
- ทัวร์ของเรา
- เดือนกุมภาพันธ์
- เดือนมีนาคม
- เดือนเมษายน
- เดือนพฤษภาคม
- เดือนมิถุนายน
- เดือนกรกฎาคม
- เดือนสิงหาคม
- เดือนกันยายน
- เดือนตุลาคม
- Europe
สัมผัสเส้นทางอันแสนน่ารัก เที่ยวเมืองเล็กแสนสวย อันซีนของฝรั่งเศส เที่ยวครบเมืองสวยสุดโรแมนติก
เยือนแคว้นอัลซาส แคว้นบริททานี แคว้นเบอร์กันดี และ แคว้นนอร์มังดี
พิเศษ!!! พักชาโตว์ + ลิ้มลองอาหารมิชลิน สตาร์ + เมนู LOBSTER
(กรุ๊ปเล็ก 10 – 15 ท่าน)
เมืองกอลม่า-หมู่บ้านอองกีเชม -รอคคามาดูร-์ ลาโร๊ค กาแยค-แซงต์ เอมิลิยอง
นองต์-โรชฟอร์ต อองแตร์-วานส์-มองต์ แซงต์มิเชล
ดินาน-อองเฟลอร์- เอเตอร์ ต๊าต-รูออง ฯลฯ
Day 1: กรุงเทพฯ
- 22.00 น. คณะพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทางเข้าที่ 4 เคาน์เตอร์สายการบินไทย แอร์เวย์ (TG) ประตู 4 โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยอำนวยความสะดวกแก่ท่าน
** เอกสารที่ใช้เช็คอิน(ข้อมูล สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา บริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบอีกครั้ง)
Day 2 : กรุงเทพฯ – กอลมาร์ – อองกีเชม – ดีจอง
- 00.35 น. ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ สู่ เมืองซูริค โดยเที่ยวบินที่ TG970
- 06.55 น. เดินทางถึง สนามบินซูริค หลังจากผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมือง
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง กอลมาร์ (COLMAR) เมืองเล็กๆอันเป็นเมืองบ้านเกิดของจิตรกร และช่างแกะพิมพ์มาร์ติน โชนเกาเออร์ และประติมากรเฟรเดริก โอกุสต์ บาร์ตอลดี ผู้ออกแบบอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพเป็นเมืองที่มีความโรแมนติก เมืองหนึ่งของฝรั่งเศส และเป็นสถานที่ที่คู่รักมักจะให้คา สัญญาในความรักระหว่างกันและกันด้วยบรรยากาศที่สวยงามสถาปัตยกรรมของอาคารบ้านเรือนเก่าแก่จึงทา ให้เมืองกอลมาร์เป็ นอีกหนึ่งในสถานที่โรแมนติกในฝันของใครอีกหลายคน เดินทางถึง เมืองกอลมาร์
นำท่าน ชมเมืองกอลมาร์ ดินแดนแห่งความงาม ที่มีตึกรามบ้านช่องสวยงามมีจุดเด่นอยทูี่ความงามของดอกไม้ ที่มีอยทูั่่วเมือง จัดเป็นอีกเมืองที่ถูกจัดให้เป็นเมืองที่มีความโรแมนติกจนได้รับการขนานนามว่าลิตเติ้ลเวนิซ ปัจจุบันเมืองเก่าแก่แห่งนี้ได้กลายเป็นเมืองที่น่ามาเยือนเป็นอันดับต้นๆของประเทศฝรั่งเศสเป็นเมืองที่มีลักษณะสถาปัตยกรรมและบรรยากาศของเมืองโบราณ มีบ้านเรือนที่สวยงาม และได้รับการดูแลรักษาไว้เป็นอย่างดี บ้านเรือนแบบนี้ เรียกว่า Colombage (ฝรั่งเศส) หรือ Fachwerkhaus (เยอรมัน)
- เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย จากนั้นนาท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านอองกีเชม (EGUISHEIM) หมู่บ้านที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “อีกหนึ่งหมู่บ้านที่สวยที่สุดของฝรั่งเศส” รวมทั้งเป็นหนึ่งในเส้นทางการชิมไวน์ทางตะวันออกของประเทศ อีกทั้งยังเป็นหมู่บ้านที่ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของแคว้นอัลซาสอีกด้วย เดินทางถึง หมู่บ้านอองกีเชม นาท่านเดินชมความงดงามไปตามถนนก้อนกรวดอันคดเคี้ยวของหมู่บ้าน ตื่นตาไปกับความงดงามของเหล่าอาคารบ้านเรือนที่ยังคงกลิ่นอายความเป็นยุคกลางไว้เป็นอย่างดีชมความเก่าแก่ของอาคารไม้โบราณที่แต่งแต้มด้วยสีสันสีสดใส และเดินลัดเลาะไปชมหมู่ดอกไม้หลากสีสันที่ออกดอกชูช่อตามระเบียงบ้าน ราวกับจะเชื้อเชิญแขกต่างถิ่นให้เข้าไปชื่นชมความงดงาม และชมลานน้าพุที่สร้างในแบบเรเนสซองส์ อีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวที่หลายคนอาจบ่นเสียดาย ถ้าหากไม่ได้ไปเยือน
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองดีจอง (Dijon)
- ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พักโรงแรม OCEANIA LE JURA หรือเทียบเท่า
Day 3 : ดีจอง - ลียง – แกลร์ม็งต์ แฟร์รองด์
- เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองลียง (Lyon) นั้นเป็นเมืองหลวงของจังหวัดโรน Rhone และยังเป็นเมืองหลวงของแคว้นโรนาลป์ หรือแคว้นโรห์น-อัลป์ (Rhone-Alpe) ซึ่งเป็นแคว้นที่ตั้งอยู่บริเวณภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศฝรั่งเศส โดย เมืองลียง เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นลาดับที่สองของประเทศฝรั่งเศส รองลงมาจากกรุงปารีส ถูกก่อตั้งขึ้นโดยพวกโรมันในคริสต์ศตวรรษที่ 1 จนกระทั่งองค์การยูเนสโก (Unesco) ได้รับการบรรจุ เมืองลียงไว้ในรายชื่อของมรดกโลกในปี ค.ศ.1998
- เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเดินเล่นใน เพลซ เดอ เตอรัว (Place des Terreaux) จัตุรัสขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใจกลาง เมืองลียง โดยจัตุรัสนั้นได้รับการออกแบบใหม่อย่างสมบูรณ์ในปี 1990 โดยศิลปิน Daniel Buren โฮเตล เดอ ลิยง (Hotel de Ville)
นำท่านชม อาคารศาลากลางเมืองลียง (City Hall) โดยอาคารถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 ปัจจุบันอาคาร แห่งนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในอาคารเก่าแก่ที่ใหญ่ที่สุดของเมืองลียงอีกด้วย
จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับ โรงละครโอเปร่า (Opera house) อีกหนึ่งอาคารประวัติศาสตร์ที่ตั้งอยู่ตรงข้ามกับศาลากลาง โดยอาคารถูกสร้างขึ้นใน ช่วงปี ค.ศ. 1826 ถูกสร้างขึ้นโดย Chenavard และ Pollet และต่อมาถูกออกแบบใหม่อย่างสมบูรณ์โดย Jean Nouvel โดยอาคารถูกเปิดขึ้นมาใหม่ในปี 1993
นำท่านชม โบสถ์นอร์ดเทอร์ดาม หรือชื่อที่เป็นทางการคือ Basilique Notre-Dame de Fourvière ตั้งอยู่บนยอดเขา ทาให้สามารถมองเห็นได้จากเกือบทุกที่ในเมืองลียง สถานที่แห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่สัญลักษณ์ของเมือง แต่ยังเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในลียงด้วย ชื่นชมการตกแต่งภายในที่ประดับด้วยทองที่วิจิตรอลังการ และชมทิวทัศน์เมืองที่น่าตื่นตาตื่นใจ โบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นบนพื้นที่ของชาวโรมันโบราณในปี 1896 โดยผสมผสานศิลปะไบแซนไทน์และโรมาเนสก์เข้าด้วยกัน เช่นเดียวกับ Sacré-Coeur ในปารีส โบสถ์นี้ได้รับเงินสนับสนุนจากการบริจาคและสร้างขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นถึงอานาจของโบสถ์คาทอลิกต่ออานาจของฝ่ายอาณาจักร และเพื่อแสดงความขอบคุณต่อพระเจ้า
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง แกลร์ม็งต์-แฟร์รองด์ (Clermont-Ferrand) เมืองหลวงของแคว้นโอแวร์ญ ที่ยังคงรักษาสภาพแบบเดิมๆเอาไว้ให้ผู้ที่หลงใหลในธรรมชาติอันงามพิสุทธิ์
- ค่ำ รับประทานอาหารค่า ณ ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้นนาท่านเดินทางเข้าสู่ที่พักโรงแรม HOTEL OCEANIA CLEMONT FERRAND หรือเทียบเท่า
Day 4 : แกลร์ม็งต์ แฟร์รองด์ – โรคามาดัวร์ – ลาโรค กาแยค – แซ็งต์ เตมีลียง
- เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมือง โรคามาดัวร์ (Rocamadour) ตั้งอยู่เชิงผาในภูมิศาสตร์อันเหลือเชื่อเหมือนหลุดมาจากภาพยนตร์เรื่อง The Lord of the Ring นาท่านถ่ายรูปกับ โบสถ์พระแม่แห่งโรคามาดัวร์ (Chapelle Notre-Dame) เป็นหนึ่งในศูนย์กลางการแสวงบุญที่มีชื่อเสียงมาก ซึ่งภายในเป็นที่เก็บรักษารูปสลักไม้ของ “พระแม่มารีดำ” (Black Madonna) ที่เชื่อกันว่าแกะโดยนักบุญอามาดูร์เอง ถัดลงมาด้านล่างของโบสถ์ บริเวณกาแพงหินคุณจะพบกับ ดาบดูเรนดา (Durendal) ที่เสียบหักอยู่บนอยู่บนผา ซึ่งมีการกล่าวกันว่า ดาบเล่มนี้เป็นดาบของวีรบุรุษโรแลนด์ อัศวินที่มีชื่อเสียงในอดีตนั่นเอง
- เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ ลาโรค กาแยค (La Rougue Gageac) เป็นเมืองเก่าแก่ที่มีอายุหลายร้อยปี ด้วยเอกลักษณ์ของเหล่าอาคารบ้านเรือนสีเหลืองทอง รวมไปถึงวิถีการดารงชีวิตในแบบดั้งเดิม เป็นเมืองเล็กแต่มากไปด้วยความงดงาม และน่ามาเยือนเป็นที่สุด นาท่าน ชมทิวทัศน์ 2 ฝั่งที่สวยงาม มีทั้งชาโตว์ หลายแห่ง ไร่องุ่น และธรรมชาติที่บริสุทธิ์
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง แซ็ง-เตมีลียง (Saint-Emilion) นับเป็นเขตพื้นที่ที่เก่าแก่ที่สุดของแคว้น ซี่งองค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนเป็นเขตมรดกโลกในปี 1999 ในฐานะที่เป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของภูมิทัศน์ ไร่องุ่นประวัติศาสตร์ ที่รักษาสภาพที่สวยงามจากอดีตถึงปัจจุบัน และยังคงทาการเพาะปลูกองุ่นที่ยังคงรักษาคุณภาพองุ่น เพื่อเป็นวัตถุดิบสาหรับผลิตไวน์ในภูมิภาคไว้ได้เป็นอย่างดี โดยมีการกำหนดมาตรฐานการผลิต และการตรวจสอบคุณภาพอย่างเคร่งครัด ถือว่าเมืองแห่งไวน์แดง ที่มีความงดงามด้วยตัวเมืองเก่าที่สร้างด้วยหินปูนทั้งหมด เป็นเมืองที่โดดเด่นที่สุดในด้านการผลิตไวน์ และมีไร่องุ่นที่มากมายสุดลูกหูลูกตา ให้ท่านได้เลือกซื้อ และชิมไวน์รสนุ่ม ณ ชาโตว์ชื่อดังของเมือง
- ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร อาหารมิชลิน สตาร์ จากนั้นนาท่านเดินทางเข้าสู่ที่พักโรงแรม CHATEAU GRAND BARRAIL หรือเทียบเท่า
Day 5 : แซ็งต์ เตมีลียง - ลาโรแชล - น็องต์
- เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองลาโรแชล (La Rochelle) เมืองเก่าแก่ริมฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติค เมืองศูนย์กลางอาหารทะเลโดยเฉพาะหอยนางรมสดๆ รสเยี่ยมเป็นที่ขึ้นชื่อของฝรั่งเศส เดินทางไปถ่ายรูปเกาะเล็กสวยงามโดยมีสะพานเชื่อมระยะทางเกือบ 3 กิโลเมตร เกาะนี้ชื่อว่า ลีลเดิเร่ (L’Ile de Re)
- เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร อาหารไทย
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองน็องต์ (Nantes) เป็นเมืองหลวงของจังหวัด ลัวรัตล็องติกในแคว้นเปอีเดอลาลัวร์ในประเทศฝรั่งเศส น็องต์เป็นเมืองสาคัญทางประวัติศาสตร์อันยาวนาน ในค.ศ.2004 นิตยสารไทม์บรรยายน็องต์ว่าเป็น “เมืองที่น่าอยู่ที่สุดในบรรดาเมืองต่างๆ ในยุโรป”
นำท่านถ่ายรูปกับ มหาวิหารแซ็งต์-ปิแยร์ (Saint Pierre Cathedral) ได้รับการยกย่องให้เป็นอนุสาวรีย์แห่งชาติฝรั่งเศส โดยช่วงศตวรรษที่ 16ได้รับความเสียหายจากสงครามศาสนาระหว่างคาทอลิกกับโปรเตสแต๊นต์ ต่อมาศตวรรษที่ 17 ถูกสร้างขึ้นมาใหม่
นำท่านถ่ายรูปกับ ปราสาท Chateau des Ducs de Bretagne ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 และใช้เป็นทั้งที่พักอาศัยและใช้เป็นป้อมปราการทางทหารด้วย ปัจจุบันที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์
- ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคารท้องถิ่น จากนั้นนาท่านเดินทางเข้าสู่ที่พักโรงแรม HOTEL RADISSION BLU หรือเทียบเท่า
Day 6 : น็องต์ - โรชฟอร์ อ็อง แตร์ - วานส์
- เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมือง โรชฟอร์ อ็อง แตร์ (Rochefort en trere) ได้รับการโหวตว่าเป็นเมืองเล็กที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในหมู่บ้านสไตล์ฝรั่งเศส อาคารบ้านเรือนถูกสร้างด้วยหินปูนและหินเกรนิต อิสระให้ท่านถ่ายรูปและเดินเล่นชมเมือง
- เที่ยง รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองวานส์ (Vannes) เป็นเมืองเก่าของแคว้นบริทานี่ ประเทศฝรั่งเศส เป็นเมืองเก่าแก่ที่ถูกอนุรักษ์ไว้อย่างดี มีเอกลักษณ์โดยมีถนนเล็กๆที่ปูด้วยหินและประตูเมืองยุคกลาง มีบ้านกรอบไม้ซุงที่มีสีสันเฉพาะตัว เป็นเมืองที่มีเสน่ห์ เพราะมีทั้งโซนเมืองเก่าสมัยยุคกลางที่ยังคงรักษาไว้อย่างดี และมีท่าเรือเล็กๆไว้จอดเรือใบลาน้อยด้วย มีปราสาท มีป้อมปราการและกาแพงเมืองเก่าที่ยังคงแสดงถึงความยิ่งใหญ่ในอดีตให้เราสัมผัสได้
จากนั้น นำท่านแวะถ่ายรูป มหาวิหารแห่งวานส์ หรือเรียกชื่อเต็มว่า อาสนวิหารนักบุญเปโตรแห่งวานส์ (Cathédrale Saint-Pierre de Vannes) มหาวิหารแห่งแรกของเมืองวานส์นั้นถูกทาลายลงในปีค.ศ. 919 จากการรุกรานของชาวไวกิ้งในแคว้นเบรอตาญ ต่อมาได้มีการสร้างขึ้นใหม่ราวค.ศ. 1020 โดยสร้างในแบบสถาปัตยกรรมโรมาเนสก์ วัตถุดิบหลักที่ใช้คือหินแกรนิต และต่อมาได้มีการต่อเติมอยู่อย่างสม่าเสมอ ทาให้มหาวิหารแห่งนี้มีความหลากหลายทางสถาปัตยกรรมอย่างมาก
- ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคารท้องถิ่น จากนั้นนาท่านเดินทางเข้าสู่ที่พักโรงแรม HOTEL BEST WESTERN PLUS VANNES หรือเทียบเท่า
Day 7 : วานส์ – ดีน็อง - แซงต์ มาโล
- เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองดีน็อง (Dinan) เป็นเมืองเล็กๆเก่าแก่อีกเมือง เป็นเมืองเล็กๆโดยมีเเม่น้า La Rance ไหลผ่าน มีเขตบ้านเมืองเก่าที่มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 เป็นอีกเมืองที่ยังคงรักษากาแพงเมืองเก่าไว้ได้อย่างดี มีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สาคัญๆหลายแห่ง เมืองนี้เป็นเมืองเล็กๆเงียบสงบ มีท่าเรือที่เรียกว่า Le Port de Dinan ให้ท่านได้เดินเล่มชมเมือง
- เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร อาหารท้องถิ่น
บ่าย จนได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่ เมืองแซงต์ มาโล (SAINT MALO) อีกหนึ่งจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่สาคัญแห่งหนึ่งของจังหวัด อีลล์-เอต์-วีแลน (Ille-et-Vilaine) แคว้นเบรอตาญ เป็นเมืองชายฝั่งที่มีขนาดเล็กมีกาแพงล้อมรอบตัวเมือง แม้ว่าบางส่วนจะถูกทาลายไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองก็ตามก็ยังคงไว้ซึ่งความสวยงามแบบคลาสสิคของเมืองได้เป็นอย่างดี
นำท่านแวะถ่ายรูป โบสถ์แซงต์มาโล (SAINT MALO CATHEDRAL) โบสถ์เก่าแก่นิกาย โรมันคาทอลิก โดยโบสถ์ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 1108 ชมโซลีโดร ทาวเวอร์ (Solidor Tower) อาคารเก่าแก่ ที่ตั้งอยู่ริมทะเล สร้างขึ้นในช่วงสมัยศตวรรษที่ 14 หรือในช่วงระหว่างปี 1369 – 1382 โดย John V ดยุคแห่งเบรอตาญ โดยภายในเป็นที่เก็บ รวบรวมเกี่ยวกับประวัติศาสตร์การเดินเรือ รวมไปถึงอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ในเดินเรือในทะเลอีกจานวน มากมองจากบริเวณ ทาวเวอร์ นักท่องเที่ยวจะได้ พบกับวิวทิวทัศน์ที่งดงามของปากแม่น้า Rance
- ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคารท้องถิ่น นาท่านเดินทางเข้าสู่ที่พักโรงแรม HOTEL OCEANIA SAINT MALO หรือเทียบเท่า
Day 8 : แซงต์ มาโล – มงต์แซงต์มิเชล - โดวิลส์
- เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ มงต์แซงต์มิเชล (Mont Saint-Michel) ที่ตั้งของศาสนสถานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรปเทียบได้กับมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์แห่งกรุงโรม อยู่บนเกาะในเขตแคว้นนอร์มังดี สถานที่แห่งนี้ได้รับการประกาศจากองค์การยูเนสโกให้เป็นหนึ่งในมรดกโลก เมื่อปี ค.ศ.1979 และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมติดอันดับ 3 ของฝรั่งเศส รองลงมาจากหอไอเฟลและพระราชวังแวร์ซายน์ มงแซงต์-มิเชล
นำท่านชม มหาวิหารมงแซ็งต์ มิเชล (Mont Saint Michel Cathedral) ศาสนสถานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรปเทียบได้กับมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์แห่งกรุงโรม สร้างมาหลายยุคหลายสมัยเปลี่ยนแปลงรูปแบบตลอดการสร้าง จนปี ค.ศ. 966 นักบวชนิกายเบเนดิกตีนจากวิหารแซ็งว็องดรีย์ ได้สร้างโบสถ์และอาคารขึ้นใหม่เป็นอารามขนาดใหญ่ และตั้งชื่อใหม่ว่า “มงแซ็งต์ มิเชล” ตัววิหารตั้งอยู่บนฐานหินแกรนิตขนาดใหญ่ สูงจากระดับน้าทะเล 75 เมตร มีการสร้างต่อเติมหลายยุคหลายสมัยที่แคว้น นอร์มังดีเรืองอานาจและอิทธิพลถึงที่สุด เป็นศาสนสถานสาหรับบาเพ็ญสมาธิและถือสันโดษมาตั้งแต่โบราณ ชมตัวเมืองเก่า ที่มีป้อมปราการล้อมรอบ จากนั้น มีเวลาให้ท่านได้เดินเล่น อิสระ ช้อปปิ้ง บนถนนเส้นเดียวของเกาะที่มีร้านขายของที่ระลึกบริการ
- เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองโดวิลส์ (Deauville) ที่เต็มไปด้วยบ้านไฮโซริมทะเล โดยถูกขนานนามว่า Parisian Riviera ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 19 เป็นเมืองพักผ่อนของชนชั้นสูง คนรวย และคนมีชื่อเสียง และยังเป็นเมืองแรกที่ Coco Chanel มาเปิดร้าน และมีการจัดเทศกาลหนังหลายครั้ง ทั้งยังเป็นสถานที่ถ่ายภาพยนต์ชื่อดัง The Devil Wears Prada อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมชื่อดัง อาทิ Gucci, Dior,Cartier, Louis Vuitton, Prada ฯลฯ หรือช้อปปิ้ง ณ ห้องแพรงตอง
- ค่ำ รับประทานอาหารค่า ณ ภัตตาคารท้องถิ่น จากนั้นนาท่านเดินทางเข้าสู่ที่พักโรงแรม HOTEL DU GOLF BARRIERE หรือเทียบเท่า
Day 9 : โดวิลส์ – อ็องเฟลอร์ – เอทเทรทาท์ - รูอ็อง
- เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองอ็องเฟลอร์ (HONFLEUR) เมืองท่าเล็กๆของแคว้นนอร์มองดี ซึ่งตั้งอยู่บนฝั่งทางตอนใต้ของบริเวณปากแม่น้าแซน ปัจจุบันเมืองเล็กๆแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันในนามของเมืองท่า เก่าแก่ที่งดงามแห่งหนึ่งของประเทศฝรั่งเศส และ ท่าเรือประมงเก่าแก่ สัมผัสเสน่ห์ของเมืองท่าแห่งนี้ด้วยการเดินไปชมเรือยอร์ช และเรือประมงที่มากไปด้วยสีสันอันสดใส ท่านสามารถพบกับช่องแคบ บ้านเก่าและถนนที่งดงาม, เหมืองเกลือ และโบสถ์ Saint Catherine’s เป็นโบสถ์ไม้ที่ใหญ่ที่สุดในฝรั่งเศส ตื่นตาไปกับความเก่าแก่ของระเบียงหอระฆังที่ประดับประดาอย่างวิจิตร
นำท่านชม โบสถ์เซนต์ แคทเธอร์รีน (Saint Catherine’s) เป็นโบสถ์ไม้ที่ใหญ่ที่สุดในฝรั่งเศส ตื่นตาไปกับความเก่าแก่ของระเบียงหอระฆังที่ประดับประดาอย่างวิจิตร
จากนั้นนาท่านเดินทางสู่ เมืองเอทเทรทาท์ (Etretat) “หมู่บ้านเอทเทรทาท์” (Etretat Village) หมู่บ้านเล็กๆริมชายฝั่งในจังหวัดแซน-มารีตีม (Seine-Maritime) เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่มีชื่อ เสียงและได้รับความนิยมมากแห่งหนึ่งของประเทศฝรั่งเศส
- เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร เมนูพิเศษ LOBSTER
บ่าย นำท่านชม “หน้าผาและเสาหินโค้งธรรมชาติแห่งเอทเทรทาท์” (The Cliffs at Etretat) โดยจุดท่องเที่ยวแห่งนี้ได้ กลายเป็นสถานที่ดึงดูดเหล่านักท่องเที่ยวและศิลปินเป็นจานวนมาก นอกจากนี้ยังมีชายหาดที่ขนานไปกับแนวยาวของชายฝั่ง ซึ่งมีความสวยงามมากแห่งหนึ่งอีกด้วย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง เมืองรูอ็อง ( ROUEN ) เมืองหลวงของแคว้นนอร์มังดีบนฝั่งแม่น้าแซนน์ โมเนต์ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ในปี ค.ศ.1892 อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง ซึ่งปัจจุบันแคว้นนอร์มังดีได้แยกออกเป็น 2 แคว้น คือ โอต-นอร์มังดี และ บัส-นอร์มังดี นั่นเอง โดยแต่เดิมเมืองรูอ็องนั้นถือว่าเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดและมั่งคั่งที่สุดของยุคกลางอีกด้วย
นำท่านแวะถ่ายรูป วิหารนอร์ทเตอร์ดัมแห่งเมืองรูอ็อง (NORTRE-DAME DE ROUEN) สร้างขึ้นในปี 1150 ต่อมาในปี 1170 มีการเสริมหอคอยคู่หน้าเข้าไป และแล้วเสร็จสมบูรณ์ในปี 1240 จากนั้นมีการบูรณะใหม่ในศตวรรษที่ 16 โบสถ์นี้เป็นที่รู้จักจากภาพวาดของ ศิลปินโมเนต์ ได้วาดภาพวิหารแห่งนี้ด้วยภาพเขียนคอลเลคชั่นนี้มีทั้งหมด 28 ภาพ
- ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคารท้องถิ่น จากนั้นนาท่านเดินทางเข้าสู่ที่พักโรงแรม HOTEL DE MERCURE ROUEN CENTRE CHAMP DE MARS หรือเทียบเท่า
Day 10 : รูอ็อง – จิแวร์นี ชมบ้านโมเน่ต์ – ปารีส
- เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านออกเดินทางสู่หมู่บ้านเล็กๆ ที่ชื่อว่า จิแวร์นี (GIVERNY) นำท่านชมบ้านโมเน่ต์ ศิลปินอิมเพรสชั่นนิสม์ที่โด่งดัง บ้านสองชั้นหลังนี้ปกคลุมไปด้วยพืชพรรณไม้นานาชนิด, ห้องและเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ภายในบ้านยังคงสภาพเดิม ห้องนั่งเล่น, ห้องนอนและห้องครัวนาดใหญ่พร้อมอุปกรณ์ทาครัวครบครัน สะท้อนให้เห็นว่าโมเน่ต์เป็นคนพิถีพิถัน ไฮไลท์ของบ้านคือ สวนสวย 2 แห่งที่อยู่ในที่เดียวกัน
จากนั้นนำท่านชม สวนไม้ดอกคลาสสิคสไตล์ฝรั่งเศส “คลอส นอร์แมนด์” (Clos Normand) และสวนไม้น้า ขึ้นมาคู่กับสวนไม้ดอก เหมือนกับโมเน่ต์ได้ตวัดปลายพู่กันลงบนผ้าใบ กลางสวนไม้น้ามีสระบัวที่เป็นต้นกาเนิดของภาพเขียนชุดอันเลื่องชื่อ “Water Lilies” เงาสะท้อนบนพื้นน้าในสระบัวเป็นสิ่งที่โมเน่ต์ชื่นชอบ
- เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารมิชลิน สตาร์
บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ปารีส (Paris) เมืองที่แม้กระทั่งชาวฝรั่งเศสที่อาศัยอยู่นอกเมืองหรือต่างจังหวัด หรือต่างแคว้นแดนไกล กล่าวว่า ตราบใดที่มีลมหายใจ ก็ขอให้ได้เห็นมหานครปารีส ระหว่างทางท่านจะได้สัมผัสกับความงามและความมหัศจรรย์ของกลุ่มอาราม และบ้านเรือนร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร และธรรมชาติที่น่าตื่นตาตื่นใจ ตลอดสองข้างทางจนถึงกรุงปารีส
นำท่านเดินทางสู่ ถนนชองป์ส เอลิเซ่ส์ (Champs Elysee) ถนนแฟชั่นที่มีชื่อเสียงของปารีสเป็นย่านการค้าที่ประกอบด้วยโรงละคร คาเฟ่ และร้านค้าหรูหรา สองข้างทางมีต้นเชสต์นัตที่ได้รับการตกแต่งอย่างงดงาม และปลูกเรียงรายอย่างเป็นระเบียบ ทาให้กลายเป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยวที่ผ่านไปมา ชองป์ส เอลิเซ่ส์ เดิมเป็นท้องทุ่งและสวน มีที่มาจากคำว่า “ทุ่งเอลิเซียม” จากเทพปกรณัมกรีก ถนนสายนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็นถนนที่สวยที่สุดในโลก (The most beautiful avenue in the world) ท่านสามารถเดินตามเส้นทางถนนสายนี้ไปสู่ประตูชัยนโปเลียน ซึ่งเป็นอนุสรณ์สถานที่สาคัญในกรุงปารีส และที่นี่ท่านสามารถขึ้นไปชมชั้นบนของประตูชัยได้ โดยเดินขึ้นขั้นบันได 284 ขั้น หรือใช้ลิฟต์ อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งแบบเต็มๆ หรือท่านจะเลือกช้อปปิ้งในห้างสรรพสินค้าแกลลอรี่ ลาฟาแยต ซึ่งเปิดบริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1893 และเริ่มเปิด ณ ที่ปัจจุบัน ในปี ค.ศ.1912 หากนับเวลามาแล้วประมาณ 1 ศตวรรษ ห้างลาฟาแยตเป็นห้างสรรพสินค้าชื่อดังของฝรั่งเศส ปัจจุบันมีห้างสาขา 61 แห่ง เนื้อที่ของห้างประมาณ 500,000 ตร.ม.
- ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร อาหารไทย จากนั้นนาท่านเดินทางเข้าสู่ที่พักโรงแรม HILTON PARIS CHARLES DE GAULLE AIRPORT HOTEL หรือเทียบเท่า
Day 11 : สนามบินปารีส
- เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านเดินทางสู่สนามบิน ชาลล์ เดอ โกล เพื่อเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ
- 13.40 น. ออกเดินทางจากปารีส สู่ กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ TG931
Day 12 : กรุงเทพฯ
- 05.55 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ
*หมายเหตุ การเดินทางเข้าราชอาณาจักรไทย ในช่วงแพร่ระบาดของโรค Covid-19 ท่านจะต้องจองโรงแรม ASQ (การกักตัวแบบทางเลือก) หรือภูเก็ตแซนด์บอกซ์ โดยท่านต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง (ไม่รวมในค่าทัวร์) ให้จองห้องพักตรงกับโรงแรมฯ เมื่อทราบวันที่เดินทางถึงประเทศไทย (ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงกฏเกณท์โดยรัฐได้ตามความเหมาะสม) *** โปรแกรมทัวร์อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงเวลาของสายการบิน / สภาวะทางอากาศซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ ทางบริษัทฯ จะยึดถือผลประโยชน์ของ ผู้เดินทางเป็นสำคัญ โปรแกรมนี้จัดขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์การท่องเที่ยวเป็นหลัก ทางบริษัททัวร์ จะไม่รับผิดชอบกรณีที่ผลการตรวจเชื้อ Covid-19 เป็นบวก ซึ่งทำให้ท่านไม่สามารถขึ้นเครื่องได้ ตามกฎของทางสายการบิน และจะไม่รับผิดชอบจากผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นจากการฉีดวัคซีน***
Go Together Travel เราชำนาญเรื่องเที่ยวมากว่า 15 ปี
รับจัดกรุ้ปส่วนตัว กรุ้ปสัมมนา ในแบบและเส้นทางที่คุณเลือกได้
โทร 02-2146088
http://www.gotogethertravel.com/
Facebook : Gotogethertravel
Line : @gotogethertravel

FRANCE BEAUTIFUL SMALL VILLAGES 12 วัน
DEPARTURE/RETURN LOCATION | สนามบินสุวรรณภูมิ (ฺBKK) | |||||||||
DEPARTURE TIME | โปรดเดินทางมาถึงอย่างน้อย 2 – 3 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง | |||||||||
INCLUDED |
|
|||||||||
NOT INCLUDED |
|
|||||||||
การชำระเงิน | ท่านสามารถโอนเงินเข้ำบัญชีของบริษัทฯ ดังรำยละเอียดดังนี้![]() |
|||||||||
การยกเลิก และการเปลี่ยนแปลง |
|
|||||||||
ข้อมูลเกี่ยวกับวีซ่า |
เอกสารประกอบการขอวีซ่า (ใช้เวลายื่น 15 วันทำการ) 1. หนังสือเดินทาง (Passport) หนังสือเดินทาง ต้องมีหน้าเหลือสำหรับประทับวีซ่าอย่างน้อย 2 หน้าต้องมีอายุการใช้งานเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน นับจากหลังวันเดินทาง หนังสือเดินทางห้ามชำรุด หรือขีดเขียนใดๆทั้งสิ้นภายในหนังสือเดินทาง (สำหรับท่านที่มีหนังสือเดินทางเล่มเก่า กรุณานำมาประกอบการยื่นวีซ่าด้วย เพื่อความสะดวกในการพิจารณาวีซ่าของท่าน) 2. รูปถ่าย รูปถ่ายสีหน้าตรงขนาด 1.5 x 2 นิ้ว จำนวน 2 ใบ (สัดส่วนใบหน้าโดยละเอียดเฉพาะใบหน้าสูง 3 ซม. วัดจากหน้าผากถึงคาง***) (ใช้รูปสีพื้นหลังขาวเท่านั้น ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือนและต้องไม่ซ้ำกับรูปวีซ่าที่มีในเล่ม สติ๊กเกอร์ใช้ไม่ได้, ห้ามสวมแว่นตาหรือเครื่องประดับ) และกรุณาเขียนชื่อ-นามสกุลตัวบรรจงไว้ด้านหลังรูป และให้ประกบด้านหน้าเข้าหากัน (กรุณาอย่าให้รูปเลอะหมึก และอย่าให้รูปมีรอยลวดเย็บกระดาษ เพราะสถานฑูตจะไม่รับรูปแบบนี้ ท่านอาจจะต้องถ่ายใหม่) 3. สำเนาทะเบียนบ้าน/บัตรประชาชน หรือ สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้าเคยเปลี่ยน) 4. หลักฐานการเงิน – กรณีผู้เดินทางออกค่าใช้จ่ายเอง ใช้ Bank Statement บัญชีออมทรัพย์ ย้อนหลัง 6 เดือน ของผู้เดินทาง ขอจากทางธนาคารเท่านั้น ต้องเป็น Statement ตัวเต็มจากธนาคารเท่านั้น ไม่ใช่สำเนาจากสมุดบัญชี และ อัพเดทไม่เกิน 15 วันหรืออยู่ในเดือนที่ยื่นวีซ่าสถานทูตไม่รับพิจารณาบัญชีกระแสรายวัน และสถานทูตไม่รับพิจารณาบัญชีฝากประจำ – กรณีผู้เดินทางไม่ได้ออกค่าใช้จ่ายเอง ใช้สำเนา Bank Statement บัญชีออมทรัพย์(ของผู้ที่ออกค่าใช้จ่าย) ย้อนหลัง 6 เดือน 5. หลักฐานการทำงาน(ภาษาอังกฤษและมีอายุ 1 เดือน นับย้อนหลังจากวันนัดสัมภาษณ์) – กรณีเป็นพนักงาน หนังสือรับรองการทำงานจากบริษัทฯ ระบุตำแหน่ง, เงินเดือน, วันเริ่มทำงานและช่วงเวลาที่อนุมัติให้ลาหยุด ต้องสะกดให้ตรงตามหน้าพาสปอร์ต – กรณีเจ้าของกิจการ สำเนาใบทะเบียนการค้าและหนังสือรับรองการจดทะเบียนที่มีชื่อของผู้เดินทางเป็นกรรมการหรือหุ้นส่วน พร้อมทั้ง เซ็นชื่อรับรองสำเนาและประทับตราบริษัทฯ (อายุสำเนาไม่เกิน 3 เดือน) – กรณีเป็นนักเรียน หรือ นักศึกษา ใช้หนังสือรับรองจากทางโรงเรียนหรือสถาบันที่กำลังศึกษาอยู่ (สถานทูตไม่รับเอกสารที่เป็นบัตรนักเรียน ไม่ว่าเป็นช่วงปิดเทอม และต้องมีอายุ 1 เดือน นับย้อนหลังจากวันนัดสัมภาษณ์) ต้องสะกดชื่อ-สกุล ให้ตรงตามหน้าพาสปอร์ต 6. กรณีที่เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี ขอสำเนาสูติบัตร กรณีเด็กไม่ได้เดินทางพร้อมผู้ปกครอง (กรุณาขอ 2 ฉบับ เพื่อสำหรับยื่นวีซ่า 1 ฉบับ และอีก 1 ฉบับ รบกวนเตรียมมาวันเดินทางสำหรับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองที่สนามบิน) – หากเด็กเดินทางไปกับบิดาจะต้องมีใบรับรองจากมารดา โดยมารดาจะต้องคัดจดหมายยินยอมให้บุตรเดินทางไปต่างประเทศกับมารดาโดยมีการรับรองค่าใช้จ่ายพร้อมแจ้งความสัมพันธ์และยินดีชดเชยค่าเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นโดยคัดฉบับจริงจากอำเภอต้นสังกัด พร้อมฉบับแปลภาษาอังกฤษ พร้อมทั้งแนบสำเนาบัตรประชาชนหรือหน้าพาสปอร์ตมารดามาด้วย – หากเด็กเดินทางกับมารดาจะต้องมีใบรับรองจากบิดา โดยบิดาจะต้องคัดจดหมายยินยอมให้บุตรเดินทางไปต่างประเทศกับมารดาโดยมีการรับรองค่าใช้จ่ายพร้อมแจ้งความสัมพันธ์และยินดีชดเชยค่าเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นโดยคัดฉบับจริงจากอำเภอต้นสังกัด พร้อมทั้งแนบสำเนาบัตรประชาชนหรือหน้าพาสปอร์ตบิดามาด้วย – หากเด็กไม่ได้เดินทางทั้งกับบิดาและมารดา โดยบิดาและมารดาจะต้องคัดจดหมายยินยอมให้บุตรเดินทางไปต่างประเทศกับใคร โดยมีการรับรองค่าใช้จ่ายพร้อมแจ้งความสัมพันธ์และยินดีชดเชยค่าเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นโดยคัดฉบับจริงจากอำเภอต้นสังกัด พร้อมทั้งแนบสำเนาบัตรประชาชนหรือหน้าพาสปอร์ตบิดาและมารดามาด้วย พร้อมทั้งแนบสถานะทางการงานและการเงินของบิดาหรือมารดาเพื่อรับรองแก่บุตรด้วย – กรณีเด็กที่บิดา-มารดาหย่าร้าง จะต้องแนบสำเนาใบหย่า และมีการสลักหลังโดยมีรายละเอียดว่าฝ่ายใดเป็นผู้ดูแลบุตรแต่เพียงผู้เดียว – กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี บิดา-มารดาลงชื่อรับรองในแบบฟอร์มสมัครวีซ่า 7. กรณีสมรสแล้ว สำเนาทะเบียนสมรส, สำเนาใบหย่า หรือ สำเนาใบมรณะบัตร (กรณีคู่สมรสเสียชีวิต) เอกสารยื่นวีซ่าอาจมีการปรับเปลี่ยนและขออัพเดทเพิ่มเติมได้ทุกเวลา หากทางสถานทูตแจ้งขอเพิ่มเติม *** ทางสถานทูตไม่ให้ดึงเล่มพาสปอร์ตในทุกกรณี หากลูกค้าจำเป็นต้องใช้พาสปอร์ตเดินทางในช่วงที่ยื่นวีซ่ากรุ๊ป ลูกค้าจะต้องไปแสดงตัวยื่นวีซ่าเดี่ยวเท่านั้นและต้องแนบตั๋วที่จะเดินทางก่อนหน้า เพื่อแจ้งให้สถานทูตรับทราบ ***1 |
|||||||||