระราชวังแห่งสายลม ซึ่งสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1799 โดยมหาราชา ไสว ชัย สิงห์ เป็นอาคาร 5 ชั้นสร้างด้วยหินทรายออกแดงคล้ายสีปูนแห้ง สถาปัตยกรรมสไตล์เปอร์เซียกับโมกุล มีหน้าต่างถึง 953 ช่อง เป็นทั้งช่องลมผ่านและให้หญิงสูงศักดิ์ในราชสำนักแอบมองดูชีวิตความเป็นอยู่ในตัวเมือง รวมทั้งขบวนแห่งต่างๆ โดยที่บุคคลภายนอกไม่สามารถมองเห็นสตรีเหล่านั้นได้ และนั่นคือที่มาของคำว่า “ฮาวา” ซึ่งแปลว่าสายลม ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์แห่งจัยปูร์ จนได้ชื่อว่าเป็นเมืองสีชมพู
- ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารโรงแรม
- พักที่ SAROVAR PORTICO HOTEL ระดับ 5 ดาว หรือเทียบเท่า
Day 4 : เมืองจัยปูร์–เมืองบิคาเนอร์-วิหารคาร์นีมาทา
- เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
- นำท่านเดินทางสู่ เมืองบิคาเนอร์ (BIKANER) ระยะทาง 320 กิโลเมตร (ใช้เวลาประมาณ 7-8 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจร) สมัยอดีตยังไม่มีเมืองบิคาเนอร์ บริเวณนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Mawar Land of the Dead พ่อค้าตามเส้นทางสายไหม ยังต้องใช้ผ่านไปมา จึงมีโจรหลายก๊ก ยึดครองพื้นที่หย่อมเล็ก และยังไม่มีใครครอบครองดินแดนแห่งนี้ เจ้าชาย Rao Bika แห่งแคว้นโยธปุระ (จ๊อดปูร์) เกิดความน้อยใจในคำพูดพระบิดา จึงตัดสินใจมุ่งหน้าเดินทางก่อนลงหลักปักฐานต่อสู้กับพวกโจร นำความร่มเย็นเข้ามาสู่ดินแดนแห่งความตาย จนชาวบ้านท้องถิ่นเข้าร่วมในการต่อสู้กับพวกโจร จนท้ายสุดเมืองบิคาเนอร์ถูกตั้งขึ้น จากนั้นเดินทางต่อไปยังเมืองบิคาเนอร์
- เที่ยง เดินทางถึง เมืองบิคาเนอร์ นำท่านเข้าสู่ที่พัก และรับประทานอาหารกลางวัน
- นำท่านชม วิหารคาร์นีมาทา (Karni mata Temple) สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 15 สร้างเพื่ออุทิศ ให้แด่หนูที่มีความเชื่อ ว่าเป็นเหล่าลูกหลานของเทพธิดา Karni mata ที่เป็นร่างอวตารของเทพธิดา Durga (เทพธิดาแห่งพลัง และชัยชนะ) ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนาฮินดู ที่ผู้ศรัทธาจะนำนม อาหารดีๆ มามอบให้แด่หนูเหล่านี้ แต่สำหรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ หลายคนไม่กล้าเข้าสู่วิหารนี้ เพราะกลัวหนู ได้เวลาสมควรเดินทางกลับเข้าสู่ที่พัก
- ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารโรงแรม
- พักที่ LALLGARH HOTEL ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
Day 5 : เมืองบิคาเนอร์–ป้อมจูนนาการ์-เมืองจัยแซลเมียร์
- เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
- จากนั้นนำท่านชม ป้อมสีแดงแห่งเมืองบิคาเนอร์ หรือ ป้อมจูนนาการ์ (Junagarh Fort) วังมหาราชาที่อยู่ในสภาพดีสุดแห่งหนึ่งในราชาสถาน สร้างขึ้นใน ค.ศ. 1588 ถูกสร้างขึ้นโดยราชปุต Rao Bika ด้วยการต่อสู้กับชนพื้นเมือง จนสามารถตั้งถิ่นฐานแม้ผ่านการรุกรานจากมหาโมกุลหลายครั้ง แต่ทะเลทรายที่อยู่รอบด้าน รวมทั้งความกล้าหาญของนักรบ ช่วยให้เมืองอยู่รอดเสมอมา ภายในป้อมใหญ่ แบ่งเป็นหลายส่วน เช่น Chandra Mahal, Phool Mahal, Karan Mahal และ Anoop Mahal จากนั้นชม พิพิธภัณฑ์ Ganga Golden Jubilee พิพิธภัณฑ์ประจำเมืองเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1937 ภายในมีผลงานศิลปะ เครื่องปั้นดินเผาจากสมัยคุปตะ เครื่องดนตรี ภาพวาด เครื่องแต่งกายของราชวงศ์ พรมอันประณีต ที่สะท้อนให้เห็นถึงมรดกและประเพณีอันยาวนานของราชสถาน
- เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร/โรงแรม
- จากนั้นเดินทางสู่ เมืองจัยแซลเมียร์ (JAISALMER) ระยะทาง 300 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมง จัยแซลเมียร์ คือเมืองที่ได้รับสมญานามว่า “นครสีทอง” ตั้งอยู่บนที่ราบสูง กลางที่ราบทะเลทรายธาร์ มีกำแพงสูงใหญ่ดูโอฬาร เป็นเมืองท่องเที่ยวที่อยู่ทางตะวันตกสุดของแคว้นราชาสถาน ในอดีตเคยเป็นเส้นทางการค้าที่ สำคัญระหว่างอินเดียกับตะวันออกกลาง นครแห่งนี้ก่อสร้างขึ้นจากหินทรายสีเหลืองเป็นส่วนใหญ่ เมื่อยามต้องแสงอาทิตย์อัสดงที่ไล้ลงบนพื้นผิวของหินเหล่านี้ ก็จะปรากฏให้เห็นเป็นสีทองอร่ามตา และนี่คือที่มาของสมญา “นครสีทอง” ด้วยเหตุที่จัยแซลเมียร์เคยเป็นเส้นทางการค้าที่สำคัญ ส่งผลให้พ่อค้าวาณิชย์ในตระกูลดังๆ หลายๆคนร่ำรวยกันอย่างมหาศาล กลายเป็นอภิมหาเศรษฐี มีคฤหาสน์ที่ใหญ่โตมโหฬาร
- ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
- พักที่ RANGMAHAL HOTEL ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
Day 6 : เมืองจัยแซลเมียร์-ชมทะเลสาบกาดซิซาร์-ขี่อูฐทะเลทรายทาร์
- เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
- จากนั้นชม ป้อมจัยแซลเมียร์ (Jaisalmer Fort) ป้อมปราการขนาดใหญ่ที่อยู่ท่ามกลางทะเลสาบ สร้างโดย Bhatti Rajput rule Rawal Jaisal ค.ศ. 1156 บนเขาทิตรีกูฏ โดยป้อมนี้ถือว่าเป็นป้อมที่สร้างลำดับที่ 2 ของรัฐราชสถาน ชมความสวยงามของปราสาททรายที่ตั้งตระหง่านท่ามกลางทะเลทราย ภายในป้อมมีบ้านพักของชาวบ้านที่พำนักอยู่อาศัยมานานนับร้อยปี ท่านจะได้เห็นทัศนียภาพของเมืองจัยแซลเมียร์โดยรอบ
- นำท่านชม คฤหาสน์ของเสนาบดี หลังแรกคือ Nathmal Ji Ki Haveli สูง 5 ชั้น ที่สร้างราว ค.ศ.ที่ 19 โดย Lalu และ Hathi 2 พี่น้องศิลปินและสถาปนิกเอก ที่สร้างอย่างวิจิตรบรรจง ด้วยการฉลุลายผนังอย่างละเอียดอ่อน และอีกหลังคือ Patwon ki Haveli ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองจัยแซลเมียร์ ซึ่งภายในจะจัดแสดงสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ
- เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร/โรงแรม
- นำท่าน ชมทะเลสาบกาดซิซาร์ (Gadsisar Lake) โอเอซิสขนาดมหึมาท่ามกลางทะเลที่สร้างโดยมหาราชาวาลกาดซี ในราว ค.ศ.ที่ 14 ซึ่งทะเลสาบแห่งนี้เป็นแหล่งน้ำที่สำคัญของเมืองจัยแซลเมียร์ รอบๆทะเลสาบมีวัดเล็กๆ ในช่วงฤดูหนาวจะได้พบเห็นนกนานาชนิดโดยรอบบริเวณทะเลสาบ
- จากนั้น นำท่าน ขี่อูฐสู่ทะเลทรายทาร์ ชม Sam Sand Dunes ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองออกไปราว 45 กิโลเมตร เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังใน จัยแซลเมียร์ เนินทรายแห่งนี้เป็นที่ซึ่งโค้งขอบฟ้าจรดกับผืนแผ่นทรายได้อย่างงดงามเกินคำบรรยาย
- ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารโรงแรม
- พักที่ RANGMAHAL HOTEL ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
Day 7 : เมืองจัยแซลเมียร์-ป้อมเมห์รานกาห์-เมืองจ๊อดปูร์
- เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
- จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ เมืองจ๊อดปูร์ (JODHPUR) ในเวลาประมาณ 6 ชั่วโมง เมืองโรแมนติกแห่ง นครสีฟ้า “จ๊อดปูร์” หรือเมืองโยธะปุระ นครแห่งนักรบ ที่ทั่วทั้งเมืองเป็นสีฟ้าราวกับน้ำทะเล เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองในแคว้นราชาสถาน ถูกตั้งขึ้นเป็นราชธานี โดย Rao Jodha แห่งราชวงศ์ Rathor
- เดินทางมาถึงเมือง “จ๊อดปูร์” จากนั้นนำท่านเช็คอินเข้าสู่ที่พัก เตรียมทานอาหาร
- เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร/โรงแรม
- นำท่าน ชมป้อมเมห์รานกาห์ (Mehrangarh Fort) เป็น 1 ใน 4 พระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในอินเดีย ป้อมปราการที่ยาวเหยียดข้ามเขาถึง 125 ลูก ภายในมีพระราชวังที่สวยงามและใหญ่ที่สุด และเป็นจุดชมวิวเมืองสีฟ้าที่ดีที่สุด ไม่มีป้อมปราการแห่งไหนในราชาสถานเด่นหง่าเทียบเท่า Mehrangarh Fort ไม่ว่าจะมองจากจุดไหนๆ ของเมืองจ๊อดปูร์ มหาปราการหินถูกสร้างบนเนินเขาสูง 122 เมตร ใน ค.ศ.1459 เมื่อฤาษีท่านหนึ่งบอกแก่มหาราชาจ๊อดธะ (Jodha) พระองค์ควรสร้างเมืองขึ้นที่นี่
จ๊อดปูร์ เป็นศูนย์กลางอาณาจักรใหญ่แต่ครั้งโบราณ ป้อมจึงถูกเสริมเติมแต่งจนมีขนาดใหญ่มหึมา ป้อมเมห์รันกาห์นี้ภายในตกแต่งประดับประดาด้วยแก้วหลากสี แบ่งเป็นห้องหรือท้องพระโรงขนาดใหญ่อีกหลายแห่ง อาทิ ตำหนัก Moti Mahal, Sheesh Mahal, Phool Mahal - นำท่านชม วัด Chamunda Mataji จากนั้นห่างจาก Mehrangarh Fort ไปประมาณ 1 กิโลเมตร ท่านจะได้ชมสิ่งปลูกสร้างสะอาดตา “Jaswant Thada” ก่อสร้างด้วยหินอ่อนทั้งหลัง และเป็นที่ฝังศพของมหาราชา Jaswant Singh ที่สองและสมาชิกคนอื่นๆ ในราชวงศ์
- ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารโรงแรม
- พักที่ RANBANKA HOTEL ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
Day 8 : เมืองจ๊อดปูร์-เมืองเมาท์อาบู-กลุ่มวัดเชนดิลวารา
- เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
- นำท่านเดินทางสู่ เมาท์อาบู (MOUNT ABU) ระยะทาง 336 กิโลเมตร หรือเรียกว่า ภูเขาราชาเทวะ มีความสูงประมาณ 1,250 เมตร จากระดับน้ำทะเลจึงทำให้อากาศเย็นสบายทั้งปี เป็นเมืองพักผ่อน เนื่องจากแคว้นราชาสถานเป็นเขตทะเลทรายเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ผู้คนหนีร้อนมาพักผ่อนที่นี่ และยังเป็นที่นิยมของคู่ฮันนีมูน เมาท์อาบูยังเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์และยังเป็นที่แสวงบุญของผู้ที่นับถือศาสนาเชน..เดินทางมาถึง “เมาท์อาบู” จากนั้นนำท่านเช็คอินเข้าสู่โรงแรมที่พัก
- เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร/โรงแรม
- นำท่านชม กลุ่มวัดเชนดิลวารา (Dilwara Jain Temples) ที่สลักเสลาด้วยหินอ่อนอย่างวิจิตรบรรจง ซึ่งมีจำนวน 5 วัด ตั้งอยู่บนทิวเขานอกเมือง ชม วัดวิมาลวาสาหิ (Vimal Vasahi) และวัด Tejpal ฯลฯ
- ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารโรงแรม
- พักที่ CAMA RAJPUTANA HOTEL ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
Day 9 : เมืองเมาท์อาบู-ชมวิหารเชน-เมืองรานัคปูร์-เมืองอุไดปูร์
- เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารโรงแรม
- จากนั้นเดินทางสู่ เมืองรานัคปูร์ (RANAKPUR) นำท่าน ชมวิหารเชน (Ranakpur Jain Temple) เป็นวิหารของศาสนาเชน สร้างโดยคหบดี Dharna Sah เมื่อเกือบ 500 ปีก่อน ภายในประกอบด้วยห้องโถงกว่า 24 ห้อง โดมทั้งหมด 80 โดม และเสาถึง 1,144 ต้น เสาแต่ละต้นจะถูกแกะสลักอย่างงดงามมาก คิดเป็นพื้นที่แกะสลักกว่า 3,000 ตารางเมตร ทั้งหมดถูกเก็บรักษาไว้อย่างดีเยี่ยม เมื่อสร้างวัดนี้จำเป็นต้องสร้างเมืองขึ้นมาเพื่อเป็นที่อาศัยของคนงานนับหมื่น และเป็นสถานที่ ที่สำคัญแห่งหนึ่งซึ่งผู้คนเดินทางมาเพื่อแสวงบุญ ทั้งยังเป็นที่ที่ใหญ่ที่สุดและมีความสำคัญมากสำหรับผู้นับถือศาสนาเชน เมืองดังกล่าวตั้งชื่อว่า “รานัคปูร์” เพื่อเป็นเกียรติแด่มหารานา แห่งราชาอาณาจักร ผู้อนุญาตให้สร้างวัด
- เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร/โรงแรม
- จากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองอุไดร์ปูร์ (UDAIPUR) ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของแคว้นราชาสถาน และตั้งอยู่ริมทะเลสาบฟิโชล่า เป็นราชธานีแห่งที่สองของอาณาจักร Mewar อุไดปูร์เป็นเมืองที่ขึ้นชื่อด้านความโรแมนติกและเพียบพร้อม ไปด้วยความงามของทะเลสาบ พระราชวังและน้ำพุที่สวยงาม
- ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารโรงแรม
- พักที่ RADISSON BLU HOTEL ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
Day 10 : เมืองอุไดปูร์-ซิตี้ พาเลช-ฟาเตห์ ประกาห์ พาเลช-ล่องเรือทะเลสาบพิโคลา
- เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
- จากนั้นนำท่าน ชมซิตี้ พาเลช (Udaipur City Palace) หรือพระราชวังฤดูหนาว ซึ่งส่วนหนึ่งมีการดัดแปลงกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชม พระราชวังแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยหินแกรนิตและหินอ่อน ภายในประดับประดาด้วยกระจกและแก้วหลากสี นับเป็นพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในแคว้นราชาสถาน ปัจจุบันบางส่วนยังคงเป็นที่ประทับของราชตระกูล และมีการจัดแสดงวัตถุโบราณที่มีค่ามากมายให้ผู้คนเข้าชม
- นำท่าน ชมภายนอก ของ ฟาเตห์ ประกาห์ พาเลช (Fateh Prakash Palace) ซึ่งมหาราชาองค์หนึ่งอยากได้เฟอร์นิเจอร์คริสตัลมาประดับวัง แต่ไม่ชอบเครื่องเรือนสไตล์ยุโรป จึงบัญชาให้กรมช่างในราชอาณาจักรทำเครื่องเรือนต้นแบบจากไม้ แกะสลักลวดลายสวยงามก่อนส่งไปยังอังกฤษเพื่อให้บริษัทคริสตัลทำเฟอร์นิเจอร์ตามแบบนั้น จากนั้นจึงค่อยส่งกลับมาประดับไว้ที่วังแห่งนี้
- เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
- นำท่าน ล่องเรือในทะเลสาบพิโคลา (Lake Pichola Cruise) ชมทิวทัศน์รอบทะเลสาบในยามเย็น ทะเลสาบนี้มีความกว้าง 3 กม. ยาว 4 กม. มีเกาะอยู่ 2 เกาะคือ Jag Niwas และ Jag Mandir เกาะ Jag Niwas เป็นที่ตั้งของ The Lake Palace สร้างโดย Maharana Jagat Singh ll เมื่อปี 1743 เพื่อใช้เป็นพระราชวังฤดูร้อน แต่ปัจจุบันกลายเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาวไปเรียบร้อยแล้ว ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณคืนละ 15,000 บาท ไปจนถึง 200,000 กว่าบาท
- ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารโรงแรม
- พักที่ RADISSON BLU HOTEL ระดับ 5 ดาว หรือเทียบเท่า
Day 11 : เมืองอุไดปูร์-วัดจักดิศ-Saheliyon Ki Bari-เมืองเดลี
- เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
- นำท่านชม วัดจักดิศ (Jagdish Temple) เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดในเมืองอุไดปูร์ และเป็นที่เคารพสักการะสำหรับชาวเมืองอุไดปูร์เป็นอย่างยิ่ง สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1651 จากนั้นอิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งของที่ระลึกตามอัธยาศัย
- จากนั้น เดินทางสู่สวน Saheliyon Ki Bari ถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 18 โดยมหารานาซันแกรมซิงห์ที่ 2 (Maharana Sangram Singh ll) เพื่อให้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของเชื้อพระวงศ์ฝ่ายหญิงในช่วงฤดูร้อน ภายในสวนตบแต่งไปด้วยต้นไม้หลากหลายนานาชนิดพันธุ์ โดดเด่นด้วยน้ำพุที่สร้างความเย็นฉ่ำให้บริเวณข้างเคียง ชมความงามของสระบัวที่กว้างใหญ่ บริเวณภายในสวนยังมีห้องนั่งเล่นที่ประดับประดาไปด้วยแก้วและหินสีงดงามมาก
- เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
- จากนั้น นำท่านเดินทางต่อไปยังสนามบินฯ เพื่อขึ้นเครื่องไปเมืองเดลี
- 15.10 น. “เหิรฟ้าสู่เมืองเดลี” โดยสายการบินแอร์อินเดีย เที่ยวบินที่ AI-472
- 16.25 น. เดินทางถึงสนามบินในเมืองเดลี ประเทศอินเดีย
- 18.00 น. รับประทานอาหารคํ่า ณ ภัตตาคาร Eco Thai
จากนั้น นำท่านเดินทางสู่สนามบินฯ เพื่อทำการตรวจเอกสารในการเดินทาง
- 00.20 น. “เหิรฟ้ากลับสู่กรุงเทพฯ” โดยสายการบินไทยแอร์เวย์ เที่ยวบินที่ TG-316
<strong>Day 12 : เมืองเดลี-กรุงเทพฯ /สุวรรณภูมิ</strong>
- 05.45 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิ์ภาพ
Go Together Travel เราชำนาญเรื่องเที่ยวมามากกว่า 15 ปี
รับจัดทัวร์กรุ๊ปส่วนตัวในแบบและเส้นทางที่คุณต้องการ
http://www.gotogethertravel.com/

ดินแดนมหาราชา..ราชาสถาน 12 วัน 10 คืน
DEPARTURE/RETURN LOCATION | สนามบินสุวรรณภูมิ (ฺBKK) | |||||||||
DEPARTURE TIME | โปรดเดินทางมาถึงอย่างน้อย 2 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง | |||||||||
INCLUDED |
|
|||||||||
NOT INCLUDED |
|
|||||||||
การชำระเงิน | งวดที่ 1 : หากท่านสนใจและประสงค์จะเดินทาง กรุณาจองทัวร์และชำระเงินมัดจำล่วงหน้า 40,000 บาท/ท่าน (เพื่อเป็นการยืนยันการเดินทางของท่าน) งวดที่ 2 : กรุณาชำระค่าทัวร์ส่วนที่เหลือล่วงหน้า 45 วัน ก่อนการเดินทาง หากท่านไม่ชำระเงินส่วนที่เหลือตามวันที่กำหนด ทางบริษัทฯ ถือว่าท่านยกเลิกการเดินทางโดยไม่มีเงื่อนไข ![]() |
|||||||||
การยกเลิก และการเปลี่ยนแปลง |
|
|||||||||
ข้อมูลเกี่ยวกับวีซ่า |
หมายเหตุ : บริษัทฯจะทำ E-Visa ซึ่งผู้เดินทางไม่ต้องโชว์ตัวที่สถานทูตฯ แต่ต้องไปทำการสแกนนิ้วมือที่ ตม. ของอินเดียค่ะ |
|||||||||
เงื่อนไขอื่นๆ |
บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการเดินทาง ในกรณีที่มีผู้เดินทาง ต่ำกว่า 15 ท่าน โดยจะแจ้งให้ผู้เดินทางทราบล่วงหน้า อย่างน้อย 20 วัน ก่อนการเดินทาง บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการเดินทาง ในกรณีที่มีผู้เดินทาง ต่ำกว่า 15 ท่าน โดยจะแจ้งให้ผู้เดินทางทราบล่วงหน้า อย่างน้อย 20 วัน ก่อนการเดินทาง บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์การเปลี่ยนแปลงโปรแกรม ราคา และเงื่อนไขทั้งหมดโดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า บริษัทฯ มีสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายละเอียดบางประการในทัวร์นี้ เมื่อเกิดเหตุสุดวิสัยจนไม่อาจแก้ไขได้ บริษัทฯ มีสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงการพาเข้าชม สถานที่ท่องเที่ยวใดๆที่ปิดทำการ โดยจะจัดหาสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆเพื่อทดแทนเป็นลำดับแรก หรือคืนค่าเข้าชมแก่ผู้เดินทางแทน รายการอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม เนื่องจากความล่าช้าของสายการบิน โรงแรมที่พักในต่างประเทศ เหตุการณ์ทางการเมือง และภัยธรรมชาติ ฯลฯ ที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของทางบริษัทฯ หรือ ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่เกิดขึ้นทางตรง หรือทางอ้อม เช่น การเจ็บป่วย การถูกทำร้าย การสูญหาย ความล่าช้า หรือ จากอุบัติเหตุต่างๆ ทั้งนี้ บริษัทฯ จะคำนึงถึงความปลอดภัยและความสะดวกของผู้เดินทางเป็นสำคัญ บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบในกรณีที่กองตรวจคนเข้าเมือง ห้ามผู้เดินทางเข้าหรือออกนอกประเทศ เนื่องจากมีสิ่งผิดกฎหมาย หรือสิ่งของห้ามนำเข้าประเทศ เอกสารเดินทางไม่ถูกต้อง หรือ ความประพฤติส่อไปในทางเสื่อมเสีย หรือด้วยเหตุผลใด ๆ ก็ตามที่กองตรวจคนเข้าเมืองพิจารณาแล้ว ทางบริษัทฯ ไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่าย รายการนี้เป็นเพียงข้อเสนอที่ต้องได้รับการยืนยันจากบริษัทฯอีกครั้งหนึ่ง หลังจากได้สำรองที่นั่งบนเครื่อง และโรงแรมที่พักในต่างประเทศเป็นที่เรียบร้อย แต่อย่างไรก็ตามรายการนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม การไม่รับประทานอาหารบางมื้อไม่เที่ยวตามรายการ ไม่สามารถขอหักค่าบริการคืนได้ เพราะการชำระค่าทัวร์เป็นไปในลักษณะเหมาจ่าย ในกรณีที่ท่านจะใช้หนังสือเดินทางราชการ (เล่มสีน้ำเงิน) / หนังสือเดินทางนักการทูต (เล่มสีแดง) เดินทางกับคณะ บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบ หากท่านถูกปฏิเสธการเข้าหรือออกนอกประเทศใดประเทศหนึ่ง เพราะโดยปกตินักท่องเที่ยวใช้หนังสือเดินทางบุคคลธรรมดา (เล่มสีเลือดหมู)กรณีเดินทางโดยลูกค้าจัดการตั๋วเครื่องบินเอง ในกรณีลูกค้าดำเนินการเรื่องตั๋วเครื่องบินเองและมาเที่ยวรวมกับคณะ (Join Tour) ลูกค้าต้องดำเนินการมาพบคณะทัวร์ด้วยตัวเอง และต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการมาพบคณะใหญ่ด้วยตัวเอง รวมถึงหากกรณีเที่ยวบินของคณะใหญ่เกิดความล่าช้าหรือยกเลิกเที่ยวบินอันด้วยสาเหตุใดๆก็ตามตั๋วเครื่องบิน ในการเดินทางเป็นหมู่คณะผู้โดยสารจะต้องเดินทางไป-กลับ หากท่านต้องการเลื่อนวันเดินทางกลับ ท่านจะต้องชำระ ค่าใช้จ่ายส่วนต่างที่สายการบินเรียกเก็บโดยสายการบิน เป็นผู้กำหนด ซึ่งทางบริษัทฯ ไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ และในกรณีที่ยกเลิกการเดินทาง ถ้าทางบริษัทได้ออกตั๋วเครื่องบินไปแล้ว ผู้เดินทางต้องรอ Refund ตามระบบของสายการบินเท่านั้น (ในกรณีที่ตั๋วเครื่องบินสามารถทำการ Refund ได้เท่านั้น) ท่านที่จะออกตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ โปรดแจ้งฝ่ายขายก่อนเพื่อขอคำยืนยันว่าทัวร์นั้นๆ ยืนยันการเดินทาง แน่นอน หากท่านออกตั๋วภายในประเทศโดยไม่ได้รับการยืนยันจากพนักงาน แล้วทัวร์นั้นยกเลิก บริษัทฯไม่สามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายใดๆที่เกี่ยวข้องกับตั๋วเครื่องบินภายในประเทศได้ หากในกรณีที่สายการบินมีการปรับเปลี่ยนตารางเที่ยวบิน ซึ่งอยู่นอกเหนือจากการควบคุมทางบริษัทจะไม่รับผิดชอบต่อค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสั้น เมื่อท่านจองทัวร์และชำระมัดจำแล้ว หมายถึงท่านยอมรับในข้อความและเงื่อนไขที่บริษัทฯแจ้งแล้วข้างต้นโรงแรมและห้อง ห้องพักในโรงแรมเป็นแบบห้องพักคู่ ( TWN/DBL ) ในกรณีที่ท่านมีความประสงค์จะพักแบบ 3 ท่าน / 3 เตียง ( TRIPLE ROOM ) ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของห้องพักและรูปแบบของห้องพักของแต่ละโรงแรม ซึ่งมักมีความแตกต่างกัน ซึ่งอาจจะทำให้ท่านไม่ได้ห้องพักติดกันตามที่ต้องการ หรือ อาจไม่สามารถจัดห้องที่พักแบบ 3 เตียงได้ โรงแรมหลายแห่งในยุโรป จะไม่มีเครื่องปรับอากาศเนื่องจากอยู่ในแถบที่มีอุณหภมิต่ำ เครื่องปรับอากาศที่มีจะให้บริการในช่วงฤดูร้อนเท่านั้น ในกรณีที่มีการจัดประชุมนานาชาติ ( TRADE FAIR ) เป็นผลให้ค่าโรงแรมสูงขึ้น 3-4 เท่าตัว บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนหรือย้ายเมืองเพื่อให้เกิดความเหมาะสมกระเป๋าเล็กถือติดตัวขึ้นเครื่องบิน กรุณางดนำของมีคม ทุกชนิด ใส่ในกระเป๋าใบเล็กที่จะถือขึ้นเครื่องบิน เช่น มีดพับ กรรไกรตัดเล็บทุกขนาด ตะไบเล็บ เป็นต้น กรุณาใส่ในกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ห้ามนำติดตัวขึ้นบนเครื่องบินโดยเด็ดขาด วัตถุที่เป็นลักษณะของเหลว อาทิ ครีม โลชั่น น้ำหอม ยาสีฟัน เจล สเปรย์ และเหล้า เป็นต้น จะถูกทำการตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยจะอนุญาตให้ถือขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 10 ชิ้น ในบรรจุภัณฑ์ละไม่เกิน 100 ml. แล้วใส่รวมเป็นที่เดียวกันในถุงใสพร้อมที่จะสำแดงต่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตามมาตรการองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ( ICAO ) หากท่านซื้อสินค้าปลอดภาษีจากสนามบิน จะต้องปิดผนึกถุงโดยระบุ วันเดินทาง เที่ยวบิน จึงสามารถนำขึ้นเครื่องได้ และห้ามมีร่องรอยการเปิดปากถุงโดยเด็ดขาดการชดเชยค่ากระเป๋าในการสูญหาย ของมีค่าทุกชนิด ขอแนะนำไม่ควรใส่เข้าไปในกระเป๋าใบใหญ่ที่เช็คไปกับเครื่อง เพราะหากเกิดการสูญหาย สายการบินจะรับผิดชอบชดใช้ตามกฎไออาต้าเท่านั้น ซึ่งจะชดใช้ให้ประมาณ กิโลกรัมละ 20 USD คูณด้วยน้ำหนักกระเป๋าจริง ทั้งนี้จะชดเชยไม่เกิน USD 400 กรณีเดินทางชั้นธรรมดา (Economy) หรือ USD 600 กรณีเดินทางชั้นธุรกิจ (Business) ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้โหลดของมีค่าทุกประเภทลงกระเป๋าใบใหญ่ กรณีกระเป๋าใบเล็ก (Hand Carry) เกิดการสูญหาย บริษัทฯ ไม่สามารถรับผิดชอบชดเชยค่าเสียหายให้ท่านได้ ดังนั้นท่านต้องระวังทรัพย์สินส่วนตัวของท่าน บริษัทขอสงวนสิทธิ์ที่จะรับผิดชอบในกรณีกระเป๋าเดินทางของท่านเกิดความชำรุด หรือสูญหาย ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น ในระหว่างการเดินทางการเดินทางเป็นครอบครัว หากท่านเดินทางเป็นครอบครัวใหญ่ หรือเดินทางพร้อมสมาชิกในครอบครัว ที่ต้องได้รับการดูแลพิเศษ (Wheelchair), เด็ก, และผู้สูงอายุ มีโรคประจำตัว ไม่สะดวกเดินท่องเที่ยวในระยะเวลาเกินกว่า 4-5 ชั่วโมงติดต่อกัน ม่านและครอบครัวต้องให้การดูแลสมาชิกภายในครอบครัวของท่านเอง เนื่องจากการเดินทางเป็นหมู่คณะ หัวหน้าทัวร์มีความจำเป็นต้องดูแลคณะทัวร์ทั้งหมดหลังจากการจองทัวร์และชำระเงินมัดจำแล้ว ทางบริษัทฯ ถือว่าท่านได้ยอมรับในข้อตกลงและเงื่อนไขที่บริษัทได้ระบุไว้ข้างต้นทุกประการ |