
ทัวร์สิกขิม การ์จีริ่ง ทัวร์อินเดียพรีเมทียม สิกขิม แผ่นดินในอ้อมกอดหิมาลัย เส้นทางสายธรรมชาติที่สวยงามที่สุดของอินเดีย จนได้รับการยกย่องจากนักท่องเที่ยวว่าเป็นสวิสเซอร์แลนด์แห่งเอเชีย กับวิวทิวทัศน์ของภูเขาหิมะและทุ่งดอกไม้ เยือนเมืองดาร์จีลิ่ง ราชินีแห่งขุนเขาสถานที่ตากอากาศที่โด่งดัง
- พักโรมแรมระดับมาตรฐาน 4 – 5 ดาว
- เมืองดาร์จีลิ่ง ราชินีแห่งของขุนเขา เมืองพักตากอากาศที่อากาศสดชื่นตลอดทั้งปี แหล่งผลิตชาที่ดีที่สุดในโลก
- ไทเกอร์ฮิล (Tiger Hill) ชมความงามของพระอาทิตย์ที่โผล่พ้นเหนือเทือกเขาหิมาลัยที่สูงเสียดฟ้า ซึ่งสูงเป็นอันดับ 3 ของโลก
- วัดกูม (Ghoom Monastery) วัดในพุทธศาสนานิกายมหายาน ตันตระ – วัชระแบบทิเบต ที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของดาร์จีลิ่ง
- นั่งรถไฟ TOY TRAIN รถไฟหัวรถจักรไอน้ำขนาดเล็ก ที่วิ่งบนภูเขาสูงจนได้ได้รับให้เป็นมรดกโลก
- ทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์ฉางโก
- หุบเขายุมถัง (Yumthang Valley)“หุบเขาแห่งดอกไม้” สวิสเซอร์แลนด์แห่งสิกขิม เทือกเขาหิมาลัย
- ชมแสงอาทิตย์ที่ทอแสงผ่านสายหมอกที่พาดพันขุนเขาสูง ที่ภูเขาหิมะ ณ ซีโร่พอยท์ (Zero Point)
- ช้อปปิ้งถนนมหาตมคานธี มาร์ก และตลาดจันปาท
<strong>Day 1: กรุงเทพฯ – เดลี</strong>
- 06.00 น. คณะพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตูทางเข้าที่ 10 แถว W เคาน์เตอร์สายการบิน Air India เจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยให้การต้อนรับ
- 08.50 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเดลี ประเทศอินเดีย โดยสายการบิน Air India เที่ยวบินที่ AI 335 (ใช้เวลาบินประมาณ 4 ชม.) รับประทานอาหารและพักผ่อนบนเครื่องบิน
- 12.05 น. ถึงท่าอากาศยานอินทิรา คานธี ประเทศอินเดีย (เวลาท้องถิ่นประเทศอินเดีย ช้ากว่าประเทศไทย 1.30 ชั่วโมง) นำท่านผ่านขั้นตอนตรวจคนเข้าเมือง
- รับประทานอาหารกลางวัน ที่ ภัตตาคาร
- เข้าชม กุตุบมีนาร์(Qutb Minar) เป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงนิวเดลี ได้รับสถานะมรดกโลกเมื่อ พ.ศ. 2536 เป็นหอสูงที่สร้างด้วยหินทรายแดง (เช่นเดียวกับสุสานหุมายูน) และหินอ่อนเป็นทรงเสาสูงปลายฐานกว้าง 14 เมตรเศษ ส่วนชั้นบนสุดยอดกว้าง 2.7 เมตร มีความสูง 72.5 เมตร (ประมาณตึกสูง 20 ชั้น)
- จากนั้นนำท่านไปยัง Tughlakabad อดีตเมืองหลวงเก่า ที่มีประวัติศาสตร์นองเลือด สถานที่ที่เคยเกิดเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างฝั่ง Khurso Khan และฝั่ง Ghyasuddin Tughlukshah ที่ขึ้นสู่อำนาจโดยการตัดหัว Khurso Khanเพื่อต่อต้านการยึดครองชาวมองโกลที่บุกรุก
- ผ่านชม เมืองเดลีใหม่ มีความใหม่ตามวัฒนธรรมอังกฤษ เมืองหลวงของประเทศอินเดีย ชมศิลปะการก่อสร้างเมืองที่อังกฤษได้สร้างและมีการวางผังเมืองที่ทันสมัย และสวยงามตามวัฒนธรรมของอังกฤษและติดอันดับหนึ่งในนครหลวงของโลก ผ่านชม ประตูชัยอินเดีย หรือ “India Gate” หรือประตูเมืองอินเดีย เป็นสิ่งก่อสร้างมีลักษณะคล้ายคลึง L’ Arc de Triomphe ของฝรั่งเศส มีความมุ่งหมายให้เป็นอนุสรณ์แก่ทหารที่พลีชีพในสงครามครั้งสาคัญๆของอินเดีย ผ่านชม ตึกที่ทาการของคณะรัฐบาลราษฎร์ปติภวัน
- รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารในโรงแรม
- ตลาดข่าน (Khan Market) อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้า ของฝากที่ระลึก จนกระทั่งได้เวลาอันสมควรนำท่านเข้าโรงแรมที่พัก ให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย
- พักที่ THE PRIDE HOTEL โรงแรมมาตรฐาน 5 ดาว หรือเทียบเท่า
<strong>Day 2 :</strong> <strong>เดลี – บักโดรา – ดาร์จีลิ่ง</strong>
- เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
- นำท่านออกเดินทางไปสนามบิน เพื่อขึ้นเครื่องไปเมืองบักโดรา
- 11.20 น. ออกเดินทางสู่เมืองบักโดรา โดยสายการบิน Air India เที่ยวบินที่ AI 879
- 13.15 น. ถึงสนามบินบักโดกรา เมืองสิริกุรี เมืองสิริกูรี เป็นเมืองชุมทางใหญ่บนที่ราบสุดท้ายบนชายเทือกเขาหิมาลัย สนามบินที่ ใกล้ที่สุด เพราะแคว้นสิกขิมไม่มีที่ราบ
- จากนั้น นำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองดาร์จีลิ่ง (Darjeeling) ระยะทาง 93 กม. ใช้เวลาประมาณ 4 ชม.
“เมืองดาร์จีลิ่ง” (Darjeeling) มีชื่อเสียงรู้ในชื่อ “ราชินีแห่งของภูเขา” เมืองทั้งเมืองตั้งอยู่บนภูเขา โดยโอบล้อมด้วยไร่ชา ภูเขาหิมะและทัศนียภาพ เป็นสถานที่ตากอากาศอันมีชื่อเสียงของอินเดีย ตั้งแต่ครั้นสมัยที่อินเดียตกอยู่ภายใต้อาณานิคมของอังกฤษ อังกฤษใช้กัลกัตต้าเป็นเมืองศูนย์กลางการปกครอง แต่คนอังกฤษทนร้อนไม่ค่อยได้จึงได้มาสร้างเมืองขึ้นบนเทือกเขาหิมาลัยเพื่อขึ้นมารับลมเย็นบนระดับความสูงราว 2,135 ม. เดิมดาร์จีลิ่งเป็นส่วนหนึ่งของรัฐสิกขิม แต่กษัตริย์แห่งสิกขิมได้มอบดาร์จีลิ่งให้กับอังกฤษเพื่อเป็นการตอบแทนที่อังกฤษได้ช่วยทำสงครามยึดเอาดินแดนบางส่วนคืนมาจากเนปาล กิตติศัพท์ที่โด่งดังระดับโลกอีกอย่างหนึ่งของดาร์จีลิ่งก็คือ ที่นี่เป็นแหล่งผลิต “ชา” ที่มีชื่อเสียง ซึ่งได้รับมติเป็นเอกฉันท์จากผู้เชี่ยวชาญด้านชาจากมุมโลกว่าชาดาร์จีลิ่งมีความโดดเด่นต่างจากชาที่อื่น
- ค่ำ รับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคารในโรงแรม
- พักที่ THE NEW ELGIN HOTEL โรงแรมมาตรฐาน 4 ดาว หรือเทียบเท่า
<strong>Day 3 : ดาร์จีลิ่ง – กังต๊อก</strong>
- 04.00 น. นำท่านเดินทางสู่ ไทเกอร์ฮิล (Tiger Hill) โดยรถปรับอากาศ โตโยต้า อินโนวา ระยะทางประมาณ 11 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที สัมผัสอากาศที่หนาวเย็นและบริสุทธิ์บนยอดเขา ชม “พระอาทิตย์ขึ้นที่ไทเกอร์ฮิล” ชมความงามของพระอาทิตย์ที่โผล่พ้นเหนือเทือกเขาหิมาลัยที่สูงเสียดฟ้า โดยเฉพาะยอดเขา “คันเช็นจุงก้า (Kanchenjunga) ที่สูง 8,598 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ซึ่งสูงเป็นอันดับ 3 ของโลก และสูงที่สุดในแถบเทือกเขาหิมาลัยในด้านอินเดีย (อันดับ 1 คือ ยอดเขาเอเวอร์เรสต์ ในเนปาล สูง 8,848 เมตร, อันดับ 2 คือ ยอดเขาเคทู ในปากีสถาน สูง 8,611 เมตร) ถ้าอากาศดีจะเห็นยอดเขาคันเช็นจุงก้า ซึ่งเป็นยอดเขาที่ชาวสิกขิมเชื่อกันว่า เป็นที่เก็บสมบัติล้ำค่าทั้งห้าแห่งยอดเขาหิมะ เป็นวิหารอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าระหว่างทางแวะชม วัดกูม (Ghoom Monastery) ซึ่งเป็นวัดในพุทธศาสนานิกายมหายาน ตันตระ – วัชระแบบทิเบต สังกัดฝ่ายเกลุค ที่มักเรียกว่า พระลามะหมวกเหลือง วัดนี้เป็นวัดโบราณที่เก่าแก่ที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของดาร์จีลิ่ง สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1850 โดยลามะ ชาร์ลาป ยัคโช แต่ได้รับการปรับปรุงซ่อมแซมใหม่ เพื่อบอกว่า “เมืองนี้เป็นศูนย์รวมของความแตกต่างทางความเชื่อหลากหลาย ทั้งพุทธ อิสลาม ฮินดู แม้กระทั่งคริสต์ก็ตาม” เมืองนี้จึงดูกลมกลืนงดงาม และมีเสน่ห์
- เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
- จากนั้น นำท่านไปนั่ง รถไฟ TOY TRAIN ได้รับการประกาศจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก รถไฟหัวรถจักรไอน้ำขนาดเล็ก เป็นรถไฟที่วิ่งบนภูเขาสูงจากระดับน้ำทะเล 7000 ฟุต รถไฟจะจอดให้ชม อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ บาตาเซียลูป เป็นอนุสาวรีย์ที่สร้างเพื่อเป็นเกียรติแก่เหล่าทหารกล้ากุรข่า สร้างเมื่อปี 1994 และ จอดให้ชมพิพิธภัณฑ์รถไฟ การนั่งรถไฟ TOY TRAINใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นนำท่านเดินทางไปชม ไร่ชา Happy Valley
- กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารของโรงแรม
- เข้าชม สถาบันการปีนเขาหิมาลัย ภายในพิพิธภัณฑ์ท่านจะได้ชมประวัติส่วนตัวและอุปกรณ์ต่างๆ ในการปีนเขา และชม สวนสัตว์ปมาจาร์ นัยดรู ที่นี่ท่านจะได้ชมสัตว์ที่อาศัยอยู่ในเขตพื้นที่สูงอาทิ ยัค หมีดำหิมาลัย หมีแพนด้า เสือไซบีเรีย นก เหยี่ยวและสัตว์อื่นๆอีกมากมาย
- ชม ศูนย์ศิลปาชีพชาวทิเบต ชมศิลปหัตถกรรม วิถีชีวิต ความเป็นอยู่ของชาวทิเบตที่อพยพเข้ามาอาศัยอยู่ในเมืองดาร์จีลิ่ง มีโรงเรียนทิเบตศึกษาแบบโรงเรียนกินนอนของเด็กกำพร้าฐานะยากจน เรียกชื่อว่า Darjeeling Tibetan Educational Center มีพระลามะเป็นครูใหญ่
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองกังต็อก เมืองหลวงของสิกขิม ความหมายว่า เนินสูงหรือยอดเขาสูง สูงเหนือระดับน้ำทะเล 1,780 เมตร (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง) ชมวิว 2 ข้างทาง
- ค่ำ รับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคารในโรงแรม
- พักที่ THE LEMON TREE HOTEL โรงแรมมาตรฐาน 4 ดาว หรือเทียบเท่า
<strong>Day 4 : กังต็อก-ทะเลสาบฌางโก-กังต็อก</strong>
- เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
- จากนั้นนำท่านเดินทางไป ทะเลสาบฌางโก (Tsomgo lake) โดยรถจี๊บ ห่างจากกังต็อก 35 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง ทะเลสาบแห่งนี้ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของสิกขิม นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ไม่ได้ถือสัญชาติอินเดียต้องขออนุญาตเป็นพิเศษ เป็นเส้นทางค้าขายโบราณ กั้นพรมแดนสิกขิม-ทิเบต และห่างจากกรุงลาซาประมาณ 500 กิโลเมตร ทะเลสาบฌางโก ความสูงประมาณ 3,774 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล มีรูปทรงสัณฐานเป็นวงรี ลึกประมาณ 15 เมตร เป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำ ลุงเฌ่ชู (Lungtze Chu) ไหลไปบรรจบกับแม่น้ำ รังโป (Rangpo) และถือกันว่าเป็นแหล่งต้นน้ำธรรมชาติที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดแห่งหนึ่ง ในสมัยอดีตพระลามะหลวงจะทำนายดวงชะตาเมืองจากการเพ่งกสิณ ณ ทะเลสาบแห่งนี้หากสีของน้ำปรากฎนิมิตรเป็นดำคล้ำก็หมายถึงลางบอกเหตุว่าปีนั้นอาณาจักรจะพบเภทภัย อิสระกับการขี่จามรี สัตว์ภูเขาที่ได้รับการแต่งตัวด้วยสีสันสดใสถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก จากนั้นนำท่านเดินทางกลับเมืองกังต็อก ให้ท่านแวะถ่ายรูปที่น้ำตกจากภูผาสูง บ้านเมืองเกาะตามไหล่เขาภูดอยสูงๆ ต่ำๆ สลับซับซ้อน มีหุบเขาที่พอทำการเกษตรให้เห็นได้บ้างเป็นแบบขั้นบันได บรรยากาศที่แปลกไม่เหมือนประเทศใดๆ
- แวะ ชมวิวที่ หนุมาน ต็อก เป็นวัดทางศาสนาฮินดู ภายในวัดประดิษฐานเทพเจ้าแห่งชัยชนะ ทหารเอกของพระรามในวรรณกรรมชิ้นเอกของโลกคือเรื่องรามเกียรต์ ชาวสิกขิมทุกคนจะมาขอพรทุกวันสำคัญที่วัดทั้งสองแห่งนี้เป็นประจำ อิ่มเอมกับการชมวิว แล้วจากนั้นเดินทางกลับสู่กังต็อก
- กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารของโรงแรม
- นำท่านชม วัดรุมเต็ก (Rumtek Monastery) เป็นวัดที่ได้รับการบูรณะสร้างขึ้นใหม่เมื่อทศวรรษที่ 1960 โดยสังฆนายกองค์ที่ 16 แห่งสายย่อย-การ์มา (Karma) ฝ่าย – ฆาจ์ยุ (Kagyu) ซึ่งลี้ภัยมาจากทิเบต ได้จำลองรูปลักษณ์ศิลปะแบบอย่างจากวัด เฌอพู (Tsurphu) เพื่อระลึกถึงดินแดนหลังคาโลกอันเป็นแผ่นดินมาตุภูมิ จากนั้นเดินทางเข้าสู่ที่พัก
- ค่ำ รับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคารในโรงแรม
- พักที่ THE LEMON TREE HOTEL โรงแรมมาตรฐาน 4 ดาว หรือเทียบเท่า
<strong>Day 5 : กังต๊อก-ลาชุง</strong>
- เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
- นำท่านเดินทางสู่ ลาชุง (Lachung) โดยรถจี๊บ ลาชุงเป็นดินแดนที่อยู่ท้ายสุดบนภูเขาสูง ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของชุมชนบนภูเขาสูง อยู่ทางตอนเหนือของสิกขิม (ระยะทางประมาณ 116 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง) ระหว่างทางแวะชมความงดงามของยอดเขาคันเซ็นจุงก้า (หากฟ้าเปิด) ที่ “จุดชมวิวตาชิ วิวพอยส์” (Tashi View Point) ท่านสามารถมองเห็นความสลับซับซ้อนของเทือกเขาทางภาคเหนือได้ดีที่สุด
- กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารของโรงแรม
- บ่าย เดินทางต่อสู่ลาชุง ท่านจะผ่านเส้นทางธรรมชาติ และ น้ำตกน้อยใหญ่ตลอดเส้นทาง และวิวผืนป่าเขียวขจี ของเทือกเขาหิมาลัย ไปจนสุดเส้นทาง เช่น น้ำตกนากา, น้ำตกทวิน, น้ำตกเซเว่น ซิสเตอร์ หุบเขาแม่น้ำลาชุงชู ฯลฯ ที่หมู่บ้านลาชุง ช่วงหน้าหนาว ทั้งหมู่บ้านจะอยู่ใต้หิมะ ทุกบ้านจะจุดเตาผิงควันปุ๋ยๆ เหมือนหมู่บ้านในนิทานตะวันตก
- ค่ำ รับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคารในโรงแรม
- พักที่ YARLAM RESORT โรงแรมมาตรฐาน 4 ดาว หรือเทียบเท่า
***จัดกระเป๋าใบเล็ก สำหรับไปพักที่ลาชุง 2 คืน ที่ลาชุงจะมีอุณหภูมิหนาวที่สุดในโปรแกรมของเราอย่าลืมจัดเสื้อผ้าที่ให้ความอบอุ่นที่สุดไปด้วย ส่วนกระเป๋าใบใหญ่ฝากไว้ที่โรงแรมในเมืองกังต็อกเพราะเราจะกลับมาพักที่นี่ อีก 1 คืน***
<strong>Day 6 : ลาชุง-ยุมถัง-ลาชุง</strong>
- เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
- นำท่านเดินทางสู่ หุบเขายุมถัง (Yumthang Valley) ทุ่งหญ้าลอยฟ้าตั้งอยู่บนระดับความสูง 3,659 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล อยู่ห่างจาก ห่างจากลาชุง ประมาณ 24 กม.เป็นหุบเขาที่มีธรรมชาติงดงามที่สุดในสิกขิม ระหว่างการเดินทางผ่านความงดงามของธรรมชาติที่เต็มไปด้วยหิมะ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ระหว่างเดือนเมษายน ถึงพฤษภาคม ทั่วทั้งอาณาบริเวณเส้นทางขึ้นหุบเขายุมถังจะเต็มไปด้วยสีสันของดอกไม้นานาพันธุ์ จนได้รับสมญานามว่า “หุบเขาแห่งดอกไม้” และเต็มไปด้วยหิมะขาวโพลนไปตลอดทั้งปี ให้ท่านเก็บรูปสวยๆ ชมฝูงจามรี สัตว์ประจำถิ่นที่อาศัยอยู่เหนือระดับน้ำทะเล 3,000 – 6,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล อิสระถ่ายภาพ อันสวยงามที่ไม่รู้ลืม นั่งรถขึ้นสูงขึ้นไปอีกประมาณ 15 กิโลเมตร
- ชมแสงอาทิตย์ที่ทอแสงผ่านสายหมอกที่พาดพันขุนเขาสูง เปลี่ยนเป็นลำแสงพราวพรรณรายตกลงต้องหุบเขาและแม่น้ำ Teesta ที่อยู่เบื้องล่าง ชม ภูเขาหิมะ ณ ซีโร่พอยท์ (Zero Point) หรือที่เรียกว่า Yumesamdong Zero (หนาวสุดๆ เพราะอยู่สูงมาก) แล้วนั่งรถลงมาแวะที่น้ำพุร้อน ท่านที่ต้องการลงแช่น้ำพุร้อนให้เตรียมเสื้อผ้าไปด้วย ท่านที่ไม่ต้องการแช่น้ำพุร้อน สามารถนั่งจิบชาชมบรรยากาศรอบๆยุมถัง ก็โรแมนติกไปอีกแบบเดินทางกลับสู่หมู่บ้านลาชุง อิสระชมทิวทัศน์ระหว่างสองข้างทางที่สวยงามตลอดเส้นทาง จากนั้น แวะชม บ่อน้ำพุร้อน ระหว่างทาง ได้เวลาสมควรเดินทางสู่ที่พัก
- กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารของโรงแรม
- อิสระชมวิวหมู่บ้านลาชุงกลางวงล้อมของภูเขาหิมะแสนสวย สงบเงียบ งดงามอยู่บนเทือกเขาหิมาลัย
- จากนั้นทำท่าน ชม วัดลาชุง ซึ่งสร้างขึ้นในปี 1806 เป็นวัดแห่งนิกาย ญิงมาในพระพุทธศาสนามหายานในธิเบต วัดอันศักดิ์สิทธิ์แห่งเดียวในหมู่บ้านลาชุง ซึ่งท่านสามารถมองเห็นวิวรอบด้านที่ห้อมล้อมไปด้วยภูเขา โดยตัววัดถูกสร้างขึ้นตามรูปแบบของวัดในนิกายหมวกแดงในสมัยโบราณ
- ค่ำ รับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคารในโรงแรม
- พักที่ YARLAM RESORT โรงแรมมาตรฐาน 4 ดาว หรือเทียบเท่า
<strong>Day 7 : ลาชุง-กังต๊อก</strong>
- เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
- ออกเดินทางสู่ กังต๊อก อิสระชมทิวทัศน์ระหว่างสองข้างทางที่สวยงามตลอดเส้นทาง แวะนมัสการพระโพธิสัตว์ ในวิหาร วัดโปด่อง (Phodong Monastery) วัดหลวงของ Karmapa 16 รุ่น ประวัติศาสตร์เกือบ 2000 ปี ก่อนที่ ในปัจจุบัน แถบนี้ผู้คนเป็นชาวทิเบต จึงสร้างอารามไว้หลายแห่ง ที่นี่อยู่ไกลบนขุนเขา กลางธรรมชาติอันตระการตา แม้จะเป็นวัดเก่าแต่ด้วยความเป็นวัดสำคัญ จึงได้รับการบูรณะปรับปรุงมาตลอด และมองดูคล้ายวัดใหม่สีสันแพรวพราว มีลามะจำพรรษาอยู่หลายสิบองค์
- กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารของโรงแรม หรือ ภัตตาคารท้องถิ่น
- เดินทางถึงเมืองกังต๊อก นำท่านชมเมืองกังต๊อก โดยการ นั่งเคเบิ้ลคาร์ ชมทิวทัศน์ของเมืองกังต็อก บนเส้นทางเคเบิ้ลลอยฟ้า เมืองกังต็อกเป็นเมืองที่ไม่มีที่ราบเลย บ้านเรือนทั้งหมดสร้างลดหลั่นตามภูเขารอบเมืองกังต็อก คือ ภูเขาคันเชนจุงก้าและภูเขาสูงอีกมากมายในเทือกเขาหิมาลัยล้อมรอบ การนั่งกระเช้าชมยามเย็นนี้อากาศแจ่มใส ท่านจะได้ชมทิวทัศน์ที่สวยงามที่ยากจะลืมได้ทีเดียว และอิสระให้ท่านช้อปปิ้ง ถนนมหาตมะคานธี” (MG Marg.) ย่านใจกลางเมืองสิกขิม ถนนนี้จะปิดหลังเวลา 17.00 น. เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เดินชมเมือง และเลือกซื้อสินค้าของที่ระลึกจากเมืองมากมายที่ตลาดกังต็อก
- ค่ำ รับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคาร /โรงแรม
- พักที่ THE LEMON HOTEL โรงแรมมาตรฐาน 4 ดาว หรือเทียบเท่า
<strong>Day 8 : กังต๊อก – กาลิมปง – สิลิกูริ</strong>
- เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
- พร้อมแล้วเดินทางสู่ เมืองสิลิกูริ (Siliguri) เมืองชุมทางใหญ่บนที่ราบสุดท้ายบนชายเทือกเขาหิมาลัย เพราะแคว้นสิกขิมเป็นเนินเขา แทบจะไม่มีที่ราบเลย ระหว่างแวะเที่ยวเมืองกาลิมปง (Kalimpong) ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ สบายๆ อยู่ทางตอนใต้ของสิกขิม เป็นที่รู้จักกันดีของนักท่องเที่ยว เป็นจุดเดินป่าที่มีชื่อเสียง และเป็นเมืองที่นักปีนเขาหิมาลัยจะมาเริ่มต้นกันที่นี่ นอกจากนั้น เมืองนี้ยังมีชื่อเสียงในด้านการศึกษาและตลาดดอกไม้อีกด้วย เพราะ มีอากาศเหมาะสำหรับการเพาะปลูกพันธุ์ไม้อย่างยิ่ง
- ชมเมืองกาลิมปง ชม วัดเดอร์พิน (Durpin Monastery) ซึ่งเป็นวัดสไตล์ทิเบตบนเขา หรือที่รู้จักกันในนาม “Zong Dog Palri Fo Brang Monastery” วัดนี้สร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1975 โดย “ดาไลลามะ” ที่ครั้งหนึ่งได้มีโอกาสมาเยือนกาลิมปงในปี ค.ศ. 1956 เพื่อนำต้นฉบับเอกสารที่เขียนด้วยมือจำนวน 180 ฉบับ มาเผยแพร่ที่ดินแดนนี้ ภายในที่ภาพวาดที่ฝาผนังห้องบูชา และภาพวาดบนเพดานที่สวยงาม รวมถึงมีศิลปะของศาสนาฮินดูและศาสนาพุทธที่หาดูยากบนชั้น 2 ด้วย (ภายในห้ามบันทึกภาพ)
- กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
- นำท่านชม วัดทาร์ปา โชลิง (Tharpa Choling Monastery) ซึ่งเป็นวัดทิเบตในศาสนาพุทธนิกายเกลุคปะ หรือ นิกายหมวกเหลือง ตั้งอยู่บนยอดเขาในเมืองกาลิมปง สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1931 เป็นวัดที่สงบ ร่มเย็น เหมาะแก่การนั่งสมาธิ และยังสามารถชมวิวของเทือกเขาหิมาลัยจากวัดนี้ได้ด้วย
- ชม วัดธองสา (Thongsa Gompa) เป็นวัดพุทธสไตล์ภูฎาน ที่ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1692 เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในเขตเมืองกาลิมปง ได้รับการบูรณะซ่อมแซมขึ้นใหม่ดังที่เห็นในปัจจุบัน เดิมวัดนี้สร้างขึ้นในรูปแบบของภูฎาน และเชื่อว่าถูกสร้างขึ้นโดยคำสั่งของกษัตริย์ภูฎาน วัดนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการสวดมนต์ภาวนา และนั่งสมาธิ
- นำท่านชม สถานเพาะชำดอกไม้ (Flower Nursery) ที่ภายในเป็นเรือนเพาะชำ เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ โดยจะมีต้นไม้ ดอกไม้หลากหลายชนิด เช่น กระบองเพชรหลากหลายสายพันธุ์
- ค่ำ รับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคารในโรงแรม
พักที่ THE LEMON TREE HOTEL โรงแรมมาตรฐาน 4 ดาว หรือเทียบเท่า
<strong>Day 9 : สิลิกูริ – บักโดรา – เดลี</strong>
- เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
- นำท่านเดินทางสู่เมืองบักโดรา เพื่อขึ้นเครื่องไปเมืองเดลี
- เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
- 13.55 น. ออกเดินทางสู่ เมืองเดลี โดยสายการบิน Air India เที่ยวบินที่ AI 880
- 16.15 น. ถึงเมืองเดลี นำท่านผ่านขั้นตอนตรวจคนเข้าเมือง
- รับประทานอาหารเย็นที่ภัตตาคารอาหารไทย
- อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองและงานหัตถกรรมต่างๆที่ ตลาดจันปาท(Janpath Market) เช่น ผ้าไหมอินเดีย, เครื่องประดับอัญมณี, ไม้จันทน์หมแกะสลัก, ของตกแต่งประดับบ้าน ฯลฯ
- พักที่ THE PRIDE HOTEL โรงแรมมาตรฐาน 5 ดาว หรือเทียบเท่า
<strong>Day 10 : กรุงเทพฯ</strong>
- เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
- เดินทางไปยัง หลุมฝังพระบรมศพของจักรพรรดิหุมายูง (Humayun’s Tomb) สุสานแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1570 ออกแบบโดยมิรัก มีร์ซา กียัท (Mirak Mirza Ghiyath) สถาปนิกชาวเปอร์เซีย ซึ่งจัดว่าเป็นสุสานและสวนแห่งแรกบนอนุทวีปอินเดีย มีความสำคัญทางวัฒนธรรมเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นสุสานสวนแห่งแรกในอนุทวีปอินเดีย อีกทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจในการก่อสร้างทัชมาฮาล
- 13.45 น. ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบิน Air India เที่ยวบินที่ AI 332
- 19.20 น. เดินทางถึงสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ / กรุงเทพ ฯ โดยสวัสดิภาพ